ทัวร์ลง มาร์กซิยาล ! เจาะ 5 ประเด็น แมนยู แพ้ "เปแอสเช" คาบ้าน

อองโตนี่ มาร์กซิยาล โดนทัวร์ลงอย่างหนักหลังพลาดโอกาสทองถึงสองครั้งในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-3 ที่สนามโอดล์ แทร็ฟฟอร์ด

ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช เมื่อวันพุธที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมาผีแดง" ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบเมื่อโดนทีมเยือนบุกมานำไปก่อนจาก เนย์มาร์

แต่พวกเขาสามารถเรียกสติกลับมาได้เร็ว และเปิดเกมบุกจนได้ประตูตีเสมอจาก มาร์คัส แรชฟอรด์ จากนั้นในครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ดสร้างโอกาสในการทำประตูได้หลายครั้ง โดยเฉพาะ มาร์กซิยาล แต่นักเตะดันยิงได้น่าผิดหวัง ก่อนที่ "เปแอสเช" จะซัด 2 ประตูจาก มาร์กินญอส และ เนย์มาส ทำให้พวกเขาเก็บ 3 คะแนนสำคัญ ในเวลานี้ สล็อต น่าเล่น กลุ่ม เอช ทั้ง แซงต์-แชร์กแมง, แมนฯ ยูไนเต็ด และ แอร์เบ ไลป์ซิก มี 9 คะแนนเท่านั้น ฉะนั้นทั้งสามทีมต้องไปลุ้นตั๋วเข้ารอบน็อกเอาต์ในเกมสุดท้าย โดย "ผีแดง" กับทีมดังจากเยอรมนี ต้องฟัดกันเอง ส่วน "เปแอสเช" ปะทะ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ ทีมที่ไม่ได้ลุ้นอะไรเลย คาวานี่ คลาสบอลที่แมนยูต้องการ แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เอดินสัน คาวานี่ คือหน้าเป้าที่พวกเขาเฝ้ารอมานาน แม้อายุของเขาจะเข้าหลักสามไปแล้วก็ตาม แต่ประสบการณ์ และความสามารถในการเล่นโดยเฉพาะในกรอบเขตโทษของเขาอันตรายมากๆ

ในเกมรับมือ ยอดทีมแห่งเมืองน้ำหอม คาวานี่ สร้างความปั่นป่วนให้กับเกมรับสโมสรเก่าของเขาได้อย่างต่อเนื่อง โดยนักเตะเข้าไปป้วนเปี้ยนในกรอบเขตโทษ "เปแอสเช" และมีหลายครั้งที่วิ่งหาพื้นที่ว่างเพื่อทำประตู แต่น่าเสียดายที่เพื่อนร่วมทีมยังเปิดบอลไม่ค่อยแม่นยำ คาวานี่ อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวเพื่อจะได้เล่นให้สอดประสานงานกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ให้มากกว่านี้ อย่างไรก็ตามด้วยการที่เขามีประสบการณ์โชกโซน ทำให้เวลาที่ "ปีศาจแดง" เปิดเกมบุกเข้ามา หัวหอกชาวอุรุกวัย จะรีบวิ่งเพื่อหาพื้นที่ว่างทันที ส่วนในเรื่องจังหวะการยิงประตูต้องบอกเลยว่า คาวานี่ อันตรายสุดๆ โดยเฉพาะจังหวะที่เขาหลุดเข้าไปชิพบอลข้ามหัว เคย์เลอร์ นาบาส แต่น่าเสียดายที่บอลดันไปชนคาน อย่างไรก็ตามจากจังหวะนี้ และอีกหลายๆ จังหวะ คงทำให้สาวก "เร้ด อาร์มี่" มั่นใจได้เลยว่า ดาวยิงผมสลวย จะโชว์ทีเด็ดให้กับทีมได้มากยิ่งกว่านี้แน่นอน ได้เวลาดร็อป มาร์กซิยาล

หากจะมองหานักเตะที่ทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุดคงหนีไม่พ้น อองโตนี่ มาร์กซิยาล เพราะฟอร์มการเล่นของเขาในแมตช์นี้ ต้องบอกเลยว่าน่าผิดหวังสิ้นดี เพราะนักเตะไม่ได้แสดงให้เห็นความกระตือรือร้นในการเล่น แถมยังทำหมูหกในระยะหกหลาซึ่งน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนของเกมอย่างแท้จริง

