top of page
ค้นหา

ถึงแชมป์แล้วก็ไม่มีผ่อน!ลีดส์จัดหนักบุกหักเขาดาร์บี้ฉลอง

  • aywutwork2020
  • 22 ก.ค. 2563
  • ยาว 3 นาที

ree

"ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด ประกาศศักดาของแชมป์ป้ายแดง หลังได้ถ้วยเป็นที่เรียบร้อย ด้วยการบุกจัดปาร์ตี้ชุดใหญ่ รัวแซง "แกะเขาเหล็ก" ดาร์บี้ ยับคาบ้าน 3-1 ในเกมนัดรองสุดท้าย ศึกแชมปเปี้ยนชิพ อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ค.63

    เจ้าถิ่นดาร์บี้ ของกุนซือ ฟิลิป โคคู หมดลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟเลื่อนชั้นไปแล้ว เปิดสนามไพรด์ พาร์ค ต้อนรับ "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด เกมนี้มี มาร์ติน แว็กฮอร์น กลับมาช่วยทีม แนวรุกใช้ ลูอี้ ซิบลี่ย์, ทอม ลอว์เรนซ์ และ คริส มาร์ติน ลงสนาม แทงบอลเงินสด

    ขณะที่ทางฝ่ายลีดส์ ของกุนซือ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า นอกจาก การันตีเลื่อนชั้นสู่เวทีพรีเมียร์ลีกหนแรกตั้งแต่ปี 2004 แน่นอนแล้ว ทีมยูงทองยังประกาศศักดาคว้าแชมป์ศึกแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ 2020 เป็นที่เรียบร้อย หลังผลการแข่งขันทีมตามหลัง เป็นใจ โดย เวสต์บรอมวิช ออกไปพ่าย ฮัดเดอร์สฟิลด์ ตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา รวมถึง เบรนท์ฟอร์ด ก็ออกไปแพ้ สโต๊ค 0-1 ในเกมวันเสาร์ เริ่มเกมเป็นฝ่ายเจ้าถิ่นให้เกียรติทีมแชมป์ตามทำเนียม ด้วยการยืนเข้าแถวปรบมือให้ก่อนลงสนาม และเป็นทีมแชมป์ได้จังหวะทักทายก่อนทันที ตั้งแน่นาทีที่3 หลัง ไทเลอร์ โรเบิร์ตส์ ได้โอกาสส่องไกลนอกกรอบ แต่บอลยังหลุดกรอบออกหลังไป

เยอะ

    นาทีที่22 เจ้าถิ่นแกะเขาเหล็ก ได้โอกาสส่องเล่นงานทีมแชมป์บ้าง จากการส่องไกลนอกกรอบด้วยเท้าซ้ายของ ลูอี้ ซิบลี่ย์ แต่ยังโด่งออกหลังไปแบบไม่มีลุ้น  ช่วงเกมผ่านครึ่งชั่วโมง ต้องมีพักเบรกกันนานหน่อยหลัง เกตาโน่ เบราร์ดี้ บาดเจ็บ ก่อนเล่นต่อไม่ไหวต้องส่งลงเปล พร้อมเปลี่ยนตัวให้ ลุค อายลิ่ง ลงมาแทน

    ท้ายครึ่งแรก ไทเลอร์ โรเบิร์ตส์ ได้บอลยาวทางซ้ายของสนาม ก่อนลากมากดยิงนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลยังไม่เข้ากรอบประตู หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันแบบจะแจ้งไม่ค่อยได้ ทำให้หมดครึ่งแรก ดาร์บี้ จึงยังเสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด 0-0

    เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่52 ทีมแชมป์น่วมกันไม่น้อย เมื่อ เอียน โปเวด้า ไปโดน เคอร์ติส เดวิส เสียบจนตัวลอย ต้องเบรกปฐมพยาบาล ก่อน2นาที ต่อมา ทีมแกะเขาเหล็ก จะใช้โอกาสที่ทีมเยือนยังไม่ทันตั้งตัว ได้ประตูนำไปก่อนจาก คริส มาร์ติน ซัดแฉลบกองหลังลีดส์เข้าประตู ทำให้ ดาร์บี้ ขึ้นนำ 1-0

