จัดทีมรวมดาวดังทีมชาติอังกฤษ มูลค่าทะลุพันล้าน
- aywutwork2020
- 11 มิ.ย. 2563
- ยาว 4 นาที

ชั่วโมงนี้แข้งจากเกาะอังกฤษต่างมีค่าตัวที่สูงลิบ โดยเฉพาะเหล่าผู้เล่นดาวรุ่งที่ต่างโชว์ผลงานร้อนแรงจนบางรายมีค่าตัวประเมินเกิน 100 ล้านปอนด์เข้าไปแล้วหากมีการย้ายทีมเกิดขึ้น
เดลี่ เมล สื่ออังกฤษ ได้จัดทำแผนการเล่นของทีมชาติอังกฤษรวมดาวดังที่ได้รับการประเมินค่าตัวแพงที่สุดในแต่ละตำแหน่ง ตามการวิเคราะห์จาก ซีไออีเอส ฟุตบอล อ็อบเซิร์ฟวาทอรี่ (CIES Football Observatory) หน่วยงานวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับวงการฟุตบอล ซึ่งมีมูลค่ารวมกันแล้วทะลุ 1000 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว ส่วนจะมีหน้าตาออกมาเป็นอย่างไรนั้นไปดูกัน แทงบอลเงินสด
ผู้รักษาประตู : ดีน เฮนเดอร์สัน - 50 ล้านปอนด์ สโมสร : เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (ยืมตัว), แมนฯ ยูไนเต็ด แม้ตำแหน่งผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษในเวลานี้จะเป็น จอร์แดน พิคฟอร์ด แต่นายด่านอีกรายที่โชว์ฟอร์มได้ดีไม่แพ้กันคือ เฮนเดอร์สัน แข้งจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ปล่อยให้ เชฟฟิลด์ฯ ยืมใช้งาน แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวกำลังมีอนาคตที่ยังไม่ชัดเจนว่า "ปีศาจแดง" จะเรียกกลับคืนทีมในซีซั่นหน้า หรือปล่อยยืมต่ออีกหนึ่งซีซั่น โดยเชื่อว่า เฮนเดอร์สัน จะมีค่าตัวราว 50 ล้านปอนด์ หากมีการย้ายทีมเกิดขึ้น
แบ็กซ้าย : เบน ชิลเวลล์ - 85 ล้านปอนด์ สโมสร : เลสเตอร์ ซิตี้
ดาวเตะวัย 23 ปี เป็นหนึ่งในแข้งจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ที่แจ้งเกิดจนกลายเป็นแข้งเนื้อหอมสุดๆในเวลานี้ โดยตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับทั้ง เชลซี และ แมนฯ ซิตี้ ที่จ้องกระชากตัวไปร่วมทีม พร้อมกับกลายเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ไปแล้วด้วย ชิลเวลล์ นั้นทำผลงานได้อย่างสุดยอดกับทัพ "จิ้งจอก" ได้อย่างสม่ำเสมอ และแน่นอนว่าค่าตัวของเขาจะไม่ใช่น้อยๆ ซึ่งจะทำเงินมหาศาลให้กับ เลสเตอร์ ในระดับที่ใกล้เคียงกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ย้ายไปอยู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ในราคา 80 ล้านปอนด์ อย่างแน่นอน
เซ็นเตอร์ : แฮร์รี่ แม็กไกวร์ - 52 ล้านปอนด์ สโมสร : แมนฯ ยูไนเต็ด
แมนฯ ยูไนเต็ด ทุ่มงบมหาศาลดึง แม็กไกวร์ มาจาก เลสเตอร์ ด้วยราคาสูงถึง 80 ล้านปอนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว แต่จากการประเมินค่าตัวของ ซีไออีเอส ในปัจจุบันเขาจะมีค่าตัวราว 52 ล้านปอนด์เท่านั้น ดาวเตะวัย 27 ปี ย้ายมาช่วยให้ "ปีศาจแดง" มีแนวรับที่แกร่งขึ้น พร้อมกับเป็นตัวหลักให้ทีมชาติอังกฤษไปเรียบร้อยในตำแหน่งเซ็นเตอร์ UFA23
