ทางการ!เชฟฯยูไนเต็ดซิว "บรูว์สเตอร์" จากลิเวอร์พูลเรียบร้อย

ริอาน บรูว์สเตอร์ หัวหอกอนาคตไกล กลายเป็นสมาชิกใหม่ของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เรียบร้อย หลังย้ายมาจาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวเฉียดพันล้านบาท พร้อมโวจะพยายามทำประตูให้ได้มากที่สุดเพื่อทีม "ดาบคู่"

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด สโมสรลูกหนังในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศคว้าตัว ริอาน บรูว์สเตอร์ กองหน้าดาวรุ่งเลือดผู้ดี มาจาก ลิเวอร์พูล อย่างเป็นทางการเรียบร้อย เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยเซ็นสัญญาร่วมงานกันยาว 5 ปี สวีทโบนันซ่า ยอดฮิต

     สำหรับค่าตัวของ บรูว์สเตอร์ อยู่ที่ 23.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 940 ล้านบาท) โดย "หงส์แดง" มีเงื่อนไขสามารถซื้อกลับได้ภายใน 3 ฤดูกาลข้างหน้า นอกจากนี้ยังมีสิทธิ์ได้เงิน 15% จากการย้ายทีมครั้งต่อไปของ หัวหอกวัย 20 ปี ด้วย

     "มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ที่ได้มาอยู่ที่นี่ และผมก็อดใจรอไม่ไหวแล้วที่จะลงเล่น มีสองสามสโมสรที่ติดต่อเข้ามาหาผม แต่ ณ ตอนนี้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผม สโมสรกำลังไปได้สวย ฤดูกาลที่แล้วก็จบที่อันดับเก้า ซึ่งผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะมีอันดับที่ดีขึ้นอีกในฤดูกาลนี้"      "ผมพร้อมที่จะแสดงให้เห็นว่า ผมสามารถทำอะไรได้บ้าง นี่คือทีมที่สร้างโอกาสได้อย่างมากมาย, มีการสอดเติมเกมรุก, ครอสบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ และนั่นถือเป็นเกมของผมเลย กับการอยู่ในกรอบเขตโทษ, หาพื้นที่ว่าง, จับหนึ่งหรือสองจังหวะก่อนจบสกอร์ ซึ่งผมก็จะพยายามทำประตูให้ได้มากที่สุดเพื่อ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด" เจ้าของเสื้อทีม "ดาบคู่" หมายเลข 24 เปิดใจ

หมาป่าเสริมเขี้ยว!โรม่ายืม "มายอรัล" จากเรอัลมาดริด

 "หมาป่าแห่งกรุงโรม" อาแอส โรม่า ปิดดีลยืมตัว บอร์ฆา มายอรัล หัวหอก เรอัล มาดริด มาใช้งาน 2 ซีซั่นเรียบร้อย พร้อมถือออปชั่นซื้อขาดแบบราคาเบาๆ 

     อาแอส โรม่า สโมสรดังแห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ประกาศยืนยัน เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า ได้เซ็นสัญญายืมตัว บอร์ฆา มายอรัล กองหน้าชาวสแปนิชของ เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่ในศึก ลา ลีกา สเปน มาใช้งานเป็นเวลา 2 ฤดูกาลเรียบร้อย ASIA369

     สำหรับรายละเอียดของดีลนี้ "หมาป่าแห่งกรุงโรม" มีออปชั่นซื้อขาดระหว่างซีซั่นแรกที่ราคา 15 ล้านยูโร (ประมาณ 555 ล้านบาท) และ 20 ล้านยูโร (ประมาณ 740 ล้านบาท) ในระหว่างซีซั่นที่สอง โดยการันตีเซ็นสัญญากับตัวนักเตะยาวถึงปี 2025 หากปิดดีลซื้อขาดเรียบร้อย 

     ทั้งนี้ มายอรัล เป็นเด็กปั้นของ เรอัล มาดริด แต่ไม่สามารถก้าวขึ้นมาแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ได้ โดยก่อนหน้านี้เคยถูกปล่อยตัวให้ เฟาเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก ยืมใช้งานในฤดูกาล 2016/17 และล่าสุดกับ เลบันเต้ ที่เจ้าตัวอยู่เล่นให้ 2 ฤดูกาล (2018/19 และ 2019/20) กดไป 14 ประตู จากการลงเล่น 69 นัด 

เชลซีทัพใหญ่กู้ฟอร์ม! "แวร์เนอร์-ฮาแวร์ทซ์" ผนึกล่า,พาเลซมี "ซาฮา" นำตะบัน

"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี หว้งคืนฟอร์มเก่งกลับมาอีกครั้งโดย ติโม แวร์เนอร์ กับ ไค ฮาแวร์ทซ์ พร้อมลงปิดสกอร์เกมรับคม "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ ที่มี วิลฟรีด ซาฮา ดาวยิงตัวความหวังนำล่าตาข่าย  ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 3 ก.ย. ศกนี้  ถ่ายทอดสด : True Premier HD1  (เวลา : 18.30 น.)

ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2563 เชลซี   -   คริสตัล พาเลซ ถ่ายทอดสด : True Premier HD1  (เวลา : 18.30 น.)