มาร์กซิยาล แทบไม่มีบทบาทในการเล่นให้กับทัพ "ปีศาจแดง" เลย แถมเวลาที่ทีมสร้างเกมบุกขึ้นมา ถ้าบอลไปถึงเขาเมื่อไหร่สุดท้ายต้องจบด้วยการโดนแย่ง หรือไม่ก็ทีมเสียจังหวะ ที่สำคัญในช่วงครึ่งหลัง ดาวยิงเลือดเฟร้นช์ มีโอกาสทองที่จะทำให้ทีมยิงประตูขึ้นนำ แต่ดันซัดบอลโล่งๆ เหินข้ามคานหน้าตาเฉย

บรูโน่ ต้องหัดเห็นแก่ตัว-แดนกลางมีปัญหา

เชื่อว่าแฟนบอล "ผีแดง" จำนวนมากคงอยากเห็น บรูโน่ แฟร์นันด์ส หัดเป็นคนเห็นแก่ตัวบ้าง หลังจากที่เขามักจะป้อนบอลให้กับเพื่อนร่วมทีมทำประตู แต่บางครั้งเจ้าตัวควรที่จะมีความเห็นแก่ตัวบ้าง เนื่องจากในบางจังหวะ จอมทัพชาวโปรตุกีส มักจะสวมบท

"พี่มีแต่ให้" มากเกินไป แฟร์นันด์ส มักจะทำแบบนี้เป็นประจำเพื่อเป็นการให้โอกาส และสร้างความมั่นใจให้กับเพื่อนร่วมทีม แต่ในแมตช์กับ แซงต์-แชร์กแมง ต้องบอกว่า ดาวเตะเลือดฝอยทอง ใจดีเกินไป เนื่องจากในจังหวะทีเด็ดทีขาดเจ้าตัวคงจะจัดการตัดสินใจยิงประตูมากกว่าการเลือกส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีม เพราะมันอาจทำให้โอกาสทองต้องหลุดลอยไป ขณะที่แดนกลาง โซลชา เลือกใช้งาน เฟร็ด กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ แต่ดูเหมือนว่าในช่วงต้นเกมทั้งสองคนไม่สามารถหยุดเกมบุกของทีมเยือนได้ แต่หลังจากที่เสียประตู พวกเขาก็ค่อยๆ มีส่วนในการปิดเกมรุกของ "เปแอสเช" โดยเฉพาะ แม็คโทมิเนย์ ที่เล่นงาน เนย์มาร์ จนโชว์ฟอร์มไม่ค่อยออก อย่างไรก็ตามในส่วนของ เฟร็ด ถือว่าน่าผิดหวังที่สุด เพราะหากมองจากความเป็นจริงแล้วเขาควรจะถูกไล่ออกไปตั้งแต่จังหวะใช้ศีรษะโขก เลอันโดร ปาเรเดส แต่กรรมการยังใจดีให้แค่ใบเหลือง แต่สุดท้ายการเล่นบอลแบบขาดสมาธิส่งผลให้เขาจับบอลไม่ดีและนำไปสู่การเสียบหนักใหม่ อันเดร เอร์เรร่า จนโดนใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดง แน่นอนว่ามีคำถามที่ โซลชา ต้องบอกว่าทำไมเขาถึงไม่เลือกส่ง ปอล ป็อกบา, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค หรือ เนมานย่า มาติช ลงเล่นตัวจริงในเกมนี้ เพราะหากมองถึงศักยภาพของพวกเขา น่าจะทำผลงานได้ดีกว่า เฟร็ด และ แม็คโทมิเนย์ แน่นอน เนย์มาร์ มีทั้งดีและแย่ในเกมนี้ เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ และฟอร์มการเล่นของ เนย์มาร์ ก็เป็นแบบนั้น โดยเขาเริ่มต้นเกมได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งจังหวะในการเล่นที่หวือหวา จบสกอร์อย่างงดงามน่าเหลือเชื่อ จากนั้นก็สร้างจังหวะอันตรายได้เกือบทุกครั้งที่บอลอยู่ที่เท้าของเขา รวมไปถึงจังหวะผ่านบอลถวายพานให้ มิคเชล บัคเกอร์ ซัดโล่งๆ แต่โดน ดาบิด เด เคอา ปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะ เนย์มาร์ สามารถปั่นป่วนเกมรับของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อย่างต่อเนื่อง และยังเป็นคนรับหน้าที่จัดการลูกตั้งแตะซึ่งเขาก็ทำมันได้ดีเยี่ยม แน่นอนว่าผลงานของ หัวหอกเลือดบราซิเลียน ช่วยให้ต้นสังกัดเล่นได้อย่างไม่มีความกดดัน ในขณะเดียวกับความสามารถเฉพาะตัวของเขายังมีส่วนสำคัญที่จะทำให้ทีมได้เปรียบโดยเฉพาะตอนที่ได้ประตูขึ้นนำ 2-1 นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในความพยายามที่จะช่วยทีมยิงประตูเพิ่มเพื่อปิดเกมให้ได้ รวมไปถึงลีลากระชากลากเลื้อย และผ่านบอลที่เฉียบคม ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะ มาร์กซิยาล ยังมีโอกาสกดประตูในจังหวะที่ คาวานี่ ชิพบอลไปชนคาน และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส วิ่งไปถึงบอลก่อนแปะให้ มาร์กซิยาล ได้ยิง แต่เจ้าตัวดันซัดไปติดบล็อกคู่แข่ง ซึ่งหากเป็นกองหน้าหรือกองกลางคนอื่น ASIAXX1 จังหวะแบบนี้โอกาสส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายมีค่อนข้างสูงมากๆ แน่นอนว่าตอนนี้ มาร์กซิยาล การเป็นนักเตะที่ขาดความมั่นใจไปแล้ว และเขายังเจอกับปัญหาหลายอย่างถาโถมเข้ามาตลอดฤดูกาลนี้ ฉะนั้นหากในช่วงเดือนธันวาคมนี้ นักเตะยังไม่สามารถพัฒนาผลงานของตัวเองได้ คงถึงเวลาที่ โซลชา ต้องจัดการแก้ไขจุดนี้ โดยจะเลือกดร็อป หรือสะกิดบอร์ดบริหารซื้อกองหน้าตัวใหม่ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 เดือนมกราคมนี้ อย่างไรก็ตาม ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมก็มีเรื่องที่น่าผิดหวังจากตัว เนย์มาร์ เช่นกัน เพราะมีหลายครั้งที่ขาปะทะหนักกับ แม็คโทมิเนย์ และส่วนใหญ่ก็เป็นเจ้าตัวที่ทำฟาวล์ นอกจากนี้เขายังมักจะเข้าไปร่วมวงไพบูลย์เวลาที่เพื่อนร่วมทีมมีปัญหาโต้เถียงกับนักเตะ "ปีศาจแดง" ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์เหล่านี้แท้ๆชี้ชะตาเข้ารอบนัดสุดท้าย

