ทางการ! "เมอร์เท่นส์" ขยายสัญญานาโปลีถึงปี2022
- aywutwork2020
- 19 มิ.ย. 2563
- ยาว 4 นาที

ดรีส เมอร์เท่นส์ ดาวยิงร่างเล็ก นาโปลี ดับความหวังหลายๆ สโมสร เพราะล่าสุดสะบัดหมึกขยายสัญญากับต้นสังกัดออกไปจนถึงปี 2022 เรียบร้อย แถมมีออปชั่นเซ็นเพิ่มด้วย
นาโปลี สโมสรดังแห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ประกาศยืนยัน เมื่อวันพุธที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมาว่า ดรีส เมอร์เท่นส์ กองหน้าตัวเก่ง ได้จรดปากกาต่อสัญญาค้าแข้งในถิ่น สตาดิโอ ซาน เปาโล ออกไปจนถึงปี 2022 เป็นที่เรียบร้อย UFA23
เดิมที เมอร์เท่นส์ กำลังจะหมดสัญญากับ นาโปลี หลังจบฤดูกาลนี้ โดยที่เชื่อกันว่า เชลซี และ อินเตอร์ มิลาน ต่างให้ความสนใจที่จะเซ็นสัญญาคว้าตัวไปร่วมก๊วน ทว่าล่าสุด ดาวเตะทีมชาติเบลเยียมวัย 33 ปี ตัดสินใจขยายสัญญากับต้นสังกัดออกไปอีก 2 ปี พร้อมกับมีออปชั่นเซ็นเพิ่มอีก 1 ปีด้วย "นาโปลี มีความยินดีที่จะประกาศว่า ได้มีการตกลงกับ ดรีส เมอร์เท่นส์ เรียบร้อย สำหรับเรื่องสัญญาฉบับใหม่ โดย เมอร์เท่นส์ ได้ต่อสัญญาออกไปอีกสองปี พร้อมกับมีออปชั่นเซ็นเพิ่มอีกหนึ่งปี" นาโปลี แถลงการณ์ยืนยันผ่าน ทวิตเตอร์ แทงบอลเงินสด
ขณะที่ ออเรลิโอ เด เลาเรนติส ประธาน นาโปลี ก็ร่วมแสดงความยินดีผ่าน ทวิตเตอร์ ตัวเองเช่นกัน "ดีใจที่ได้อยู่ด้วยกันยาวๆ...ดรีส จงเจริญ!"
ทั้งนี้ เมอร์เท่นส์ ย้ายมาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เมื่อปี 2013 โดยจนถึงตอนนี้เจ้าตัวลงเล่นให้ นาโปลี ไปแล้วทั้งสิ้น 310 นัด ทำได้ 122 ประตู ซึ่งถือเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร
คอนเฟิร์ม!ยูฟ่ายัน12เมืองจัดศึกยูโร2020ตามเดิม
ยูฟ่า คอนเฟิร์มแล้ว 12 เมืองใหญ่ยังคงได้รับสิทธิ์ให้จัดศึก ยูโร 2020 ช่วงกลางปีหน้าตามเดิม พร้อมแจงวันเตะเพลย์ออฟเพื่อหาอีก 4 ทีมลุยทัวร์นาเมนต์

สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ประกาศยืนยัน เมื่อวันพุธที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมาว่า ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2020" ที่จะฟาดแข้งกันในระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน ถึง 11 กรกฎาคม ปีหน้านั้น จะกระจายแข่งขันใน 12 เมืองทั่วทวีปตามกำหนดเดิม
สำหรับ 12 เมืองที่คว้าสิทธิ์เป็นเจ้าภาพร่วมจัดศึก ยูโร 2020 มีดังต่อไปนี้
- กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน (รอบแบ่งกลุ่ม, รอบก่อนรองชนะเลิศ)
- กรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก (รอบแบ่งกลุ่ม, รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
- กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ (รอบแบ่งกลุ่ม, รอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบรองชนะเลิศ, รอบชิงชนะเลิศ)
- เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี (รอบแบ่งกลุ่ม, รอบก่อนรองชนะเลิศ)
- กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี (รอบแบ่งกลุ่ม, รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
- กรุงโรม ประเทศอิตาลี (รอบแบ่งกลุ่ม, รอบก่อนรองชนะเลิศ)
- กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศฮอลแลนด์ (รอบแบ่งกลุ่ม, รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
- กรุงดับลิน ประเทศสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (รอบแบ่งกลุ่ม, รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
- กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย (รอบแบ่งกลุ่ม, รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
- เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย (รอบแบ่งกลุ่ม, รอบก่อนรองชนะเลิศ)
- เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ (รอบแบ่งกลุ่ม, รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
- เมืองบิลเบา ประเทศสเปน (รอบแบ่งกลุ่ม, รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
ทั้งนี้ ยูโร 2020 มี 24 ทีมเข้าร่วมแข่งขัน โดยตอนนี้ได้ 20 ทีมเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์เรียบร้อย ซึ่งประกอบไปด้วย เบลเยียม, อิตาลี, รัสเซีย, โปแลนด์, ยูเครน, สเปน, ฝรั่งเศส, ตุรกี, อังกฤษ, สาธารณรัฐเช็ก, ฟินแลนด์, สวีเดน, โครเอเชีย, ออสเตรีย, ฮอลแลนด์, เยอรมนี, โปรตุเกส, สวิตเซอร์แลนด์, เดนมาร์ก และ เวลส์
ส่วนโควตาที่เหลืออีก 4 ทีม จะได้จากการเตะเพลย์ออฟหาทีมแชมป์จาก 4 พาธ ช่วงระหว่างวันที่ 8 ตุลาคม ถึง 12 พฤศจิกายน โดยโปรแกรมเตะมีดังต่อไปนี้ พาธ เอ
รอบรองชนะเลิศ (8 ต.ค.) - ไอซ์แลนด์ VS โรมาเนีย - บัลแกเรีย VS ฮังการี
รอบชิงชนะเลิศ (12 พ.ย.) N/A
พาธ บี
รอบรองชนะเลิศ (8 ต.ค.) - บอสเนียฯ VS ไอร์แลนด์เหนือ - สโลวาเกีย VS สาธารณรัฐไอร์แลนด์
รอบชิงชนะเลิศ (12 พ.ย.) N/A
พาธ ซี
รอบรองชนะเลิศ (8 ต.ค.) - สกอตแลนด์ VS อิสราเอล - นอร์เวย์ VS เซอร์เบีย
รอบชิงชนะเลิศ (12 พ.ย.) N/A
พาธ ดี
รอบรองชนะเลิศ (8 ต.ค.) - จอร์เจีย VS เบลารุส - มาซิโดเนีย VS โคโซโว
รอบชิงชนะเลิศ (12 พ.ย.)
