top of page
ค้นหา

ลูกยิงสำคัญ!โชต้าปลื้มทำประตูช่วยลิเวอร์พูลคว้าชัย

  • aywutwork2020
  • 6 พ.ย. 2563
  • ยาว 3 นาที

อัปเดตเมื่อ 9 ธ.ค. 2563



 ดิโอโก้ โชต้า ปีกตัวทีเด็ด ลิเวอร์พูล สุดปลื้มหลังทำประตูชัยช่วยทีมเปิดบ้านเชือด เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 เผยตนศึกษาเกมตลอดตอนนั่งสำรองข้างสนาม 

ree

 ดิโอโก้ โชต้า ปีกชาวโปรตุกีสของ ลิเวอร์พูล ยอมรับว่า ประตูที่ทำได้มีความหมายอย่างมากสำหรับตน หลังลงสำรองไปยิงประตูชัย ช่วย สล็อต ได้เงินจริง "หงส์แดง" เปิดรัง แอนฟิลด์ พลิกเชือด เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา      ทีมเยือนเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 10 จากการยิงของ ปาโบล ฟอร์นัลส์ ทว่าช่วงท้ายครึ่งแรกในนาทีที่ 42 ลิเวอร์พูล ตีเสมอได้ จากการสังหารลูกจุดโทษของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 

     ช่วงครึ่งหลัง โชต้า ถูกส่งลงสนามในนาทีที่ 70 และนาทีที่ 78 เจ้าตัวสามารถส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้ ทว่า VAR ชี้ว่า จังหวะนั้น ซาดิโอ มาเน่ ทำฟาวล์ใส่นักเตะคู่แข่งก่อน อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 85 โชต้า ได้บอลจาก เซอร์ดาน ชากิรี่ หลุดเข้าไปทำประตูชัย 2-1 ช่วย ลิเวอร์พูล เก็บ 3 แต้มสำคัญ พร้อมขึ้นรั้งตำแหน่งจ่าฝูงในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก ด้วยการมี 17 แต้ม จากการลงแข่ง 7 นัด 

 "แน่นอนว่า มัน (ประตู) มีความหมายมากๆ สำหรับผม ตอนผมนั่งอยู่ข้างสนาม ผมมองดูเกมและคิดอยู่ตลอดเวลาว่า ผมสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อสร้างความแตกต่าง และปลดล็อดผลการแข่งขันให้กับทีม จริงๆ แล้วเกมนี้ผมทำได้สองประตูด้วย โชคร้ายที่นับเป็นประตูแค่ลูกเดียว แต่สุดท้ายเราก็ได้ชัยชนะ ซึ่งนั่นถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดแล้ว"      "แน่นอนว่า การลงเล่นช่วงเวลาแบบนั้น ต้องพยายามเล่นให้มีชีวิตชีวาเข้าไว้ เพราะทีมคู่แข่งเริ่มล้า ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือ ขยันเคลื่อนที่กันเข้าไว้ มูฟเมนต์ไปเรื่อยๆ และสุดท้ายผมสามารถหาพื้นที่เข้าไปจบสกอร์ ซึ่งก็มาจากการผ่านบอลที่ยอดเยี่ยมของ (เซอร์ดาน) ชากิรี่" สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสวัย 23 ปี เปิดใจหลังเกม 

     สำหรับฤดูกาลนี้ โชต้า ที่เพิ่งย้ายมาจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ในช่วงซัมเมอร์ ทำไปแล้ว 4 ประตู จากการลงเล่นให้ "หงส์แดง" รวมทุกรายการ 9 นัด


โชต้าฮีโร่อีกแล้ว! 5 ประเด็นเด็ดหลังลิเวอร์พูลเบียดชนะเวสต์แฮม

ree

เป็นอีกครั้งในฤดูกาลนี้ที่ ลิเวอร์พูล หืดจับอยู่พอสมควรแต่ยังคว้าสามแต้มได้สำเร็จซึ่งคงพูดไม่ผิดหากจะบอกว่ามันเป็นคุณสมบัติของทีมลุ้นแชมป์ แต่เกมนี้ต้องชม เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่เปลี่ยนตัวสำรองลงมาและมีส่วนร่วมกับประตูชัยในครึ่งเวลาหลัง เราพาทุกท่านมาเจาะลึกประเด็นที่น่าสนใจในเกมที่ "หงส์แดง" เฉือนชนะเวสต์แฮม