เซ็นเตอร์ : เดแคลน ไรซ์ - 57 ล้านปอนด์ สโมสร : เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด
มิดฟิลด์วัย 21 ปี ทำผลงานยอดเยี่ยมได้กับทัพ "ขุนค้อน" จนเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นอนาคตของทีมชาติอังกฤษได้ต่อไป ความยอมเยี่ยมของ ไรซ์ ทำให้เขาตกเป็นข่าวกับหลายทีมชั้นนำทุกช่วงซัมเมอร์ โดย ซีไออีเอส ประเมินค่าตัวไว้ที่ 57.4 ล้านปอนด์ แต่เชื่อว่าเมื่อเขาย้ายทีมจริงๆแล้ว เวสต์ แฮม อาจจะโก่งค่าตัวไปสูงถึง 70 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
แบ็กขวา : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ - 152 ล้านปอนด์ สโมสร : ลิเวอร์พูล
ตำแหน่งแบ็กขวาทีมาติอังกฤษเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่มีการแข่งขันที่สูงมากทั้ง อาร์รอน วาน-บิสซาก้า, รีช เจมส์, ไคล์ วอล์คเกอร์ และ คีแรน ทริปเปียร์ แต่ถึงกระนั้นเวลานี้ต้องยกให้กับเจ้าหนูเทรนท์ หลังทำผลงานสุดยอดจนได้รับการประเมินค่าตัวไปสูงถึง 152 ล้านปอนด์เข้าไปแล้ว
มิดฟิลด์ : เจมส์ แมดดิสัน - 58 ล้านปอนด์ สโมสร : เลสเตอร์ ซิตี้
อีกหนึ่งแข้งจาก เลสเตอร์ ที่ตกเป็นข่าวย้ายทีมอย่างต่อเนื่อง หลังจากทำผลงานโดดเด่นพร้อมกลายเป็นตัวเลือกในแผงแนวรุกอันดับต้นๆที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษเรียกติดทีมไปใช้งาน โดยคาดว่าเขาจะมีค่าตัวราว 58 ล้านปอนด์
มิดฟิลด์ : เดเล่ อัลลี - 69 ล้านปอนด์ สโมสร : สเปอร์ส
อีกหนึ่งตำแหน่งที่มีการแข่งขันกันสูงมากในทีมชาติอังกฤษ โดยเจ้าของตำแหน่งเดิมนั้น อัลลี่ เป็นตัวหลักมาโดยตลอด แต่ชั่วโมงนี้เจ้าตัวก็มีโอกาสจะเสียตำแหน่งเช่นกันหลังมีผลงานที่ดร็อปลงไป โดยมีคู่แข่งทั้ง เดแคลน ไรซ์, เจมส์ แมดดิสัน และ เมสัน เมาท์น
มิดฟิลด์ : เมสัน เมาท์น - 91 ล้านปอนด์ สโมสร : เชลซี
แม้จะเพิ่งย้ายกลับมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ เชลซี เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ แต่ดาวเตะวัย 21 ปี กลับสร้างเซอร์ไพร์ส ทำผลงานน่าประทับใจจนกลายเป็นแกนหลักให้ทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ไปเรียบร้อย และใครจะเชื่อว่า เมาท์น ถูกประเมินค่าตัวไว้สูงถึง 91 ล้านปอนด์
ปีกซ้าย : ราฮีม สเตอร์ลิง - 173 ล้านปอนด์ สโมสร : แมนฯ ซิตี้
ปีกจาก "เรือใบสีฟ้า" เป็นกำลังสำคัญให้ทั้งต้นสังกัด และทีมชาติอังกฤษ มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเป็นเจ้าของค่าตัวประเมินมากสุดของทีมชาติอังกฤษเวลานี้แล้ว พร้อมกับแพงสุดเป็นอันดับสองของโลกรองจาก คีลียีน เอ็มบั๊ปเป้ ดาวยิงจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง
กองหน้า : มาคัส แรชฟอร์ด - 136 ล้านปอนด์ สโมสร : แมนฯ ยูไนเต็ด
อาจเป็นเรื่องน่าแปลกใจเล็กน้อยที่ แรชฟอร์ด มีชื่อติดโผก่อน แฮร์รี่ เคน ของ สเปอร์ส แต่เมื่อวัดจากมูลคาการตลาดในตอนนี้ดาวยิงจาก "ปีศาจแดง" มากกว่า หัวหอกจาก "ไก่เดือยทอง" ประมาณ 30 ล้านปอนด์ ตามการประเมินล่าสุดของ ซีไออีเอส
ปีกขวา : เจดอน ซานโช่ - 159 ล้านปอนด์ สโมสร : ดอร์ทมุนด์
ซานโช่ กลายเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่เนื้อหอมมากที่สุดในตอนนี้แล้ว หลังไปแจ้งเกิดได้กับ ดอร์ทมุนด์ ในบุนเดสลีกา และมีโอกาสสูงที่จะได้ย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ท่ามกลางความสนใจจากบรรดาทีมชั้นนำ
ส่วนอนาคตกับทีมชาติของเขาก็ค่อนข้างสดใสและน่าจะยึดตำแหน่งตัวจริงได้ในระยะยาวหากยังรักษาฟอร์มเก่งแบบนี้ต่อไป โดยดาวเตะวัย 20 ปี ได้รับการประเมินค่าตัวอยู่ที่ราว 159 ล้านปอนด์
เนวิลล์เผยอดีตแข้งเชลซีทำเฟอร์กี้หลงรัก

เด็กเก่า แมนฯ ยูไนเต็ด เผย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รักอดีตสตาร์ เชลซี รายหนึ่งเป็นพิเศษ และให้ความเคารพอย่างมาก หลังเข้ามาทำผลงานได้เยี่ยมในลีกอังกฤษ และเป็นสุภาพบุรุษลูกหนัง
ฟิล เนวิลล์ อดีตกองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" ชื่นชอบ จานฟรังโก้ โซล่า อดีตกองหน้า เชลซี เป็นอย่างมาก ถึงขนาดจัดแท็กติกพิเศษเป็นประจำมารับมือเวลาเจอกับ "สิงห์บลูส์" เลยทีเดียว
ดาวเตะอิตาเลียน ย้ายจาก ปาร์ม่า มาเล่นให้ เชลซี เมื่อปี 1996 และค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ นาน 7 ปี ยิงในลีกไป 59 ประตูจาก 229 นัด รวมทั้งชอบซัดใส่ "ปีศาจแดง" อีกด้วย แถมการเจอกันนัดแรกของทั้งสองทีมที่ โซล่า ลงสนาม ก็ใช้เวลาแค่ 2 นาทีเท่านั้นในการเบิกสกอร์ เนวิลล์ เผยถึงเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี 3-2 เมื่อฤดูกาล 1999/2000 ว่า "พวกเราคว้าแชมป์ลีกแล้ว ดังนั้นพวกเราจึงผ่อนคลายได้ ผู้จัดการทีมส่งตัวสำรองบางคนลงเล่น แต่สิ่งหนึ่งเกี่ยวกับการเจอ เชลซี มันมีความเคารพอย่างไม่น่าเชื่อที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีให้กับ จานฟรังโก้ โซล่า เฟอร์กี้รักเขา"
"ในเรื่องของตำแหน่งการเล่น เขาคล้ายกับ เอริก คันโตน่า แต่ยังมีในเรื่องของผลกระทบต่อฟุตบอลอังกฤษ เขามักทำให้เกมยากลำบากเสมอ มี 2 หนที่ผมต้องตามประกบเขา หนึ่งหนในเกม เอฟเอ คัพ จนกระทั่ง นิคกี้ บัตต์ โดนไล่ออก ทำให้ผมรู้ว่า เขาเก่งขนาดไหน"
