ยังไม่แจ่ม!แลมพาร์ดชี้เชลซีต้องคมกว่านี้แม้กดลีดส์3ตุง
- aywutwork2020
- 10 ธ.ค. 2563
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 31 ม.ค. 2564
แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี ชี้ทีมตนยังไม่ค่อยแจ่มเรื่องการจบสกอร์ แม้เปิดบ้านอัด ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-1
พร้อมอัพเดตอาการเดี้ยงของแข้งตัวเก่งอย่าง ฮาคิม ซิเยค แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี เชื่อว่า ทีมตนจำเป็นต้องยกระดับประสิทธิภาพการจบสกอร์
ถึงแม้คว้าชัยชนะได้ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดล่าสุด ที่เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ พิชิต ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา ลีดส์ เป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 4 จากการยิงของ แพทริค แบมฟอร์ด ทว่านาทีที่ 27 เชลซี ตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้ จากการยิงของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ก่อนที่จะพลิกขึ้นนำ 2-1 ในนาทีที่ 61 จากการโขกของ เคิร์ต ซูม่า และนาทีที่ 90+3 พวกเขาก็มาได้ประตูย้ำชัย 3-1 จากการยิงระยะเผาขนของ คริสเตียน พูลิซิช ซึ่งชัยชนะนัดนี้ทำให้ "สิงห์บลูส์" ขึ้นรั้งตำแหน่งจ่าฝูงชั่วคราว ด้วยการมี 22 แต้ม จากการลงแข่ง 11 นัด สล็อต น่าเล่น "ตอนแรกผมก็หวั่นๆ ลีดส์ อยู่เหมือนกันนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณยังปิดเกมไม่ได้ เพราะพวกเขาเป็นทีมที่อันตรายยันวินาทีสุดท้าย ถ้าเป็นวันอื่น เราคงจะทำได้ห้าหรือหกประตูไปแล้ว และน่าจะปิดเกมได้ไม่ยาก

ซึ่งตรงจุดนี้เราจำเป็นต้องปรับปรุง และต้องมีความเฉียบขาดมากขึ้น แต่ผมก็ดีใจมากๆ ที่เก็บชัยชนะได้ เพราะ ลีดส์ เป็นทีมที่ดีมาก แถมมีโค้ช (มาร์เซโล่ บิเอลซ่า) ที่เก่ง ซึ่งเราก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า มันจะเป็นเกมที่ยากแน่นอน" นายใหญ่ เชลซี เปิดใจหลังเกม เกมนี้ ฮาคิม ซิเยค มิดฟิลด์ตัวเก่ง เชลซี มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน จนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 30 ซึ่ง แลมพาร์ด คอนเฟิร์มว่า ดาวเตะทีมชาติโมร็อกโกวัย 27 ปี เจ็บตรงกล้ามเนื้อหลังต้นขาขวา "เขาเจ็บที่แฮมสตริง อีก 2-3 วันข้างหน้าเราจะต้องหาคำตอบให้ได้ว่า อาการบาดเจ็บของเขาอยู่ในระดับไหน" กุนซือเลือดผู้ดีวัย 42 ปี ระบุ
ราฮีมยิงแล้ว-เดอบรอยน์ฮอตอีก! แมนซิตี้พับสนามอัดฟูแล่ม ครั้งที่5
"เรือใบสีฟ้า" เจองานง่ายหลังเปิดบ้านไล่บดเอาชนะ ฟูแล่ม แบบไม่ยาก 2-0 ราฮีม สเตอร์ลิง ยิงได้แล้วในรอบเดือนกว่า ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายอีกหนึ่งและซัดจุดโทษปิดกล่อง พาทีมเก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 18 คะแนน แซงขึ้นรั้งอันดับ 5 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา การแข่งขันศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2563 ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 11 พบ ฟูแล่ม ทีมอันดับ 17 ของตาราง เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ ยังไม่มี เซร์คิโอ อเกวโร่ โดยแนวรุกยังนำมาโดย เควิน เดอ บรอยน์, ริยาด มาห์เรซ, ราฮีม สเตอร์ลิง คอยทำเกมอยู่ด้านหลัง กาเบรียล เชซุส ที่ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า ขณะที่ ฟูแล่ม ส่งแกนหลักลงครบครันนำทัพโดย อิวาน กาวาเลยโร่ หัวหอกตัวเป้า โดยมี รูเยน ลอฟตัส ชีค และ อเดโมล่า ลุคแมน ทำเกมอยู่ด้านหลังครึ่งแรกเริ่มเกมมาเพียง 3 นาที แมนซิตี้ เกือบขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะการแทงทะลุช่องของ ริยาด มาห์เรซ ให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ASIAXX1 หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษทางฝั่งซ้าย แต่ยังยิงไปติดเซฟของ อัลฟงส์ อเรโอล่าแต่ถึงกระนั้น นาทีที่ 5 เควิน เดอ บรอยน์ แทงทะลุช่องให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดเดี่ยวไปอีกครั้ง ก่อนที่คราวนี้จะยิงสวนทางของ อัลฟงส์ อเรโอล่า ส่งบอลเข้าประตูไปให้ แมนซิตี้ ขึ้นนำ 1-0 เท่านั้นไม่พอ นาที 25 โยอาคิม อันเดอร์เซ่น ไปสกัดใส่ ราฮีม สเตอร์ลิง ล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษให้ แมนซิตี้ ทันที ก่อนจะเป็น เควิน เดอ บรอยน์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดส่ง แมนซิตี้ นำห่างเป็น 2-0 หลังจากนั้นยังเป็น "เรือใบสีฟ้า" ที่ครองเกมเหนือกว่าชัดเจน แต่ทำประตูเพิ่มไมได้ ทำให้จบครึ่งแรก แมนซิตี้ นำ ฟูแล่ม สบาย 2-0 กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง "ซิตี้" ยังคงครองเกมและพับสนามบุกเหมือนเดิม นาที 50 เควิน เดอ บรอยน์ กดเน้นๆในกรอบแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ อัลฟงส์ อเรโอล่า อีก 8 นาทีถัดมา เดอ บรอยน์ ได้ซัดด้วยขวาอีกแต่ก็ยังเข้ามือจอมหนึบของฟูแล่ มอีกครั้ง

โอกาสยิงเข้ากรอบหนแรกของ ฟูแล่ม ต้องรอถึงนาทีที่ 76 หลัง อิวาน กาวาเลยโร่ ได้บอลทางขวาเลี้ยงตัดเข้ากลางก่อนกดด้วยซ้ายเสาแรกแต่บอลยังเบาไปเข้ามือ เอแดร์ซอน ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่บดเอาชนะ ฟูแล่ม 2-0 คว้าสามแต้มมีเพิ่มเป็น 18 คะแนน ขึ้นไปรั้งอันดับ 5 ก่อนชั่วคราว ส่วน ฟูแล่ม แพ้เป็นเกมที่ 8 จากการลงเล่น 11 นัดมี 7 คะแนนรั้งอันดับ 17 ของตาราง รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, จอห์น สโตนส์, เบนฌาแม็ง เมนดี้ - โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน - ริยาด มาเรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง - กาเบรียล เชซุส ฟูแล่ม (5-4-1) : อัลฟงส์ อเรโอล่า - โอล่า ไอน่า, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น, โทซิน อดาราบิโอโย่, แอนโทนี โรบินสัน - รูเบน ลอฟตัส-ชีค (ทอม แคร์นี่ย์ น.83), แฮร์ริสัน รีด (มาริโอ เลอมิน่า น.68), อองเดร ซอมโบ อองกีสซ่า, อเดโมล่า ลุคแมน, บ็อบบี้ รีด (อาบูบาการ์ กามาร่า น.72) - อิวาน กาวาเลยโร่
ความคิดเห็น