1.ฮีโร่หน้าเดิม

ree

    เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล ประสบปัญหาการหมุนเวียนผู้เล่นในแดนหน้า พวกเขาไม่มีนักเตะที่ไว้ใจได้ในม้านั่งสำรองไม่ว่าจะเป็น ดิว็อค โอริกี้ หรือ ทาคูมิ มินามิโนะ ขณะที่ ASIAXX1 เซอร์ดาน ชากิรี่ เจอกับอาการบาดเจ็บบ่อยครั้ง  ทำให้ คล็อปป์ จำเป็นต้องใช้นักเตะหน้าเดิมในช่วงที่มีโปรแกรมหนักต่อเนื่อง ทว่าฤดูกาลนี้การเข้ามาของ ดีโอโก โชต้า ทำให้ยกระดับทีมไปได้มากเหลือเกิน

    สัปดาห์ที่แล้ว ดีโอโก้ โชต้า ซัดประตูชัยในเกมพบ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ขณะที่ช่วงกลางสัปดาห์เขาเป็นคนยิงประตูปลดล็อกให้ทีมเอาชนะ มิดทิลลันด์  สัปดาห์นี้เจ้าตัวยังคงคอนเซ็ปเป็นฮีโร่อีกเช่นเคยหลังลงมากดประตชัยในครึ่งเวลาหลัง

    โชต้า กลายเป็นนักเตะลิเวอร์พูลเพียงคนที่สองเท่านั้นที่สามารถยิงประตูในพรีเมียร์ลีก 3 เกมแรกที่แอนฟิลด์ ต่อจาก หลุยส์ การ์เซีย ที่เคยทำไว้ในปี 2004 “เดอะ ค็อป” คงมองว่าเงิน 40 กว่าล้านปอนด์ที่จ่ายไปถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียวกับผลงานในตอนนี้ 

2.แนทฟิลลิปส์เดบิวต์แจ่ม!

ree

 เจอร์เก้น คล็อปป์ คงปวดหัวไม่น้อยหลังจาก เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังคนสำคัญต้องเข้ารับการผ่าตัดทำให้แทบจะปิดเทอมยาว ส่วนตัวแบ็กอัพอย่าง ฟาบินโญ่ ที่ถอยมาเล่นเซนเตอร์แบ็กแทนก็มาโชคร้ายบาดเจ็บอีกคน

    รีส วิลเลียมส์ ปราการหลังดาวรุ่งอนาคตไกลเข้ามามีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่มากขึ้นในฤดูกาลนี้ไม่ว่าจะเป็นในรายการ คารบาว คัพ หรือ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้เขาถูกคาดหมายว่าจะได้รับโอกาสประเดิมสนามในเกมลีกนัดแรกในเกมกับ เวสต์แฮม ทว่า คล็อปป์ กลับเลือกใช้ นาธาเนี่ยล ฟิลลิปส์ กองหลังวัย 23 ปีอีกหนึ่งเด็กปั้นของ “หงส์แดง” ซึ่งโดนปล่อยยืมให้ สตุ๊ตการ์ท เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ถือว่าเซอร์ไพรส์อยู่พอสมควรแต่ต้องบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องทีเดียว

    นี่เป็นการประเดิมออกสตาร์ทตัวจริงในพรีเมียร์ลีก แต่เจ้าตัวทำผลงานยอดเยี่ยมเหมือนกับเล่นกับทีมชุดใหญ่มานาน โดยเฉพาะการดวลลูกกลางอากาศกับ เซบาสเตียง อัลแลร์ กองหน้าของเวสต์แฮม สถิติเกมนี้ของเขามีทั้งการเคลียร์บอล 9 ครั้ง, เอาชนะลูกกลางอากาศ 5 ครั้ง, ตัดบอล 2 ครั้ง

    ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของ แนท ฟิลลิปส์ หลังจากนี้เราคงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะรักษาฟอร์มได้ดีขนาดไหน 

3.มอยส์ยังยิ้มได้

ree

   แม้ว่า “ขุนค้อน” จะพบกับความพ่ายแพ้ที่แอนฟิลด์ แต่ก็ต้องชมแนวรับของพวกเขาในเกมนี้ที่เล่นอย่างมีวินัย น่าเสียดายที่ลูกทีมของ เดวิด มอยส์พลาดสองจังหวะในช่วงท้ายครึ่งแรกและครึ่งหลังซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญส่งผลถึงความปราชัยในทันที

