ทางการ!ดอร์ทมุนด์เด้งฟาฟร์ตกเก้าอี้กุนซือ

ดอร์ทมุนด์ ทนไม่ไหว สั่งเด้ง ลูเซียง ฟาฟร์ แล้ว หลังนำ "เสือเหลือง" แพ้ สตุ๊ตการ์ท เละเทะคาบ้านเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรชั้นนำแห่งศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน ตัดสินใจปลด ลูเซียง ฟาฟร์ กุนซือชาวสวิส ออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา

ฟาฟร์ วัย 63 ปี นำ "เสือเหลือง" ทั้งนี้ ฟาฟร์ เข้ามาคุม ดอร์ทมุนด์ เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2018 และเก้าอี้ร้อนมาได้สักพักแล้ว หลัง "เสือเหลือง" ทำผลงานไม่คงเส้นคงวา โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นำทีมได้แชมป์แค่รายการเดียวคือ เดเอฟแอล ซูเปอร์คัพ 2019 แม้ผลงานในลีกจะไม่ดี แต่ สล็อต น่าเล่น ดอร์ทมุนด์ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการเป็นแชมป์ของกลุ่ม เอฟ อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงพอที่จะทำให้ ฟาฟร์ ได้ทำงานต่อไป หลังการแพ้ สตุ๊ตการ์ท เละเทะคาบ้าน ลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ตกเก้าอี้ในที่สุดพ่าย สตุ๊ตการ์ท คาบ้าน 1-5 เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้หล่นไปอยู่อันดับ 5 ของตาราง มี 19 คะแนนจาก 11 เกม ตามหลัง บาเยิร์น มิวนิค จ่าฝูง 5 แต้ม

ทั้งนี้ ฟาฟร์ เข้ามาคุม ดอร์ทมุนด์ เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2018 และเก้าอี้ร้อนมาได้สักพักแล้ว หลัง "เสือเหลือง" ทำผลงานไม่คงเส้นคงวา โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นำทีมได้แชมป์แค่รายการเดียวคือ เดเอฟแอล ซูเปอร์คัพ 2019 แม้ผลงานในลีกจะไม่ดี แต่ดอร์ทมุนด์ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการเป็นแชมป์ของกลุ่ม เอฟ อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงพอที่จะทำให้ ฟาฟร์ ได้ทำงานต่อไป หลังการแพ้ สตุ๊ตการ์ท เละเทะคาบ้าน กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ตกเก้าอี้ในที่สุด

นักบุญมาตามนัด! เซาธ์แฮมป์ตันรัวไม่ซ้ำหน้าถล่มเชฟยูเละ-ทะยานขึ้นท็อปทรี

เซาธ์แฮมป์ตัน ดาหน้ายิงเปิดรังไล่ถล่ม เชฟฯ ยูไนเต็ด 3-0 คว้าชัยสองนัดรวดขยับขึ้นมารั้งที่ 3 ของตาราง ส่วนทีม "ดาบคู่" อาการแย่หนักแพ้ 7 นัดรวดจมบ๊วยของตารางยังไม่ชนะใคร ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แรกประจำวันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2563 ที่สนาม เซนต์ แมรี่ เป็นการพบกันระหว่าง เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมอันดับ 6 พบ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด บ๊วยของตาราง ครึ่งแรกเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 16 เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ขึงบุกใส่ได้อย่างต่อเนื่องเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ แดนนี่ อิงส์ หลุดเดี่ยวพยายามจะยิงลอดขา แอรอน แรมส์เดล แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่งนาทีที่ 31 ความพยายามของ เซาธ์แฮมป์ตัน มาประสบผลเมื่อ ยาน เบดนาเร็ค โหม่งชงต่อให้ เช อดัมส์ ได้ซัดจ่อๆหน้าปากประตูไม่เหลือให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรก เซาธ์แฮมป์ตัน นำ เชฟฯ ไนเต็ด 1-0 ครึ่งหลังแม้ เชฟฟิลด์ จะแก้เกมมาได้ดีขึงบุกใส่อยู่พักใหญ่แต่ยังเจาะแนวรับเจ้าถิ่นไม่ได้ ASIAXX1 ก่อนที่นาที 63 เซาธ์แฮมป์ตัน จะมาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะที่ สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง ได้ซัดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษแต่ทว่าบอลไปแฉลบเท้าของ ฟิลด์ จากีลก้า ที่พยายามสกัดบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูไป จากนั้นนาทีที่ 69 เจ้าถิ่นเกือบได้ลูกสาม เจมส์ วอร์ด-เพร้าส์ ปั่นฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องไปทางขวาบอลข้ามกำแพงเหินข้ามคานไปนิดเดียว แต่ถึงกระนั้นเจ้าถิ่นก็ยังไม่ผ่อนเครื่องมาได้ประตูนำ 3-0 ในนาที 83 โอริโอล โรเมว จ่ายบอลให้ นาธาน เร้ดมอน เกี่ยวบอลเข้าไปซัดในเขตโทษเน้นเข้าประตูไป เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เซาธ์แฮมป์ตัน เปิดรังถล่ม เชฟฯ ยูไนเต็ด 3-0 คว้าชัยสองนัดรวดขยับขึ้นมารั้งที่ 3 ของตาราง กระนั้นเป็นจังหวะล้ำหน้าของดาวยิงทีมชาติอังกฤษไปก่อนแล้ว จากนั้นนาที 19 ทีม "นักบุญ" หวิดได้ประตูอีกครั้งจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวา เจมส์ วอร์ด-เพร้าส์ เปิดมาเข้าหัวของ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด ขึ้นโขกแต่บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียว

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม ซาธ์แฮมป์ตัน (4-4-2) : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ - ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, ยาน เบดนาเร็ค, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - สจ๊วร์ตอาร์มสตรอง, เจมส์ วอร์ด-เพร้าส์, โอริโอล โรเมว, ธีโอ วัลค็อตต์ - แดนนี่ อิงส์, เช อดัมส์เชฟฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) : แอรอน แรมส์เดล - คริส บาแชม, จอห์น อีแกน, ฟิลด์ จากีลก้า - จอร์จ บัลด็อค, นาธาน อัมปาดู, ซานเดอร์ เบิร์ก, จอห์น เฟล็ก, เอ็นดา สตีเว่นส์ - บิลลี่ ชาร์ป, โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นีย์