นิวเมสซี่(อีกแล้ว)!ทำความรู้จักแข้งเป้าหมายแมนยู,ซิตี้ "ติอาโก้ อัลมาด้า"

"นิว เมสซี่" ฉายานี้ เหมือนเป็นฉายาที่บรรดานักเตะดาวรุ่งชาวอาร์เจนไตน์ที่มีร่างจิ๋ว, เล่นพลิ้วๆ และมีผลงานที่ดีได้รับ ด้วยความหวังที่จะให้เดินตามรอยยอดแข้งซูเปอร์สตาร์แห่ง บาร์เซโลน่า ผู้มีนามว่า ลิโอเนล เมสซี่ และคนล่าสุดที่ได้รับฉายานี้ก็คือ ติอาโก้ อัลมาด้า มิดฟิลด์อนาคตไกลของ เวเลซ ซาร์สฟิลด์ ที่ฟอร์มโดดเด่นมากๆ ในฤดูกาลนี้ จนมีข่าวได้รับความสนใจจากทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขณะที่ อาร์เซน่อล, อินเตอร์ มิลาน และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็กำลังจับตาดูสถานการณ์ของ ดาวเตะวัย 19 ปีรายนี้อยู่เช่นกัน แต่ "นิว เมสซี่" คนนี้เป็นใคร? มาจากไหน? เราไปทำความรู้จักกันเลยดีกว่า 

 - ประวัติโดยย่อ   มีชื่อเต็มว่า ติอาโก้ เอเซเกล อัลมาด้า เกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2001 ที่ย่านหนึ่งในกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา มีส่วนสูง 171 เซนติเมตร, หนัก 62 กิโลกรัม - เส้นทางนักเตะ

  อัลมาด้า เป็นเด็กปั้นของ เวเลซ ซาร์สฟิลด์ โดยตรง ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2018 หลังอายุครบ 17 ปีได้ไม่นาน และวันที่ 11 สิงหาคม ปีดังกล่าว เจ้าตัวก็ได้ประเดิมนัดแรกกับต้นสังกัด ซึ่งเป็นเกมที่ทีมเอาชนะ นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ 2-0 โดยเจ้าตัวลงเล่นราว 63 นาที และจนถึงตอนนี้ อัลมาด้า ลงเล่นให้ เวเลซ ซาร์สฟิลด์ ไปแล้วรวมทุกรายการ 46 นัด ทำได้ 9 ประตู - ตำแหน่งถนัด?

  เพลย์เมกเกอร์ตามแบบฉบับนักเตะเบอร์ 10 ถือเป็นตำแหน่งหลักของ อัลมาด้า แต่ก็สามารถเล่นเป็นตัวริมเส้นได้ทั้งฝั่งซ้ายและขวา เนื่องจากเล่นได้ทั้งสองเท้า แม้ถนัดเท้าขวาเป็นหลัก  - ผลงานซีซั่นนี้เป็นอย่างไรบ้าง? 

  ฤดูกาลนี้ อัลมาด้า ลงเล่นเกมลีกให้ เวเลซ ซาร์สฟิลด์ ไปทั้งสิ้น 22 นัด ทำได้ 4 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ แม้ได้สตาร์ทเป็นตัวจริงแค่ 10 นัด แต่เจ้าตัวก็ได้รับคำชื่นชมอย่างมากเกี่ยวกับฟอร์มการเล่น - ประสบการณ์ระดับทีมชาติ   อัลมาด้า ยังไม่ถูกดันขึ้นสู่ทีมชาติอาร์เจนตินาชุดใหญ่ แต่ก็อาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยปัจจุบันเจ้าตัวลงเล่นให้ทัพ "ฟ้า-ขาว" รุ่นอายุไม่เกิน 20 ไป ไปแล้ว 7 นัด ทำได้ 1 ประตู - ค่าตัว

  ตามกระแสข่าวบอกว่า อัลมาด้า มีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 22 ล้านยูโร (ประมาณ 770 ล้านบาท) แต่มีเงื่อนไขใช้ได้จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้เท่านั้น โดยปัจจุบันเจ้าตัวเหลือสัญญากับ เวเลซ ซาร์สฟิลด์ ถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม ปี 2023 - ไอดอลของเขาคือ...