    แต่มองในแง่ดีแนวรุกถือว่าคมทีเดียวกับโอกาสที่เกิดขึ้นในเกมนี้ อีกอย่าง 5 เกมลีกหลังสุด อย่าลืมว่า เวสต์แฮม ต้องเจอกับจ่าฝูงและรองจ่าฝูงเมื่อฤดูกาลที่แล้ว บวกกับทีมฟอร์มแกร่งอย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน และอีกสองทีมที่เล่นฟุตบอลยุโรปอย่าง สเปอร์ส และ เลสเตอร์ ซิตี้ ทว่าพวกเขาเก็บผลการแข่งขันในภาพรวมได้ดีทีเดียว

    เมื่อ เวสต์แฮม เปิดฤดูกาลด้วยการพ่ายแพ้ นิวคาสเซิ่ล และ อาร์เซน่อลหลายคนคงมองว่าพวกเขามีแววต้องมาลุ้นหนีตายเหมือนซีซั่นที่แล้ว แต่ปรากฎว่าหลังจากนั้น มอยส์ นำลูกทีมเก็บชัยเหนือ “หมาป่า” และ “จิ้งจอก” พร้อมกับเสมอทั้ง สเปอร์ส และ แมนฯ ซิตี้ ด้วย แถมเกมนี้ยังเกือบบุกเสมอ ลิเวอร์พูล อีกต่างหาก เป็นฟอร์มที่ไม่ธรรมดาทีเดียว

    หลังจากนี้โปรแกรมของพวกเขาจะไม่หนักมากเท่าไหร่ทั้งการเจอ ฟูแล่ม และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ดังนั้น “ขุนค้อน” คงต้องรักษาฟอร์มที่เจอกับทีมใหญ่ให้ได้และนำมาใช้ในเกมกับทีมในระดับเดียวกัน

4.สุดยอดสถิติที่แอนฟิลด์

ree

 นอกจากชัยชนะนัดนี้จะเป็นการขยับขึ้นจ่าฝูงของตารางแล้ว ทัพ “เดอะ เร้ดส์” ยังทำสุดยอดสถิติอีกด้วย โดย ลิเวอร์พูล ยังคงไร้พ่ายเกมลีกในแอนฟิลด์เป็นนัดที่ 63 ติดต่อกันแล้วซึ่งถือว่าเทียบเท่ากับสถิติสูงสุดของสโมสร

    คริสตัล พาเลซ เป็นทีมสุดท้ายที่เอาชนะ ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ โดยนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2017  "หงส์แดง" เก็บชัยชนะเกมลีกในบ้านมากถึง 52 นัด ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คว้าแชมป์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

    สถิติไร้พ่ายในบ้านของเดิมนั้นตำนานกุนซืออย่าง บ็อบ เพสลี่ย์ ทำไว้ในปี 1978-1981 ดังนั้น คล็อปป์ เหลืออีกแค่เกมเดียวเท่านั้นจะทำลายสถิติได้สำเร็จซึ่งเกมถัดไปในแอนฟิลด์จะมีขึ้นหลังโปรแกรมทีมชาติโดยจะต้อนรับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี้

5.งานหนักก่อนพักเบรก

ree

 การเก็บชัยชนะในเกมกับ เวสต์แฮม ถือว่าสำคัญหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลการแข่งขันหรือความมั่นใจเพราะสองเกมถัดไปของลิเวอร์พูลเรียกได้ว่าเจอของแข็งอย่างแท้จริง

    เกมกลางสัปดาห์นี้ “หงส์แดง” จะกลับไปทำศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก โดยจะต้องบุกไปเยือนคู่แข่งสุดแกร่งในกลุ่มดีอย่าง อตาลันต้า ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมที่มีเกมรุกน่ากลัวที่สุดใน เซเรีย อา ถึงแม้ว่าฤดูกาลนี้ฟอร์มจะยังไม่คงที่แต่ถึงยังไงพวกเขาก็ยังมีความอันตรายและสามารถต่อกรกับทีมยักษ์ใหญ่ได้ 

    ขณะที่สุดสัปดาห์หน้า คล็อปป์ จะต้องพาลูกทีมไปลุยคู่แข่งลุ้นแชมป์อย่าง แมนฯ ซิตี้ ที่รังเอติฮัด สเตเดี้ยม เป็นสองเกมที่น่าดูน่าชมทีเดียว หากลิเวอร์พูลเก็บชัยได้ทั้งสองนัดก็คงได้รับคำชมล้นหลาม หากหลีกเหลี่ยงความปราชัยได้ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับการสู้ศึกในระยะยาวฤดูกาลนี้