    อย่างไรก็ตาม ทีมแชมป์ยอมโดนลูบคมแค่2นาที นาทีที่56 ก็สามารถตีเจ๊าเอาคืนได้อย่างรวดเร็ว จากจังหวะ ปาโบล เอร์นันเดซ พักอกยิงนอกกรอบ แนวรับเจ้าถิ่นเคลียร์บอลกันไม่ดี มาเข้าทาง แบร์รี่ ดั๊กกลาส กองหลังลีดส์ที่เติมขึ้นมาดักไว้ได้ ก่อนปล่อยบอลให้  ปาโบล เอร์นันเดซ ตามซ้ำไม่เหลือ ลีดส์ ไล่เสมอ 1-1

    จากนั้นนาทีที่75 ทีมแชมป์ป้ายแดง ไม่ยอมฉลองกร่อย มาซัดประตูขึ้นนำได้สำเร็จ จากจังหวะ  ไทเลอร์ โรเบิร์ตส์ พาบอลไปจ่ายทะลุแนวรับดาร์บี้ ให้ เจมี่ แชคเคิลตัน เติมเข้าไปซัดเสาแรกผ่านมือ  เคลเล่ รูส ให้ ลีดส์ บุกแซงนำได้อย่างสุดยอด 2-1   3นาทีต่อมา เจ้าถิ่นเกือบตีเสมอได้เหมือนกัน เมื่อ เจย์เดน โบเกิ้ล ไปลื่นล้มเสียจังหวะ โดน เจสัน ไนท์ ฉกบอลไปล่อเป้ากับ ฟรานซิสโก้ กาซิย่า ยังดีที่นายทวารทีมยูงทอง ยังเซฟช่วยทีมได้อยู่

    แต่แล้วนาทีที่83 เจ้าถิ่นก็สมนาคุณประตูเป็นของขวัญให้ทีมแชมป์เฉย จากจังหวะที่ แอซค์ยาน อลิออสกี้ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายของสนามไปที่กลางประตู แม็ทธิว คล้าร์ก ยืดขาสกัดบอลไม่ดี กลายเป็นบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง พร้อมขยับ สกอร์ให้ ลีดส์ บุกนำโด่ง 3-1

    ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลาจึงเป็นทีม แชมป์ป้ายแดง ลีดส์ ยูไนเต็ด บุกมาฉลองจัดปาร์ตี้ที่  ไพรด์ พาร์ค ด้วยการบุกรัวแซง ดาร์บี้ ไปอย่างสนุก 3-1    

รายชื่อนักเตะตัวจริงทั้งสองทีม

ดาร์บี้ (4-2-3-1) : เคลเล่ รูส - เจย์เดน โบเกิ้ล, เคอร์ติส เดวิส, แม็ทธิว คล้าร์ก, เคร็ก ฟอร์ไซธ์ (ลี บูชานัน น.64) - เวย์น รูนี่ย์, แม็กซ์ เบิร์ด (แจ๊ค มาร์ริออตต์ น.82) - มาร์ติน แว็กฮอร์น, ลูอี้ ซิบลี่ย์ (แกรม ชินนี่ น.66), ทอม ลอว์เรนซ์ (เจสัน ไนท์ น.7) - คริส มาร์ติน

ลีดส์ ยูไนเต็ด (4-1-4-1) : ฟรานซิสโก้ กาซิย่า - แบร์รี่ ดั๊กกลาส, เกตาโน่ เบราร์ดี้ (ลุค อายลิ่ง น.33),เบน ไวท์ , สจ๊วร์ต ดัลลัส - ปาสกาล สตรูจค์ - เอียน โปเวด้า (แจ็ค แฮร์ริสัน น.77) , เจมี่ แชคเคิลตัน,ปาโบล เอร์นันเดซ ,แอซค์ยาน อลิออสกี้ - ไทเลอร์ โรเบิร์ตส์ (แพทริก แบมฟอร์ด น.82)