แน่นอนว่าหาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะในเกมนี้พวกเขาก็ลอยลำเข้ารอบน็อกเอาต์ไปแบบสบายๆ แต่ตอนนี้สถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนไปหมดแล้ว ฉะนั้นการลุ้นเพื่อเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต้องวัดกันในแมตช์สุดท้ายที่จะฟาดฟันกันในช่วงกลางสัปดาห์หน้า ก่อนหน้านี้ "ปีศาจแดง" ถือครอบความได้เปรียบในการผ่านเข้ารอบต่อไปเอาไว้ในมือ แต่หลังจากที่พวกเขาโดน แซงต์-แชร์กแมง บุกมาสอย 1-3 ถึงสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กอปรกับ แอร์เบ ไลป์ ซิก เฉือนชนะ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ จากประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นั่นหมายความว่าทั้ง 3 ทีมมี 9 คะแนนเท่ากัน ในแมตช์สุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด แค่เสมอกับ ไลป์ซิก ก็เพียงพอที่จะเข้ารอบน็อกเอาต์ ขณะที่ "เปแอสเช" ค่อนข้างสบายอุราเพราะเจอกับทีมบ๊วยของกลุ่มอย่าง บาซัคเซเฮียร์ โอกาสที่จะเข้ารอบค่อนข้างสูง ส่วน ไลป์ซิก จะต้องชนะ "ปีศาจแดง" เท่านั้นถึงจะได้ตั๋วใบสำคัญนี้ ยกเว้น ปารีส จะแพ้คู่แข่งจากตุรกี จริงๆ แล้วสถานการณ์แบบนี้คงน่าจะเกิดขึ้นกับทีมของกุนซือโอเล่ กุนนาร์ โซลชา เพราะหากมองย้อนกลับไปในเกมสำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนก็คือแมตช์ที่พวกเขาออกไปแพ้ บาซัคเซเฮียร์ ที่อิสตันบูล ซึ่งนั่นคือเกมที่เสียหายมากๆ จนส่งผลให้ทีมต้องเหนื่อยรากเลือดอย่างที่เห็น