เช็คชื่อได้เลย! "คล็อปป์" เล็งโละ6แข้งหลักซัมเมอร์
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล เล็งยกเครื่องใหม่แบบเต็มสูบด้วยการโละ 6 แข้งเพื่อหาเงินทุนมาใช้จ่ายในการคว้าตัวแข้งที่เล็งเอาไว้ตอนซัมเมอร์นี้ โดยงานนี้มีนักเตะตัวหลักหลายคน ที่จะต้องโบกมือลา

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมยกเครื่องขุมกำลังใหม่ โดยเล็งโละ 6 นักเตะทีมชุดใหญ่ในช่วงซัมเมอร์นี้ เนื่องจากต้องการระดมทุนเพื่อนำไปซื้อผู้เล่นเป้าหมายที่ต้องการคว้าตัวมาเสริมแกร่งในถิ่นแอนฟิลด์
ก่อนหน้านี้ เดอะ ซัน สื่อดังในเมืองผู้ดี รายงานว่า ลิเวอร์พูล พยายามอย่างเต็มที่ที่จะคว้า รูเบน เนเวส กับ อดาม่า ตราโอเร่ สองนักเตะกำลังสำคัญจาก "หมาป่า" วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ โดยงานนี้ว่ากันว่า "เดอะ เร้ดส์" จำเป็นต้องใช้เงินกว่า 110 ล้านปอนด์ (ราว 4,180 ล้านบาท) ในการกระชากทั้งคู่มาร่วมทีม
สำหรับ เนเวส คงจะไม่ได้โบกมือลาถิ่นโมลินิวซ์ กราวนด์ ด้วยค่าตัวน้อยกว่า 50 ล้านปอนด์ (ราว 1,900 ล้านบาท) ขณะที่ ปีกชาวสแปนิช น่าจะมีค่าตัวกว่า 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,280 ล้านบาท) ฉะนั้นงานนี้ ลิเวอร์พูล จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระดมทุนหากต้องการสองแข้งนี้
คล็อปป์ ยังคงต้องการเก็บ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม เอาไว้กับทีมแม้ว่านักเตะจะเหลือสัญญาเพียง 1 ปีก็ตาม ในขณะที่ นาบี เกอิต้า ซึ่งย้ายจาก ไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 52 ล้านปอนด์ (ราว 1,976 ล้านบาท) ยังคงได้รับโอกาสจาก กุนซือเลือดด๊อยท์ช อย่างน้อยอีก 1 ซีซั่นเพื่อพิสูจน์ศักยภาพของเขา
ส่วนนักเตะที่คาดว่าจะต้องเก็บข้าวของออกจากถิ่นแอนฟิลด์หลังจบฤดูกาลนี้ คนแรกก็คือ เซอร์ดาน ชากีรี่ ดาวเตะทีมชาติสวิตเซอร์แลดน์ ที่ตำแหน่งประจำอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง และมีข่าวว่า "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สนใจจะรับเซ้งต่อ หากมีการเทคโอเวอร์สโมสรเสร็จสิ้น
ตามด้วย ดิว็อค โอริกี้ ที่มีโอกาสโดนขายทิ้ง หลังจากนักเตะต้องพบกับความยากลำบากในการสอดแทรกเข้าไปเป็น 11 ตัวจริง เนื่องจากฟอร์มของเขาไม่สามารถทัดเทียม 3 ประสาน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ด้าน เดยัน ลอฟเรน เป็นอีก 1 แข้งที่จะต้องอำลาสโมสร เช่นเดียวกับ มาร์โก กรูยิช ที่เล่นแบบยืมตัวกับแฮร์ธ่า เบอร์ลิน และ แฮร์รี่ วิลสัน ซึ่งถูกส่งไปลับแข้งกับ บอร์นมัธ
ขณะที่ อดัม ลัลลาน่า มีความชัดเจนว่าจะแยกทางกับ ลิเวอร์พูล เมื่อหมดสัญญาหลังจบฤดูกาลนี้ โดยมีความเป็นไปได้สูงที่ มิดฟิลด์ชาวอังกฤษ จะย้ายไปร่วมกับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เจ้านายเก่า ที่ปัจจุบันกุมบังเหียน "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้