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

    เชลซีทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนักใน 5 เกมหลังสุด โดยคว้าชัยได้เพียง 2 เกมล่าสุดเพิ่งทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอกับเวสต์บรอมวิช 3-3 ในเกมลีกนัดที่แล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 26 กันยายน ก่อนที่พ่ายจุดโทษท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 4-5 หลังเสมอกันในเวลาปกติ 1-1 ในเกมคาราบาว คัพ รอบ 4 

    สภาพทีมในเกมนี้ในตำแหน่งผู้รักษาประตูคาดว่า เอดูอาร์ เมนดี้ คงจะได้รับโอกาสออกสตาร์ตเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องหลัง แฟร้งค์ แลมพาร์ด นายใหญ่ชาวอังกฤษ เลือกใช้งานเจ้าตัวก่อน เกปา อาร์รีซาบาลาก้า และ วิลลี่ กาบาเยโร่ ในเกมลีก คัพ 

    ถึงแม้ว่า ติโม แวร์เนอร์ ไม่ได้ยิงจุดโทษในการตัดสินหาผู้ชนะเนื่องจากเป็นตะคริว ทำให้ดาวยิงทีมชาติเยอรมันถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับสภาพร่างกายว่าฟิตสมบูรณ์พอที่จะลงเล่นหรือไม่ แต่เชื่อว่าเจ้าตัวก็คงจะฟิตกลับมาได้ทันเวลาแน่นอน 

    ขณะที่ คริสเตียน พูลิซิช และ ฮาคิม ซิเย็ค ที่สลัดอาการบาดเจ็บกลับมาแล้ว ทว่ากุนซือหนุ่มไฟแรงก็เลือกที่จะให้เวลาทั้งคู่ได้เรียกความฟิตและเลือกใช้งานหลังจากช่วงพักเบรกทีมชาติทีเดียวเลย ส่วน บิลลี่ กิลมัวร์ ก็ยังไม่พร้อมช่วยทีมเช่นเดิม หลังจากที่กำลังพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า

    ทั้งนี้ มาร์กอส อลอนโซ่ ที่ทำผลงานได้น่าผิดหวังจนถูกเปลี่ยนตัวให้ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ลงสนามมาแทนในช่วงพักครึ่งแรกของเกมนัดก่อน, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ และ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ต่างกำลังตกเป็นข่าวย้ายทีมอยู่ในเวลานี้ และก็คงไม่มีชื่ออยู่ในทีมเหมือนเคย

    ทางด้านคริสตัล พาเลซ เพิ่งเปิดบ้านพ่ายเอฟเวอร์ตันในเกมลีกนัดที่แล้วทำให้ทีมเยือนเก็บได้ 6 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 3 นัด 

    รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือจอมเก๋า ยังคงประสบปัญหาขาดแคลนตัวเลือกในแนวรับหลังจากที่ นาธาน เฟอร์กูสัน, แกรี่ เคฮิลล์, เจมส์ ทอมกิ้นส์, พาทริค ฟาน อานโฮลท์ ยังไม่หายขาดจากอาการบาดเจ็บ และในเกมนี้ก็คงจะเร็วไปสำหรับ สกอตต์ แดนน์ และ คอนเนอร์ วิคแฮม

    ขณะที่ เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ ก็อาจจะฟื้นตัวจากอาการกล้ามเนื้อตึงกลับมาลงสนามได้ทันเวลา หลังเจ้าตัวพลาดโอกาสลงสนามในเกมนัดก่อน ทำให้เป็นโอกาสของ เอแบร์เรชี่ เอเซ่ ได้โอกาสสตาร์ตแทนสัปดาห์ที่แล้ว

    ส่วน มิชี่ บาตชูอายี่ จะไม่ได้ช่วยปราสาทเรือนแก้วในเกมนี้ เนื่องจากติดสัญญายืมตัวจากสิงโตน้ำเงินคราม 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม 

เชลซี (4-2-3-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ - รีซ เจมส์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ติอาโก้ ซิลวา, เบน ชิลเวลล์ - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช - เมสัน เมาน์ท, ไค ฮาแวร์ทซ์, ติโม แวร์เนอร์ - แทมมี่ อบราฮัม  ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด 

คริสตัล พาเลซ (4-4-2) : บิเซนเต้ กวาอิต้า - โจเอล วอร์ด, ชีกู กูยาเต้, มามาดู ซาโก้, ไทริค มิตเชลล์ - แอนดรอส ทาวน์เซนด์, เจมส์ แม็คคาร์ธี่, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ - จอร์แดน อายิว, วิลฟรีด ซาฮา ผู้จัดการทีม : รอย ฮ็อดจ์สัน 

 ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ 

ผลการพบกันที่ผ่านมา   วัน/เดือน/ปี รายการ        ผลการแข่งขัน 08/07/20    พรีเมียร์ลีก        คริสตัล พาเลซ แพ้ เชลซี    2-3 09/11/19    พรีเมียร์ลีก        เชลซี ชนะ คริสตัล พาเลซ    2-0 30/12/18    พรีเมียร์ลีก        คริสตัล พาเลซ แพ้ เชลซี    0-1 04/11/18    พรีเมียร์ลีก        เชลซี ชนะ คริสตัล พาเลซ    3-1 11/03/18    พรีเมียร์ลีก        เชลซี ชนะ คริสตัล พาเลซ    2-1

ผลงาน 5 นัดหลังสุด เชลซี 30/09/20    เสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 1-1 (เยือน) ลีกคัพ 26/09/20    เสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 3-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก 24/09/20    ชนะ บาร์นสลี่ย์ 6-0 (เหย้า) ลีกคัพ 20/09/20    แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก 15/09/20    ชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 3-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

คริสตัล พาเลซ 26/09/20    แพ้ เอฟเวอร์ตัน 1-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก 19/09/20    ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก 15/09/20    เสมอ เอเอฟซี บอร์นมัธ 0-0 (เยือน) ลีกคัพ 12/09/20    ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก 05/09/20    เสมอ บรอนด์บี้ 1-1 (เหย้า) กระชับมิตร