คูมันชูแทร์ชเตเก้นสุดเหนียวพาบาร์เซโลน่าเฉือนเคียฟ

โรนัลด์ คูมัน กุนซือ บาร์เซโลน่า ให้เครดิต มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น ที่ทำให้ทีมชนะ เคียฟ มาได้หวุดหวิด พร้อมบอกว่าเกมนี้ทีมของตนเริ่มต้นได้ดี เพียงแต่ยังมีข้อเสียที่ไม่สามารถทำลูกที่ 2 ได้เร็วพอ

    โรนัลด์ คูมัน เทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า ยอดสโมสร สล็อต ได้เงินจริง ของศึก ลา ลีกา สเปน กล่าวยกย่อง มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น ผู้รักษาประตูชาวเยอรมันว่าทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนถึงขั้นเป็นคนที่สำคัญที่สุดที่ช่วยให้ทีมเปิดรัง คัมป์ นู เอาชนะ ดินาโม เคียฟ 2-1 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม จี เมื่อวันพุธที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

    เกมนี้ บาร์เซโลน่า ได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 5 จากลูกจุดโทษของ ลิโอเนล เมสซี่ แต่หลังจากนั้นทีมเยือนมีโอกาสตีเสมอได้เหมือนกัน ยังดีที่ แทร์ ชเตเก้น เซฟสวยๆ ได้หลายหน แถมนี่ถือเป็นการลงเล่นครั้งแรกของเขาในฤดูกาลนี้ด้วย หลังจากก่อนหน้านี้เจ็บตรงหัวเข่าจนต้องพักไปนาน โดยเจ้าถิ่นมาได้ลูกที่ 2 จาก เคราร์ด ปิเก้ ในนาทีที่ 65 และถึงแม้ทีมเยือนจะไล่ขึ้นมาได้ในนาทีที่ 75 จาก วิคตอร์ ซิกันคอฟ แต่ก็ได้แค่นั้น

    "เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นผู้รักษาประตูชั้นยอดสำหรับเรา เขาซ้อมได้ดีตลอดช่วงที่ผ่านมา และวันนี้เราก็ได้เห็นถึงเรื่องนั้นกันแล้ว เราเริ่มเกมได้ดีและขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว แต่เราไม่สามารถทำลูกที่ 2 ได้เร็วพอ และก็เสียการครองเกมไป อย่างไรก็ตาม มันก็ต้องขอบคุณ มาร์ค ที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมมากๆ และทำให้เรายังไม่เสียประตูให้คู่แข่ง (ก่อนจะทำลูกที่ 2 ได้)" คูมัน ระบุ

โชต้า-ฟีร์มีโน่?บาร์นส์ชี้ใครควรตัวจริงนัดหน้า

จอห์น บาร์นส์ ชี้ เกมที่ ลิเวอร์พูล มีคิวไปเยือน แมนฯ ซิตี้ นั้น คนที่ควรได้ลงเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าคือ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เพราะสไตล์ของดาวเตะชาวบราซิเลียนเหมาะกับเกมแบบนี้มากกว่า ดีโอโก้ โชต้า พร้อมเชื่อว่าต่อให้ ฟีร์มีโน่ จะไม่สามารถทำประตูได้มากนัก แต่มันก็จะไม่ส่งผลกับตำแหน่งของเจ้าตัวในทัพ "หงส์แดง"

    จอห์น บาร์นส์ ตำนานปีกของ ลิเวอร์พูล ASIAXX1 แสดงความเชื่อว่า โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กองหน้าชาวบราซิเลียน สมควรได้ลงเป็นตัวจริงมากกว่า ดีโอโก้ โชต้า ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ "หงส์แดง" มีคิวไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายนนี้

    โชต้า กำลังฟอร์มร้อนแรงหลังทำประตูได้ 4 นัดติดต่อกัน โดยล่าสุดถึงขั้นทำแฮตทริกได้ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี นัดที่ ลิเวอร์พูล บุกไปถล่ม อตาลันต้า 5-0 จนทำให้ซีซั่นนี้เขายิงไปแล้ว 7 ลูกจากการลงเล่น 10 นัดในทุกรายการ สวนทางกับ ฟีร์มีโน่ ที่เพิ่งทำได้ 1 ประตูจากการลงสนามในทุกรายการ 11 นัด ซึ่งมันก็เริ่มทำให้มีคนมองว่าตอนนี้หัวหอกชาวโปรตุกีสสมควรได้เป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง

    บาร์นส์ กล่าวว่า "จริงอยู่ว่า โชต้า ทำแฮตทริกได้ แต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะได้เป็นตัวจริงในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ ทันทีสักหน่อย ผมคิดว่าการที่ใครจะได้เล่นน่ะมันขึ้นอยู่กับว่าทีมจะเจอกับเกมแบบไหน, คู่แข่งคือใคร และคู่แข่งที่ว่าจะเล่นแบบไหน ในการเจอกับ แมนฯ ซิตี้ คุณจะไม่มีโอกาสได้ครองบอลมากนัก ซึ่งนั่นก็อาจจะทำให้ ฟีร์มีโน่ เป็นทางเลือกที่ดูดีกว่า คุณต้องพึ่งนักเตะแบบ ฟีร์มีโน่ โดยมันไม่ใช่แค่เพราะเขาสามารถพักบอลในแดนหน้าได้เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเขาสามารถช่วยเกมรับได้ด้วย"