แฟร้งค์เฟิร์ตหืดอัดชาลเก้10คน ส่งราชันสีน้ำเงินไร้ชัยในลีก14เกมติด
"อินทรีแดงดำ" เปิดรังบดเอาชนะ ชาลเก้ ไปหวุดหวิด 2-1 คว้าสามแต้มพร้อมแซงขึ้นอันดับ 9 มีลุ้นตั๋วยุโรปลึกๆ ขณะที่ "ราชันสีน้ำเงิน" ยังแย่ต่อเนื่องทำสถิติไม่ชนะทีมใดมา 14 เกมติดในลีก ในศึกบุนเดสลีกา เมื่อคืนวันพุธที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา

สนาม : คอมแมร์ซบังก์ อารีน่า
เปิดฉากครึ่งแรก นาที 12 "อินทรีแดงดำ" ทักทายด้วยการยิงเข้ากรอบก่อนจากจังหวะที่ ฟิลิป คอสติช ตะบันด้วยซ้ายนอกกรอบจน อเล็กซานเดอร์ นือเบล ต้องออกแรงเหนื่อยเซฟออกไป
เจ้าบ้านยังกดดันต่อเนื่อง นาที 16 ไดจิ คามาดะ หลุดเข้าไปซัดมุมแคบทางขวาแต่บอลหลุดกรอบไปแบบได้เสียว ถัดมาอีกนาที คามาดะ ได้ซัดนอกกรอบด้วยขวาอีกหนแต่บอลยังเหินคานออกไป
คามาดะ ที่วันนี้เล่นได้โดดเด่นในช่วงต้นครึ่งแรก นาที 23 ได้ซัดเน้นๆ หน้ากรอบแต่บอลยังไปติดมือของ อเล็กซานเดอร์ นือเบล ปัดข้ามคานออกไป
นาที 28 แฟร้งค์เฟิร์ต มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่ทีมเยือนเสียการครองบอลโดน ฟิลิป คอสติช แย่งบอลไปได้ก่อนแทงขึ้นหน้าให้ ไดจิ คามาดะ กระชากเข้าไปแล้วปาดไปหน้าประตูให้ อันเดร ซิลวา ดึงจังหวะล็อคเข้าขวาแล้วยิงผ่านตัว นือเบล เข้าไปอย่างเยือกเย็น
นาที 40 เจ้าบ้านได้ฟรีคิกทางซ้าย คอสติช เล่นลูกสูตรเปิดมากลางประตูให้ ไดจิ คามาดะ ที่ยืนโล่งๆ ล็อคหนีแนวรับก่อนซัดด้วยขวาไปแฉลบ เวสตัน แม็คเคนนี่ ออกหลังเป็นเตะมุมอีก
จบครึ่งแรก แฟร้งค์เฟิร์ต ขึ้นนำ ชาลเก้ 1-0
ครึ่งหลัง เริ่มมาได้แค่ นาทีที่ 50 สกอร์ของเจ้าบ้านหนีห่างเป็น 2-0 บอลจากลูกเซ็ตเพลย์ ฟรีคิกทางด้านขวาเยื้องมุมธงด้านขวา ฟิลิป คอสติช เปิดบอลมาเสาสองอย่างแม่นยำให้ เดวิด อบราฮัม ขึ้นโหม่งเข้าไปไม่เหลือ
นาที 59 ชาลเก้ มาได้ประตูตีไข่แตกไล่เจ้าถิ่นมา 1-2 บอลจากฟรีคิกทางด้านขวาใกล้มุมธง อเลสซานโดร เชิพ์ฟ เปิดบอลมากลางประตูให้ เวสตัน แม็คเคนนี่ เทกตัวโขกบอลผ่านมือ เควิน ทรัปป์ เข้าไป
"อินทรีแดงดำ" เกือบได้ลุ้นในนาที 68 หลัง แดนนี่ ดา คอสต้า ผ่านบอลให้ ไดจิ คามาดะ ซัดด้วยขวาหน้าประตูแต่บอลเหินโด่งออกไป
ทัพราชันสีน้ำเงินดาหน้าบุกหวังไล่ตีเสมอให้ได้ นาที 75 บอลครอสจากด้านซ้ายมาให้ เวสตัน แม็คเคนนี่ โขกตั้งเข้ากลาง แร็บบี มาตอนโด้ ตามซ้ำด้วยขวาแต่ไปติดเซฟของ เควิน ทรัปป์ แต่ยังไม่พ้นอันตราย มิชาเอล เกรกอริตช์ ซัดด้วยขวาเข้าไปอีกแต่ยังติด เดวิด อบราฮัม แนวรับเจ้าถิ่นเคลียร์บอลจากเส้นประตู
นาที 77 ชาลเก้ ต้องเหลือแค่ 10 คน หลัง ชาน บอซโดกัน ไปโดนเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม
นาที 80 แฟร้งค์เฟิร์ต น่าจะได้ประตูที่สามนำห่างหลัง อันเดร ซิลวา หลุดเข้าไปแต่จังหวะซัดด้วยขวาหนีมือ นือเบล ดันยิงหลุดกรอบออกไปอย่างเหลือเชื่อ
นาที 83 แรบบี้ มาตอนโด้ กระชากบอลหลบแนวรับเจ้าถิ่นหลุดเข้าไปซัดด้วยขวามุมแคบแต่บอลยังไปติดตัว เควิน ทรัปป์ เซฟช่วยเจ้าถิ่นไว้ได้
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตู จบเกม แฟร้งค์เฟิร์ต เบียดเอาชนะ ชาลเก้ 2-1 เก็บสามแต้มแซงขึ้นอันดับ 9 มี 41 คะแนน ส่วน ชาลเก้ หล่นมาอยู่อันดับ 10 มี 39 คะแนน รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-5-2) : เควิน ทรัปป์ - เดวิด อบราฮัม, อีวาน เอ็นดิคก้า, มาโกโตะ ฮาเซเบะ - แดนนี่ ดา คอสต้า, โดมินิก โคห์ร, สเตฟาน อิลซานเคอร์, เซบาสเตียน โรเด้, ฟิลิป คอสติช - อันเดร ซิลวา, ไดจิ คามาดะ
เทรนเนอร์ : อาดี้ ฮึตเทอร์
ชาลเก้ (4-4-2) : อเล็กซานเดอร์ นือเบล - จอนโจ เคนนี่, โอซาน คาบัค, บาสเตียน อ็อคซิพก้า, มิรานด้า - ชาน บอซโดกัน, เวสตัน แม็คเคนนี่, อเลสซานโดร เชิพ์ฟ, ทิโม เบ็คเกอร์ - อาห์เม็ด คูตูกู, นาสซิม บูเยลลับ
อาร์เซน่อลตาลุก! "ซิลวา" เล็งค้าแข้งพรีเมียร์ลีก
งานนี้คงทำเอา "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ตาลุกวาวเลยทีเดียว เพราะล่าสุดมีข่าว ติอาโก้ ซิลวา ปราการหลังจอมเก๋าเลือดแซมบ้า ที่กำลังจะหมดสัญญากับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หวังโยกลุยเวที พรีเมียร์ลีก หลังจบซีซั่นนี้

ติอาโก้ ซิลวา เซนเตอร์แบ็กชาวบราซิเลียนของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยอดสโมสรลูกหนังแห่งเวที ลีก เอิง ฝรั่งเศส พร้อมที่จะลดค่าเหนื่อยตัวเอง เพื่อได้ย้ายมาค้าแข้งในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลหน้า ตามรายงานจาก เดอะ เทเลกราฟ สื่อชั้นนำเมืองผู้ดี เมื่อวันพุธที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ซิลวา เตรียมเก็บข้าวของอำลาถิ่น ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เมื่อหมดสัญญากับ เปแอสเช หลังจบฤดูกาลนี้ โดยที่มีกระแสข่าวว่า อาร์เซน่อล, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ เอฟเวอร์ตัน ต่างให้ความสนใจที่จะคว้าเจ้าตัวไปร่วมทีม ล่าสุด เดอะ เทเลกราฟ ระบุว่า ปราการหลังทีมชาติบราซิลวัย 35 ปี ล็อกเป้าที่จะย้ายมาโชว์เพลงแข้งในเวที พรีเมียร์ลีก โดยยินดีลดค่าเหนื่อยลงครึ่งหนึ่ง จากปัจจุบันที่รับจาก เปแอสเช สัปดาห์ละ 100,000 ปอนด์ (ประมาณ 3.9 ล้านบาท) ทั้งนี้ เชื่อกันว่า "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เป็นทีมเต็งที่จะได้ตัว ซิลวา เนื่องจากกุนซือ คาร์โล อันเชลอตติ เคยร่วมงานกับ อดีตแข้ง เอซี มิลาน ที่ เปแอสเช
ความคิดเห็น