ผี-สิงห์ยิ้ม! เคนเบิ้ล-ไก่อัดเลสเตอร์ส่งจิ้งจอกลุ้นท็อป4นัดสุดท้าย


ree

"ไก่เดือยทอง" ฟอร์มจัดจ้านซิวชัยในลีก3เกมติดหลังล่าสุดเปิดรังไล่ต้อน เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 เกมนี้ แฮร์รี่ เคน เหมาคนเดียวสองประตูช่วยให้ทีมขึ้นมารั้งอันดับ 6 ขณะที่ "เดอะ ฟ็อกซ์" หยุดที่ 62 แต้มเท่ากับ "ผีแดง" แต่แข่งมากกว่าทำให้เลสเตอร์ต้องลุ้นหนักในการจบท็อปโฟร์ โดยจะต้องชี้ชะตาด้วยการเปิดรังดวลกับลูกทีมของ โซลชา ในเกมสุดท้าย ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม 2563 สเปอร์ส 3   -   0 เลสเตอร์ ซิตี้

สนาม : ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม UFA23

     การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันที่ 19 กรกฏาคม 2563 ที่สนาม ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ระหว่าง สเปอร์ส ทีมอันดับ 7 ของตาราง พบ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 4 

     โชเซ่ มูรินโญ่ พาทีมไก่เดือยทองติดเครื่องด้วยการเก็บ 10 แต้มจาก 4 เกมล่าสุด โดยเมื่อกลางสัปดาห์พวกเขาบุกเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ได้ 3-1 นัดนี้ถ้ามีแต้มจะแซงหน้า วูล์ฟแฮมป์ตัน ขึ้นอันดับ 6 เกมนี้ไม่มีปัญหาการจัดทัพฝากความหวังไว้ที่สามแนวรุกอย่าง ซน ฮึง มิน, ลูคัส มูร่า และ แฮร์รี่ เคน 

     ส่วน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส พาทีมจิ้งจอกสีน้ำเงินลุ้นอันดับท็อปโฟร์กับ เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยฟอร์มล่าสุดของพวกเขาเปิดบ้านทุบ ''ดาบคู่'' เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไป 2-0 เกมนี้ เลสเตอร์มีปัญหาที่เกมรับ เมื่อ คักลาร์ โซยุนชู ติดโทษแบนส่ง เวสส์ มอแกน ลงประจการแทน ส่วนสามแนวรุกใช้ อโยเซ่ เปเรซ, ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และ เจมี่ วาร์ดี้ ลงล่าตาข่าย  

     เปิดฉากครึ่งแรกมาเพียง 6 นาที สเปอร์ส ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ ซน ฮึง มิน ลากตัดเข้าในแล้วซัดด้วยขวาบอลไปแฉลบ เจมส์ จัสติน เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไปให้ "ไก่เดือยทอง" นำ 1-0

     จากนั้น เป็นโอกาสของ เลสเตอร์ ซิตี้ นาที 19 ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ขึ้นเกมมาทางกราบซ้ายก่อนจะเปิดเข้าเขตโทษให้ เจมี่ วาร์ดี้ โฉบมาโขกเสาแรกแต่ไปติด ดาวินซอน ซานเชซ แฉลบออกหลังไป 

     นาทีถัดมา เลสเตอร์ เกือบตามตีเสมอเมื่อ เวส มอร์แกน ขึ้นโหม่งบอลไปติดบล็อคแนวรับ สเปอร์ส ก่อนที่จะมาเข้าทาง เจมี่ วาร์ดี้ พยายามยิงตอกส้นแต่ยังติดเซฟ อูโก้ โยริส 

     หลังถูกขึ้นนำทีมเยือนได้ขึงบุกใส่อยู่พักใหญ่ และเกือบขึ้นนำอีกครั้ง ในนาที 25 อโยเซ่ เปเรซ พักอกก่อนหนึ่งจังหวะแล้วฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายบอลกำลังจะเสียบเสาเข้าประตู แต่ โยริส บินปัดออกไปหน้าตาเฉย 