    "ถ้าคุณเจอกับทีมอย่าง อตาลันต้า หรือ ลีดส์ ที่เปิดเกมรุกแบบเต็มตัวมากกว่าแล้วล่ะก็ มันก็มีโอกาสที่ โชต้า จะได้ลงเล่นในเกมเหล่านั้น ก็เหมือนกับกรณีของ ติอาโก้ นั่นแหละ ถ้าคุณเจอกับ แมนฯ ซิตี้ คุณก็ไม่จำเป็นต้องส่งนักเตะแบบ ติอาโก้ ลงเล่นเลย เพราะคุณต้องใช้งานคนอย่าง (จอร์จินโย่) ไวจ์นัลดุม, (จอร์แดน) เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ ที่เล่นเกมรับได้ดีกว่าเขา"

    "ผมคิดว่าฤดูกาลนี้ คล็อปป์ จะทำการปรับเปลี่ยนตัวจริงหลายครั้ง และมันไม่ได้เป็นเพราะเขารู้สึกว่าใครทำผลงานได้ดีกว่า แต่เป็นเพราะเขาต้องเจอกับใครซะมากกว่า การที่ ฟีร์มีโน่ ทำประตูได้ไม่มากนักจะทำให้เขาหลุดจากตัวจริงรึเปล่าน่ะเหรอ ? คือสาเหตุที่ มาเน่ กับ ซาลาห์ ทำประตูได้เยอะขนาดนี้มันก็เป็นเพราะแนวทางการเล่นของ บ็อบบี้ นั่นแหละ"

    "ถ้าเกิด โชต้า ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแล้วล่ะก็ ซาลาห์ กับ มาเน่ อาจจะไม่สามารถทำประตูได้มากขนาดนี้ก็ได้ ถึงแม้ทั้งคู่จะยิงได้เมื่อคืนก่อนก็เถอะ ดังนั้นผมเลยไม่คิดว่าการที่เขาจะได้เป็นตัวจริงหรือไม่มันจะขึ้นอยู่กับการทำประตูของเขา ถึงแม้หลายคนจะบอกว่า -ฟีร์มีโน่ เป็นกองหน้าตัวเป้าของ ลิเวอร์พูล- แต่หลักๆ แล้วคนที่ทำประตูจริงๆ คือ มาเน่ กับ ซาลาห์ มากกว่า ส่วน ฟีร์มีโน่ สร้างประโยชน์ให้ทีมมากกว่าแค่เรื่องการทำประตู ถ้าสุดท้ายแล้วเราจบฤดูกาลด้วยการมีคะแนนมากกว่าทุกทีมสัก 20 แต้ม โดยที่เขา (ฟีร์มีโน่) ทำประตูไม่ได้เลยน่ะ ผมก็ไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องนั้น (หมายถึงการที่ ฟีร์มีโน่ ยิงไม่ได้) หรอกนะ และผมเชื่อว่า เจอร์เก้น ก็คงคิดแบบเดียวกัน!"

ต่างกับยุคเฟอร์กี้!เพอร์ซี่ชี้จุดพลาดใหญ่ของแมนยู

โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ อดีตหัวหอกชื่อก้อง ระบุ ในเกมที่แพ้ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ เหล่าขุนพล แมนฯ ยูไนเต็ด ทำพลาดที่ไม่วิ่งและทุ่มเทกันเท่าไหร่ โดยบอกว่าสมัยที่ตนยังอยู่กับทีมนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยเน้นเลยว่าต่อให้จะแพ้ก็ไม่เป็นไร แต่ทุกคนต้องทุ่มเทด้วยการวิ่งให้มากกว่าคู่แข่ง

    โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ อดีตกองหน้าคนดังตำหนินักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่วิ่งและทุ่มเทมากเท่าที่ควร ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช นัดที่ "ปีศาจแดง" ออกไปแพ้ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ 1-2 เมื่อวันพุธที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

    ก่อนลงเล่นเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีสถานการณ์ในการเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ดีกว่าอีกฝ่ายเยอะ เมื่อพวกเขาชนะได้ทั้ง 2 นัด ขณะที่ บาซัคเซเฮียร์ แพ้มาทั้ง 2 เกม แต่กลับกลายเป็นว่าสุดท้ายแล้วทีมของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ต้องกลับบ้านแบบมือเปล่า และทำให้พวกเขาแพ้ 2 นัดติดต่อกันในทุกรายการ

    ฟาน เพอร์ซี่ กล่าวว่า "พวกเขาขาดสิ่งที่เรียกว่าความทุ่มเทแบบเร่งด่วน สมัยที่ผมอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่ะนะ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยพูดว่า -ฉันไม่มีปัญหาหรอกถ้าเราจะแพ้ตราบใดที่ทีมของฉันไม่วิ่งน้อยกว่าคู่แข่ง ฉันอยากเห็นทีมทุ่มเทกันให้เต็มที่ทั้งตอนขึ้นเกมบุกและตอนเล่นเกมรับ-"

    "วันนี้ผมค่อนข้างมั่นใจเลยว่า บาซัคเซเฮียร์ วิ่งเยอะกว่าที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้ ซึ่งที่จริงมันไม่ควรจะเกิดเรื่องแบบนี้ไม่ว่าจะกับเกมไหนก็ตาม มันไม่เกี่ยวกับเรื่องคุณภาพหรือความสามารถเลย มันเกี่ยวกับเรื่องอื่น คุณต้องทุ่มเทและมีความมุ่งมั่นกับการเล่นแบบ 100 เปอร์เซ็นต์"