"เขามีรูปร่างเล็ก ทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ แถมยังเล่นได้ดีทั้งสองเท้าอีกด้วย นอกจากนั้น เขายังเป็นสุภาพบุรุษอีกต่างหาก เมื่ออยู่ในสนามเขาเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ" เนวิลล์ กล่าวในที่สุด
เซเตียนเผยความพร้อมเมสซี่-ซัวเรซก่อนรีสตาร์ท

แฟนบอล บาร์ซ่า ต้องไปฟัง กีเก้ เซเตียน อัพเดตความพร้อมของ ลิโอเนล เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ ก่อน ลา ลีกา รีสตาร์ท สัปดาห์นี้
กีเก้ เซเตียน กุนซือ บาร์เซโลน่า มั่นใจว่า ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าคนเก่ง จะพร้อมลงสนามช่วยทีมในเกมบุกไปเยือน เรอัล มายอร์ก้า วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นนัดแรกของทีมในการรีสตาร์ท หลังต้องระงับเตะไปนานถึง 3 เดือน เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
เมสซี่ มีปัญหาบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นขาขวาหลังปะทะกับเพื่อนร่วมทีมในการฝึกซ้อม ทำให้หวั่นกันว่า อาจจะไม่ได้ลงเจอ มายอร์ก้า อย่างไรก็ตาม กัปตันทีมชาวอาร์เจนไตน์ กลับมาซ้อมแบบเต็มรูปแบบได้แล้วตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา
เซเตียน เผยผ่าน กาเดน่า โกเป สื่อเมืองกระทิงดุว่า "พวกเราไม่เคยสงสัยเลยกับความพร้อมของ เมสซี่ ในเกมพบ มายอร์ก้า เขาสบายดีแล้ว เขาเจ็บแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่มันมีปัญหาอื่นหลังหยุดพักเบรกไปนาน เขาต้องหยุดซ้อมก็เพื่อป้องการไว้ก่อนเท่านั้น หากเราเสี่ยงกับนักเตะโดยไม่จำเป็น พวกเขาอาจจบด้วยการพัก 2 สัปดาห์ และนั่นหมายความพวกเขาอาจจะต้องพลาดลงเล่น 4 เกมจาก 11 นัดที่เหลือ"
พร้อมกันนี้ เซเดียน ยังแย้มว่า หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าอุรุกวัย ที่ผ่านการผ่าตัดหัวเข่าเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา อาจจะไม่ได้เล่นเต็ม 90 นาทีในเกมพบ มายอร์ก้า หลังเพิ่งกลับมาซ้อม
"ผมมั่นใจว่า เขาจะลงเล่นได้ แต่มันคงเร็วเกินไปสำหรับเขาที่จะลงเล่นได้ตลอดทั้งเกม เขากำลังทำได้ดี แต่เราต้องไม่เสี่ยง เวลานี้ทุกคนตื่นเต้นที่จะได้ลงเล่นอีกครั้ง หลังพักยาวมาถึง 3 เดือน" นายใหญ่ บาร์ซ่า ทิ้งท้าย
5ประเด็นน่าสนใจก่อนลาลีการีสตาร์ทพฤหัสฯนี้

เปิด 5 ประเด็นน่าสนใจก่อน ลา ลีกา สเปน รีสตาร์ทวันพฤหัสบดีนี้ ทั้งการแย่งแชมป์ที่ดุเดือดระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด หรือศึกหนีตายที่หลายทีมยังต้องลุ้นกันอยู่
ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน จะกลับมาเริ่มแข่งกันต่อในวันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายนนี้ ด้วยคู่ของ เซบีย่า พบ เรอัล เบติส หลังต้องระงับไปนานถึง 3 เดือน เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
การกลับมาของลีกสูงสุดแดนกระทิงดุ ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวดีของบรรดาแฟนบอล และนี่คือ 5 ประเด็นน่าสนใจก่อนรีสตาร์ท
1. เตะกันถี่ยิบ-บรรยากาศไม่เหมือนเดิม
หลังเริ่มเตะกันในวันพฤหัสบดีนี้แล้ว ลา ลีกา จะไล่เตะกันแทบทุกวันในช่วง 5 สัปดาห์ต่อจากนี้ ทำให้จะมีเกมการเล่นถึง 110 นัดภายในช่วงเวลาแค่ 39 วันเท่านั้น นอกจากนั้น ทุกเกมที่เหลือของซีซั่นยังจะต้องเตะกันแบบไม่มีแฟนบอลเข้ามาชมเกมในสนามเหมือนกับลีกอื่นๆ อย่าง บุนเดสลีกา, พรีเมียร์ลีก และ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี จากการที่ไม่มีแฟนบอลเข้ามาเชียร์ ทำให้ความได้เปรียบของเจ้าบ้านลดลงไปเยอะ ขณะที่ เรอัล มาดริด เตรียมเปลี่ยนมาใช้ เอสตาดิโอ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน ในศูนย์ฝึกซ้อม เป็นสนามเหย้าชั่วคราว เพราะ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว อยู่ระหว่างทำการปรับปรุง
2. ศึกแย่งแชมป์ดุเดือด
ก่อนที่ ลา ลีกา จะพักเตะไปนั้น บาร์เซโลน่า นำเป็นจ่าฝูง มี 58 คะแนน จาก 27 นัด ขณะที่ เรอัล มาดริด ไล่จี้ตามมาเป็นอันดับสองมี 56 คะแนน จาก 27 นัด การแย่งแชมป์คงเหลือแค่ 2 ทีมนี้เท่านั้นแล้ว เพราะ เซบีย่า ทีมอันดับ 3 เพิ่งมีแค่ 47 คะแนนจาก 27 เกม ขณะที่ แอตเลติโก มาดริด ในซีซั่นนี้ทำผลงานไม่ค่อยดีมี 45 คะแนน อยู่อันดับ 6 ของตาราง
3. สตาร์หลายรายหายเจ็บกลับมา
บาร์ซ่า ได้รับข่าวดี หลัง หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าตัวเก่ง หายเจ็บกลับมาซ้อมแล้ว และน่าจะพร้อมลงสนามช่วยทีมในเกมนัดแรกที่จะพบ เรอัล มายอร์ก้า วันเสาร์ที่ 13 มิ.ย. นี้ ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย พลาดลงสนามตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้ารับการผ่าตัดที่หัวเข่า และพักยาวตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยตอนแรกคาดว่า จะหมดโอกาสลงเล่นซีซั่นนี้ แต่เพราะโควิด-19 ทำให้ลีกเลื่อนเลยส่งผลให้ ซัวเรซ หายทันช่วยทีมช่วงที่เหลือของฤดูกาล ขณะที่ เรอัล มาดริด ก็ได้ข่าวดีเช่นกัน หลัง เอเด็น อาซาร์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม กลับมาลงซ้อมแล้วหลังผ่าตัดข้อเท้า ทำให้น่าจะมีโอกาสลงช่วยทีมในเกมเจอ เออิบาร์ วันอาทิตย์ที่ 14 มิ.ย. นี้
4. พื้นที่แย่งชิงตั๋วไปยุโรประอุ