     นาที 30 สเปอร์ ได้โต้กลับมาบ้างและเกือบได้ลูกสองเมื่อ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ วางบอลยาวจากแนวรับให้ ซน ฮึง มิน หลุดเดี่ยวไปซัดในกรอบเขตโทษแต่ยังติดเซฟ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล

     จนกระทั่ง นาที 38 จากจังหวะสวนกลับเร็ว ซน ฮึง มิน จ่ายจากกลางสนามให้ ลูคัส มูร่า แล้วแทงทะลุช่องต่อให้ แฮร์รี่ เคน หลุดไปตวัดยิงด้วยซ้ายหน้าปากประตูบอลพุ่งเสียบเสาไกลเข้าไปให้ สเปอร์ส นำห่าง 2-0  

     เท่านั้นไม่พอ นาที 40 "ไก่เดือยทอง" ได้ประตูนำ 3-0 จากจังหวะที่ ลูคัส มูร่า ไหลบอลให้ แฮร์รี่ เคน ก่อนที่ดาวยิงทีมชาติอังกฤษใช้ความสามารถเฉพาะตัวลากตัดเข้าในแล้วปั่นด้วยขวาบอลเช็ดเสาไกลเข้าประตูไปพร้อมเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ 

     ช่วงที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก สเปอร์ส นำ เลสเตอร์ สบาย 3-0      ครึ่งหลัง นาที 53 "ไก่เดือยทอง" เกือบได้ลุ้นเม็ดที่สี่ หลัง ลูคัส มูร่า วางบอลยาวจากหน้าปากประตูตัวเองให้ แฮร์รี่ เคน พาบอลเข้าไปซัดหน้ากรอบแต่ยิงไปแฉลบแข้งทีมเยือนออกหลังไป

     นาที 58 เดอมาราย เกรย์ ตัวสำรองที่ลงมาครึ่งหลังเกือบซัดให้ "จิ้งจอก" ตีไข่แตกสำเร็จหลังตะบันฟรีคิกกว่า 25 หลากลางประตูบอลพุ่งแรงจน อูโก้ โยริส ต้องปัดข้ามคานหวุดหวิด

     นาทีถัดมา เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เปลี่ยนผู้เล่นคนที่สองส่ง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ลงมาเล่นแทน อาโยเซ่ เปเรซ      ทีมเยือนตอบโต้ขึ้นมาอีก นาที 65 ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ พลิกบอลหนีแฮร์รี่ วิงค์ส เข้าไปซัดหน้ากรอบแต่บอลโดนไม่เต็มเท้าก่อนจะพุ่งไปเข้ามืออูโก้ โยริส

     "เดอะ ฟ็อกซ์" ยังกดดันอย่างหนักเพื่อทวงประตูตีไข่แตกให้ได้ นาที 76 อิเฮียนาโช่ จ่ายสั้นให้ เดอมาราย เกรย์ ตะบันด้วยขวาเต็มแรงจากนอกกรอบ ทว่าบอลพุ่งเหินคานออกไปอีก

     โชเซ่ มูรินโญ่ เปลี่ยนแปลงผู้เล่นบ้าง นาที 78 ส่ง เอริก ลาเมล่า และสตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ลงไปเล่นแทน ลูคัส มูร่า และโจวานนี่ โล เซลโซ่

     นาที 81 แฮร์รี่ เคน ชวดโอกาสทำแฮตทริกหลังส่งบอลซุกก้นตาข่ายไปแล้ว แต่โดนผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน

     ท้ายเกม นาที 87 "จิ้งจอก" ได้ลุ้นตีไข่แตกอีก คราวนี้ อิเฮียนาโช่ ซัดด้วยขวาจะเสียบเสาไกลอยู่แล้วแต่ยังเจอ อูโก้ โยริส โชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกไปได้อีก