คาร์ลอส เตเวซคือหนึ่งในนักเตะที่ อัลมาด้า ยึดเป็นแบบอย่าง แม้ เตเวซ เคยเล่นให้กับทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่เจ้าตัวได้รับอิทธิพลการเล่นจาก "เตฟ" สมัยอยู่กับ "เรือใบฟ้า" มากกว่า ทำให้ช่วงหลังๆ มานี้มีกระแสข่าวว่า แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสได้ตัว อัลมาด้า เหนือกว่าทีมคู่ปรับร่วมเมือง UFA23

เดอะค็อปเฮลั่น!พรีเมียร์ลีกยันพร้อมจัดงานมอบถ้วยแชมป์ให้ลิเวอร์พูล  

งานนี้รถแห่ต้องพร้อม... พรีเมียร์ลีก คอนเฟิร์มแล้ว ยินดีจัดพิธีมอบถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก ให้กับ ลิเวอร์พูล เพื่อให้คู่ควรกับผลงานอันยอดเยี่ยมของทัพ "หงส์แดง" ในซีซั่นนี้ 

 ริชาร์ด มาสเตอร์ส ประธานบริหาร พรีเมียร์ลีก ยืนยันว่า พวกเขาสนับสนุนให้มีการจัดงานมอบโทรฟี่แชมป์ พรีเมียร์ลีก ให้กับ ลิเวอร์พูล ถ้าหาก "หงส์แดง" สามารถการันตีคว้าแชมป์ฤดูกาลนี้มาครองได้สำเร็จ และสามารถจัดพิธีมอบแชมป์ได้อย่างปลอดภัย 

    ถึงแม้ยังไม่มีการกำหนดวันรีสตาร์ทซีซั่น หลังจากที่เกมการแข่งขันถูกระงับมานานร่วม 2 เดือน เพราะเจอวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส "โควิด-19" แต่ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล รั้งตำแหน่งจ่าฝูงในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก โดยมีคะแนนทิ้งห่างอันดับสองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึง 25 แต้ม ซึ่งพวกเขาต้องการชัยชนะอีกแค่ 2 เกมเท่านั้น (จาก 9 เกมที่เหลือ) เพื่อการันตีตำแหน่งแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีครั้งแรกในรอบ 30 ปี แทงบอลเงินสด

 "ถ้าทุกอย่างสามารถเป็นไปได้ ก็เอาเลย คุณเองก็อยากให้มีการมอบแชมป์อยู่แล้ว เพราะคุณอยากให้บรรดานักเตะและทีมสต๊าฟฟ์ของพวกเขาได้มีโมเมนต์ดีๆ หลังจากที่ทุ่มเททำงานหนัก ถ้าสามารถทำได้จริง ก็จัดสิ เราจะพยายามทำให้ เว้นเสียแต่ว่า มันทำไม่ได้จริงๆ หากมีความกังวลด้านความปลอดภัย" มาสเตอร์ส กล่าว เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา 

    ทั้งนี้ ทุกสโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก เพิ่งได้รับอนุญาตให้นักเตะลงซ้อมแบบทีมได้ ตั้งแต่วันอังคารที่ 19 พ.ค. เป็นต้นไป 

เตรียมเป็นตำนาน!เมอร์เท่นส์โอเคต่อสัญญากับนาโปลีอีก2ปี

สกายสปอร์ต อิตาเลีย สื่อกีฬาของอิตาลี ระบุ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ หัวหอกจอมเก๋าของ นาโปลี ตกลงต่อสัญญากับทีม 2 ปีแล้ว โดยมันมีอ็อปชั่นที่จะให้เขาเป็นกุนซือหรือโค้ชของทีมเมื่อหมดสัญญาด้วย

    ดรีส์ เมอร์เท่นส์ กองหน้าประสบการณ์สูงของ นาโปลี ยอดสโมสรแห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ตกลงเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับทีมเป็นเวลา 2 ปีแล้ว ตามรายงานของ สกายสปอร์ต อิตาเลีย สื่อกีฬาชั้นนำของเมืองมะกะโรนี

    เมอร์เท่นส์ ถือเป็นกำลังสำคัญในเกมรุกของ นาโปลี ตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยนับตั้งแต่ที่ย้ายมาจาก พีเอสวี ไอนด์โอเฟ่น เมื่อปี 2013 เขาก็ลงเล่นไปแล้ว 309 นัดในทุกรายการ พร้อมกับทำได้ 121 ประตู โดยถ้านับเฉพาะซีซั่นนี้เขาทำไปแล้ว 12 ประตู จากการลงเล่น 29 นัดในทุกรายการ

