ชีวิตสำคัญกว่าเงิน! "แพทย์ฟีฟ่า" แนะเกมลูกหนังไม่ควรกลับมาแข่ง
- aywutwork2020
- 29 เม.ย. 2563
- ยาว 1 นาที

มิเชล ดีฮูเก้ คณะกรรมการ UFA23 ด้านการแพทย์ของสหพันธ์ฟุตบอบนานาชาติ (ฟีฟ่า) แนะนำเกมแทงบอลเงินสดฟุตบอลไม่ควรรีบกลับมาแข่งในช่วงนี้ แต่น่าจะหวนกลับมาฟาดแข้งในช่วงระหว่างเดือนกันยายน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบ 2
เกมฟุตบอลจำเป็นต้องหยุดแข่งขันชั่วคราว หลังจากโดนพิษการระบาดของเชื้อไวรัสมรณะในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามจากการที่สถานการณ์ต่างเริ่มค่อยๆ คลี่คลายทำให้หลายประเทศเริ่มมีการผ่อนการล็อกดาวน์ ซึ่งนั่นหมายความว่ามีโอกาสที่ฟุตบอลจะกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้ง
ในช่วงที่ผ่านมา บุนเดสลีกา, พรีเมียร์ลีก ได้อนุญาตให้ทุกๆ สโมสรกลับมาลงฝึกซ้อมได้แล้ว แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และมาตรการเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ อย่างเคร่งครัด โดยมีความเป็นไปได้ว่าเกมลูกหนังจะกลับมาฟาดแข่งต่อในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม ดีฮูเก้ ซึ่งเปรียบการแพร่ระบาดของ โควิด-19 เหมือนกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ยืนยันว่าฟุตบอลไม่ควรรีบกลับมาแข่งจนกระทั่งเดือนกันยายนซึ่งเป็นการเริ่มฤดูกาลใหม่ไปเลย "โลกยังไม่พร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอล เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตอนนี้ชีวิตและความตายสำคัญที่สุด"
"สำหรับตอนนี้เป้าหมายสำคัญที่สุดก็คือเรื่องสุขภาพและการแพทย์ นั่นคือเหตุผลที่ผมขอทุกๆ คนว่าต้องระมัดระวังก่อนที่จะเริ่มกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง ผมคงจะมีความสุขถ้าเราไม่ต้องทำอะไรเลยก่อนที่จะเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ ถ้าพวกเขาจะเริ่มซีซั่น 2020/2021 ในเดือนกันยายน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสรอบ 2" ดีฮูเก้ กล่าว
มาแค่ใช้เงิน! "บัตต์" จวกฟานกัล,มูทำลายแมนยูไม่เคยให้โอกาสดาวรุ่ง
นิคกี้ บัตต์ หัวหน้าศูนย์อะคาเดมี่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จวก หลุยส์ ฟาน กัล และ โชเซ่ มูรินโญ่ มากุมบังเหียน "ผีแดง" โดยที่ไร้แผนระยะยาว เน้นแต่การทุ่มเงินซื้อสตาร์มาร่วมทีม สวนทางกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่พยายามดำเนินงานตามวัฒนธรรมสโมสรในการให้โอกาสดาวรุ่ง
นิคกี้ บัตต์ อดีตกองกลางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจ "ปีศาจแดง" ในยุคที่ โชเซ่ มูรินโญ่ และ หลุยส์ ฟาน กัล กุมบังเหียน เป็นช่วงที่ย่ำแย่สุดๆ เพราะ ทั้งสองกุนซือเน้นสร้างทีมในระยะสั้น และใช้เงินมหาศาลในการเซ็นสัญญานักเตะมาร่วมทีม
อดีตมิดฟิลด์เด็กปั้น "เร้ด เดวิลส์" ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็นหัวหน้าศูนย์ฝึกเยาวชนแมนฯ ยูไนเต็ด ช่วยพัฒนานักเตะดาวรุ่งของต้นสังกัดให้ก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่โดยผลงานชิ้นโบว์แดงในเวลานี้ก็คือ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เมสัน กรีนวู้ด
สำหรับในยุคที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุมบังเหียนเขาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าต้องการให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งของทีม มากกว่าในยุคที่ ฟาน กัล กับ มูรินโญ่ ซึ่งทั้งสองคนใช้เงินมหาศาลในการเซ็นสัญญานักเตะมาสู่ถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ฟาน กัล ทุ่มเงินค่าตัว อังเคล ดิ มาเรีย มาด้วยราคา 59.7 ล้านปอนด์ (ราว 2,268 ล้านบาท) ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 ขณะที่ ราดาเมล ฟัลเกา ย้ายมาด้วยสัญญายืมตัว และหลังจากโดนไล่ออกช่วงซัมเมอร์ปี 2016 "เฮียมู" เข้ามาสานต่องาน และก็ทุ่มเงินเป็นสถิติโลกคว้า ปอล ป็อกบา มาเสริมทัพ ขณะเดียวกันก็ดึง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หัวหอกวัยดึก มาร่วมทีมด้วยสัญญาระยะสั้นพร้อมค่าเหนื่อยสุดแพง
ในขณะเดียวกันการได้ตัว อเล็กซิส ซานเชซ มาเสริมทัพมาจะใช้วิธีการแลกตัวกับ เฮนริค มคิทาร์ยาน ให้ อาร์เซน่อล เมื่อเดือนมกราคม 2018 ก็ตาม แต่สโมสรต้องจ่ายค่าเหนื่อยจำนวนมหาศาล และโชว์ฟอร์มได้ไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป
บัตต์ เปิดใจว่า "ผมคิดว่าแย่สุดๆ ในยุค ฟาน กัล และ มูรินโญ่ ส่วน เดวิด มอยส์ ก็เช่นกัน เพราะพวกเขาไม่ได้มาแมนฯ ยูไนเต็ด และทำตามแผนงานที่ควรจะเป็น แต่เลือกที่จะทำอีกแบบ พวกเขาขาดความเคารพแมนฯ ยูไนเต็ด ในการใช้วิธีแบบนี้"
"พวกเขาไม่เคยทำเลย ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจกับสิ่งที่พวกเขาทำ มูรินโญ่ พยายามที่จะทำดีกับผม เขาพูดคุยกับผมทุกวันตอนอาหารเช้า และถามเกี่ยวกับเด็กๆ ดาวรุ่ง เขาเคยพบกับเด็กๆ 2-3 ครั้งตอนที่พวกเขาไปที่โปรตุเกส (เกมยูฟ่า ยูธ ลีก) และบอกพวกเขาถึงสิ่งที่คาดหวังในตัวพวกเขา" บัตต์ ระบุ
ความคิดเห็น