การลุ้นแชมป์ปล่อยให้ บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด แย่งกันไป แต่โควตาอีก 2 ทีมที่จะได้ไปเล่นถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้า ก็แย่งชิงดุเดือดไม่แพ้กัน ในเวลานี้ เซบีย่า อยู่ที่ 3 มี 47 คะแนน ตามมาด้วย เรอัล โซเซียดาด กับ เคตาเฟ่ ที่มี 46 แต้มเท่ากัน ส่วน แอต.มาดริด อยู่ที่ 6 มี 45 คะแนน ด้าน บาเลนเซีย ตามมาห่างๆ ที่ 42 คะแนน หลังการกลับมาเชื่อว่า ทีมที่มีขนาดใหญ่จะได้เปรียบกว่าทีมเล็กๆ เพราะต้องหมุนเวียนนักเตะกันเล่นบ้างกับโปรแกรมที่เตะกันแบบถี่ยิบ
5. ศึกหนีตายลุ้นหนัก
ไม่น่าเชื่อว่า เวลานี้ เอสปันญ่อล จะรั้งท้ายของตาราง หลังเตะไป 27 นัด เพิ่งมีแค่ 20 คะแนนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม "เจ้านกแก้ว" ยังมีโอกาสรอดตกชั้น เพราะยังไม่โดนทิ้งห่างมากนัก
เลกาเนส เป็นทีมรองบ๊วยมี 23 คะแนน ส่วนที่อยู่เหนือขึ้นไปก็มี เรอัล มายอร์ก้า 25 คะแนน, เซลต้า 26 คะแนน, เออิบาร์ 27 คะแนน และ บายาโดลิด 29 คะแนน
แมนยูร่วงที่6!ซูเปอร์คอมทำนายอันดับพรีเมียร์ฯ

เซฟไว้ดูจะแม่นจริงหรือเปล่า! ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ฟันธงอันดับ พรีเมียร์ลีก โดยแชมป์เป็นของ ลิเวอร์พูล แบบไร้ปัญหา แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะร่วงไปอยู่ที่ 6
สปอร์ติ้ง อินเด็กซ์ บริษัทรับพนันที่ถูกกฎหมายของประเทศอังกฤษ นำซูเปอร์คอมพิวเตอร์มาวิเคราะห์ข้อมูลหาอันดับ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019/20 ก่อนที่จะกลับมาเตะกันอีกครั้งในวันพุธที่ 17 มิถุนายนนี้ หลังหยุดไปนาน 3 เดือนเพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลออกมาว่า ลิเวอร์พูล จะเป็นแชมป์ด้วยการเก็บไป 99 คะแนน ตามมาด้วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 80 คะแนน ส่วน เลสเตอร์ ซิตี้ ได้อันดับ 3 ที่ 70 คะแนน และ เชลซี ได้ที่ 4 มี 63 คะแนน
ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะหล่นไปได้แค่อันดับ 6 โดยโดน เชฟฯ ยูไนเต็ด แซงชนะไปแค่แต้มเดียวเท่านั้น ส่วน 3 ทีมตกชั้นคือ แอสตัน วิลล่า, นอริช ซิตี้ และ วัตฟอร์ด
อันดับ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019/20 จากการวิเคราะห์ของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ทีม คะแนน
1. ลิเวอร์พูล 99 2. แมนฯ ซิตี้ 80 3. เลสเตอร์ 70 4. เชลซี 63 5. เชฟฯ ยูไนเต็ด 61 6. แมนฯ ยูไนเต็ด 60 7. อาร์เซน่อล 59 8. วูล์ฟส์ 58 9. ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 57 10. คริสตัล พาเลซ 52 11. เบิร์นลี่ย์ 51 12. เอฟเวอร์ตัน 51 13. นิวคาสเซิ่ล 48 14. เซาธ์แฮมป์ตัน 45 15. บอร์นมัธ 42 16. ไบรท์ตัน 39 17. เวสต์แฮม 39 18. แอสตัน วิลล่า 39 19. นอริช ซิตี้ 37 20. วัตฟอร์ด 36
ความคิดเห็น