    ทั้งนี้ เดิมที เมอร์เท่นส์ จะหมดสัญญากับ นาโปลี ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ นั่นหมายความว่าเขามีโอกาสที่จะได้ย้ายทีมแบบไร้ค่าตัว ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ตกเป็นข่าวกับ เชลซี และ อินเตอร์ มิลาน หนักพอตัว อย่างไรก็ตาม ล่าสุดก็มีข่าวลือว่าเจ้าตัวตกลงที่จะอยู่กับทีมไปจนถึงปี 2022 เป็นอย่างน้อยแล้ว โดยว่ากันว่า เจนนาโร่ กัตตูโซ่ เทรนเนอร์ของทีมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดีลนี้จบลงด้วยดี เพราะอดีตมิดฟิลด์คนดังยืนยันกับคนใหญ่คนโตของทีมว่าต้องจับ เมอร์เท่นส์ ต่อสัญญาให้ได้

    นอกจากนี้ สัญญาฉบับใหม่ที่ นาโปลี ยื่นให้กับ เมอร์เท่นส์ นั้น มีอ็อปชั่นที่จะให้แข้งวัย 33 ปี ได้รับงานกุนซือหรือสตาฟฟ์โค้ชของสโมสรเมื่อถึงเวลาที่สัญญาหมดลงด้วย

มาสนามซ้อมแล้วด้วย!เอสเซียงเผยเกือบซบลิเวอร์พูลช่วงละอ่อน

ไมเคิ่ล เอสเซียง ระบุ สมัยอยู่กับ บาสเตีย เคยเกือบจะมาซบ ลิเวอร์พูล แล้ว โดยตอนนั้นถึงขั้นมาเจรจาการย้ายทีมถึง เมลวู้ด สนามซ้อมของ "หงส์แดง" ด้วย

    ไมเคิ่ล เอสเซียง กองกลางประสบการณ์สูงชาวกานา เปิดเผยว่าตอนช่วงแรกๆ ในอาชีพการค้าแข้งตนเคยเกือบที่จะย้ายมาเล่นให้ ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

    เอสเซียง เริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักเตะอาชีพกับ บาสเตีย ในปี 2000 ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับ โอลิมปิก ลียง ในปี 2003 แล้วจากนั้นก็มาสร้างชื่อกับ เชลซี ในปี 2005 ส่วนตอนนี้แข้งวัย 37 ปีกำลังเล่นให้กับ ซาบาอิล สโมสรในประเทศอาเซอร์ไบจาน

    เอสเซียง เผยว่า"ผมได้รับข้อเสนอเยอะมาก (ตอนอยู่ บาสเตีย) ผมเกือบจะได้ย้ายไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในตอนที่ เชราร์ด อุลลิเย่ร์ ยังเป็นโค้ชของที่นั่นด้วย ผมถึงขั้นไปที่ เมลวู้ด เพื่อพบกับโค้ชของพวกเขาด้วยซ้ำ เรามีการเจรจากัน แล้วจากนั้นผมก็กลับไปที่ฝรั่งเศส แต่ผมก็ยังได้รับข้อเสนอจาก เปแอสเช และ โอลิมปิก มาร์กเซย เพิ่มอีก"

    "อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นผมบอกกับ บาสเตีย ไปว่าผมไม่อยากย้ายไปไหนทั้งนั้น และตอนนั้นพวกเขาก็ไม่อยากขายผมเหมือนกัน เพราะพวกเขาอยากให้ผมอยู่กับทีมต่อไปอีก 1 ฤดูกาล ซึ่งผมก็โอเคกับเรื่องนั้น เพราะผมเองก็ไม่ได้อยากย้ายออกจากทีมอยู่แล้ว ดังนั้นผมเลยอยู่กับทีมต่ออีก 1 ฤดูกาล จนทำให้ผมได้อยู่กับทีมเป็นซีซั่นที่ 3"

    "จากนั้น ลียง ก็เข้ามาให้ความสนใจในตัวผมเช่นเดียวกับ 3 ทีมในเบื้องต้น ตอนนั้นผมคิดว่ามันยังเร็วเกินไปที่จะไปเล่นที่อังกฤษ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมย้ายไปอยู่กับ ลียง แล้วจากนั้นค่อยย้ายไปอยู่กับ เชลซี ในยุคของ มูรินโญ่ ลียง เป็นทีมโปรดของผมในตอนที่ผมย้ายไปเล่นที่ฝรั่งเศสอยู่แล้ว เพราะพวกเขากวาดแชมป์ได้ในทุกรายการที่ลงเล่น ผมบอกกับเอเยนต์ของผมว่าถ้าเกิด ลียง ให้ความสนใจในตัวผมแล้วล่ะก็ ผมก็อยากจะย้ายไปอยู่กับพวกเขา"