ชนะ7นัดติด!  เอ็มบั๊ปเป้โชว์-ปารีสฮอตบุกอัดน็องต์นำจ่าฝูงต่อ

ree

คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ โชว์ฟอร์มได้สุดยอดอีกตามเคยหลังทั้งยิงและจ่าย ก่อนพา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง บุกถล่ม น็องต์ 3-0 คว้าชัยในลีก 7 เกมติดต่อกัน มี 21 แต้มนำจ่าฝูงต่อไป ในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

สนาม : สต๊าด เดอ ลา โบชัวร์ 

    ครึ่งแรก นาที 12 ทีมเยือนเปแอสเช ได้ลุ้นจากลูกเตะมุมก่อนเลย ราฟินญ่า เปิดมาเข้าหัว ดานิโล่ เปเรยร่า ขึ้นโขกหลุดกรอบออกไป

    แค่นาที 25 น็องต์ ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกอย่างรวดเร็วหลัง โมเสส ไซม่อน ปีกซ้ายตัวเก่งมีอาการเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องส่ง อับดุล เคเดอร์ บ็อมบา ลงเล่นแทน

    ทีมเยือนโอกาสเข้าทำแบบจะๆ เน้นๆ ไม่มีเท่าไหร่ และเกือบจะโดนเสียด้วยหลังนาที 36 เปโดร ชิริเบย่า จ่ายบอลให้ ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ซัดด้วยขวาหลุดกรอบ

    จบครึ่งแรกแบบจืดๆ เปแอสเช บุกมาทำอะไรน็องต์ไม่ได้ เสมอแบบไร้สกอร์ 0-0

    ครึ่งหลัง เริ่มเกมมาได้แค่นาทีที่ 47 เปแอสเช ชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ผ่านบอลมาหน้าประตูให้ อันเดร์ เอร์เรร่า ซัดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเฉียบขาด

    จากนั้น นาที 65 ฌอง-ชาร์ลส์ กัสแตลเล็ตโต้ ไปกระแทกพลัก คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ ก่อนที่ เอ็มบั๊ปเป้ จะลุกมาสังหารเข้าไปไม่เหลือให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง บุกมานำห่าง 2-0

    ทว่าอีก 4 นาทีถัดมา โกแร็ง ดักบ้า แบ็กขวาปารีสฯ มาทำเสียจุดโทษบ้างหลังไปฟาวล์ใส่ มาร์กกุส โกโก้ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทัน แต่ อับดุล เคเดอร์ บ็อมบา ดันยิงไปติดเซฟของ เกย์ลอร์ นาวาส ทำให้สกอร์ยังตามหลัง 0-2 เหมือนเดิม

    ท้ายเกม นาที 88 เปแอสเชมาได้ประตูนำโด่ง 3-0 จากความผิดพลาดของ อิมราน ลูซ่า ห้องเครื่องเจ้าบ้านที่โชว์สกิลหลบแข้งปารีสฯ แต่ดันจ่ายคืนหลังให้ ปาโบล ซาราเบีย ที่ยืนอยู่หน้ากรอบเขตโทษพอดี ก่อนที่ ซาราเบีย จะยิงข้ามตัว อัลบ็อง ลาฟงต์ เข้าไป

    จบเกม น็องต์ แพ้คาบ้านให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 0-3 ส่งผลให้ "เปแอสเช" คว้าชัยในลีก 7 เกมติดต่อกันมี 21 แต้ม นำจ่าฝูงในลีกต่อไป ส่วน น็องต์ แพ้เป็นเกมที่ 4 อยู่อันดับ 15 มี 8 คะแนน

รายชื่อ11ผู้เล่นทั้งสองทีม

 แอฟเซ น็องต์ : อัลบ็อง ลาฟงต์ - เดนนิส อัปเปียห์, ฌอง-ชาร์ลส์ กัสแตลเล็ตโต้, เมห์ดี้ อาเบด,ชาร์ลส์ ตราโอเร่ - อิมราน ลูซ่า, เปโดร ชิริเบย่า - มาร์กกุส โกโก้, ลูโดวิซ บลาส, โมเสส ไซม่อน - ร็องดาล โคโล่ มูอานี่  

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง : เกย์ลอร์ นาวาส - โกแร็ง ดักบ้า, ดานิโล่ เปเรยร่า, อับดุล ดิยัลโล่, มิตเชล บัคเกอร์ -  อันเดร์ เอร์เรร่า, อิดริสซ่า เกย์, ราฟินญ่า - ปาโบล ซาราเบีย, มอยเซ่ คีน, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

        ผู้ตัดสิน : ฮาคีม เบน เอล ล้าดช์ 



 
 
 

ความคิดเห็น


©2020 by เว็บไซต์ของฉัน. Proudly created with Wix.com

bottom of page