     ช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าถิ่นรักษาสกอร์นำไว้ได้ ก่อนที่ แอนโทนี่ เทย์เลอร์ เชิ้ตดำจะเป่าจบการแข่งขัน เป็นอันว่า สเปอร์ส โชว์ฟอร์มหรูไล่ถล่ม เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 คว้าสามแต้มขึ้นมารั้งอันดับ 6 ชั่วคราว ขณะที่ "จิ้งจอกสยาม" อยู่อันดับ 4 เหมือนเดิมโดยมี 62 แต้มเท่ากับ แมนฯยูไนเต็ด แต่ "ผีแดง" แข่งน้อยกว่า โดยทั้งคู่ต้องไปดวลกันเองในเกมสุดท้ายที่ คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นแมตช์ชี้ชะตาลุ้นท็อปโฟร์ของทัพจิ้งจอก รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

สเปอร์ส : อูโก้ โยริส - แซร์ช โอริเย่ร์, ดาวินซอน ซานเชซ, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เบน เดวิส - มุสซ่า ซิสโซโก้, แฮร์รี่ วิงค์ส  (โอลิเวอร์ สคิปป์ น.90+2), โจวานี่ โล เซลโซ่ (สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น น.78) - ลูคัส มูร่า (เอริก ลาเมล่า น.78), แฮร์รี่ เคน, ซน ฮึง-มิน (เก็ดสัน แฟร์นันเดส น.89)

 เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ไรอัน เบนเน็ตต์ (เดอมาราย เกรย์ น.45), เวส มอร์แกน, จอนนี่ อีแวนส์ - เจมส์ จัสติน, วิลฟรีด เอ็นดิดี้ (นอมปาลิส เมนดี้ น.70), ยูริ ตีเลอมันส์ (เดนนิส ปราต น.70), ลุค โธมัส - อาโยเซ่ เปเรซ (เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ น.59), เจมี่ วาร์ดี้, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (จอร์จ เฮิร์สท์ น.83)


ไม่ได้เรื่อง! "เป๊ป" ผิดหวังฟอร์มซิตี้เกมพ่ายอาร์เซน่อล

ree

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สุดผิดหวังกับฟอร์มลูกทีม หลังพ่าย อาร์เซน่อล 0-2 ในเกม เอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก พร้อมชี้ช่วงครึ่งแรก เหมือนไม่พร้อมจะเล่นกันเลย

 เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เผยว่า ตนรู้สึกผิดหวังอย่างมากกับฟอร์มการเล่นของลูกทีม ที่ดูเหมือนไม่ค่อยพร้อมจะเล่น หลัง "เรือใบสีฟ้า" แพ้ อาร์เซน่อล 0-2 ในศึก เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่สังเวียนแข้ง เวมบลีย์ สเตเดี้ยม เมื่อวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา 

     เกมนี้ อาร์เซน่อล ได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 19 จาก ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ซึ่งหลังจากนั้นเกมของ แมนฯ ซิตี้ ก็ยังขาดคุณภาพ ถึงแม้เป็นฝ่ายครองบอลเข้าทำได้เป็นส่วนใหญ่ และสุดท้ายนาทีที่ 71 "ไอ้ปืนใหญ่" ก็มาได้ประตูปิดเกม 2-0 จาก โอบาเมยอง คนเดิม ทำให้แชมป์เก่าจอดป้ายแค่รอบตัดเชือกเท่านั้น   

 "เราไม่ได้เรื่องเอง เราเล่นกันไม่ดี พูดง่ายๆ แบบนี้เลย ช่วงครึ่งแรกเราดูเหมือนไม่พร้อมกันเลย เราเข้าสู่เกมไม่ได้ นั่นแหละคือเหตุผลที่ทำให้เราแพ้ ถ้าครึ่งแรกเราเล่นได้ตามที่ต้องการ ผลการแข่งขันมันอาจจะแตกต่างออกไป แต่เราทำกันไม่ได้เอง คุณสามารถแพ้ได้ แต่การแพ้แบบนี้ อย่างที่เราเล่นกันในครึ่งแรก มันเป็นอะไรที่เราผิดหวังกันมากๆ" ยอดกุนซือชาวสแปนิชวัย 49 ปี กล่าวหลังเกม
 
 
 

ความคิดเห็น


©2020 by เว็บไซต์ของฉัน. Proudly created with Wix.com

bottom of page