top of page
ค้นหา

สื่อเบียร์ประโคม 1 เหตุผลทำเชลซีส่อชวด "ฮาแวร์ทซ์"

  • aywutwork2020
  • 14 ก.ค. 2563
  • ยาว 2 นาที

ree

 สื่อเมืองเบียร์ ตีข่าว เชลซี อาจะชวดได้ตัว ไค ฮาแวร์ทซ์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งฟอร์มแรงจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น หลัง "สิงห์บลูส์" ส่อแววจะหลุดวงโคจรท็อปโฟร์ หลังดันออกไปโดน เชฟฯ ยูไนเต็ด เผาเครื่องยับไม่นับญาติเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 

 เชลซี สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาจจะพลาดคว้าตัว  ไค ฮาแวร์ทซ์ กองกลางดาวรุ่ง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาร่วมทีม หากเกิดกรณีที่ทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" พลาดคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากการเปิดเผยของ บิลด์ สื่อดังในประเทศเยอรมนี แทงบอลเงินสด

    ช่วงที่ผ่านมาสื่อหลายสำนักทั้งในอังกฤษ และเมืองเบียร์ รายงานข่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ฮาแวร์ทซ์ กำลังจะเก็บข้าวของออกจากทัพ "ห้างขายยา" เพื่อเดินทางไปเป็นสมาชิกใหม่แห่งถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในช่วงซัมเมอร์นี้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ดูเหมือนสถานการณ์ต่างๆ ชักไม่แน่นอนแล้ว

    เหตุผลสำคัญก็คือ เชลซี เพิ่งจะพลาดท่าแพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 0-3 ในเกมลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำตอนนี้พวกเขามีโอกาสที่จะหลุดท็อปโฟร์ เนื่องจากทั้ง "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสที่จะทำคะแนนแซงหน้าทีมของกุนซือแฟร้งค์ แลมพาร์ด

    ในขณะที่ ฮาแวร์ทซ์ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการที่จะมีโอกาสสัมผัสเกมถ้วยใบโตยุโรป ฉะนั้นหาก เชลซี ซึ่งมีข่าวว่าพร้อมทุ่ม 100 ล้านยูโร (ราว 3,500 ล้านบาท) เพื่อซื้อแข้งดาวรุ่งทีมชาติเยอรมนี  พลาดได้ตั๋วไปลุยศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก นั่นหมายความว่านักเตะคงไม่อยากย้ายไปอยู่ที่นั่น 


"ร็อดเจอร์ส" รับเลสเตอร์ยังไม่ดีพอเกมพ่ายบอร์นมัธ


ree

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่เลสเตอร์ ซิตี้ รับผิดหวังกับลูกทีมที่ยังทำผลงานได้ไม่ดีพอ ในแมตช์แพ้ บอร์นมัธ ยับเยินเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมกระตุ้นทัพ "เดอะ ฟ็อกซ์" กลับมาเล่นให้แข็งแกร่งเหมือนเดิมให้ได้

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมไฟแรง "เดอะ ฟ็อกซ์" เลสเตอร์ ซิตี้ ออกโรงยอมรับว่าลูกทีมของตนยังไม่ดีพอในแมตช์ที่แพ้ "เดอะ เชอร์รี่ส์" บอร์นมัธ 1-4 ที่สนามไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 กรกฏาคมที่ผ่านมา  UFA23

    ทีมเยือนทำผลงานได้โดดเด่นเมื่อได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จาก เจมี่ วาร์ดี้ แต่ครึ่งหลังหนังเปลี่ยนม้วนเมื่อ เลสเตอร์ ซิตี้ เล่นผิดพลาดเยอะนำไปสู่การโดนยิงแบบทบต้นทบดอก 4 ประตูรวดจาก จูเนียร์ สตานิสลาส (จุดโทษ), โดมินิก โซลันกี้ (2 ประตู) และ จอนนี่ อีแวนส์ (เข้าประตูตัวเอง) ทำให้สถานการณ์ในตอนนี้ทัพ "สุนัขจิ้งจอก" ยังอยู่อันดับ 4 มี 59 คะแนนเท่าเดิม 

    ร็อดเจอร์ส เปิดใจ "เรายังไม่ดีพอ เราอาจจะควบคุมเกมได้ แต่ บอร์นมัธ เปลี่ยนเกมได้อย่างเฉียบคม เราปล่อยให้พวกเขาได้กลับมาสู่เกมด้วยการได้จุดโทษ และผมผิดหวังมากๆ กับการเล่นของเรา มันไม่เหมือนกับเรา เราเป็นทีมที่มีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง และเราไม่ควรเสียประตูเยอะแบบนี้"
"ผมมักจะพูดมาตลอดว่ามันคงเป็นความฝันสำหรับเราที่จะจบอันดับท็อปโฟร์ แต่เราต้องกังวลเรื่องเกี่ยวกับการเล่นให้ดี ในเวลานี้นับตั้งแต่ที่เรากลับมาลงแข่ง เราต้องมักจะเล่นดี 45 นาที และนั่นยังไม่ดีพอ เราจะต้องจบในอันดับที่เราสมควรจะได้" อดีตกุนซือลิเวอร์พูล กล่าว 

"เมสัน กรีนวู้ด" จากเจ้าหนูนายแบบสู่สตาร์แมนยูไนเต็ด 


ree

สำหรับตอนนี้ เมสัน กรีนวู้ด กลายเป็นกองหน้าความหวังใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากแจ้งเกิดในฤดูกาลนี้ และมาระเบิดฟอร์มสุดยอดนับตั้งแต่ที่เกมพรีเมียร์ลีก รีสตาร์ท ทำให้ "ปีศาจแดง" มีความหวังในการติดท็อปโฟร์ และคว้าแชมป์ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยด้วย

    กรีนวู้ด ได้รับการยกย่องว่าเป็น "เด็กมหัศจรรย์" คนใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยเขากลายเป็นดาวจรัสแสงภายใต้การปลุกปั้นจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์ ซึ่งให้โอกาสนักเตะได้ลงสนามในทีมชุดใหญ่ จนกระทั่งเขาพัฒนาฝีเท้ากลายเป็นผู้เล่นกำลังสำคัญของทีม ย้อนไปในวันวานก่อนจะเป็นสตาร์ดาวรุ่งสุดฮอตแห่งวงการลูกหนัง เจ้าหนู "ไม้เขียว" เป็นเด็กที่แสนน่ารักน่าชัง โดยเขาเคยคว้ารางวัลจากการประกวดนายแบบของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในวัย 4 ขวบ ในเวลานั้น กรีนวู้ด ได้รับสัญญาเดินแบบ และบัตรกำนัลสำหรับชอปปิ้งมูลค่า 50 ปอนด์ (ราว 1,900 บาท) งานนี้เจ้าตัวใจก็เลยไปฉลองด้วยการหม่ำแม็คโดนัลด์

     จากนั้นวันจนมาถึงปัจจุบัน กรีนวู้ด คือดาวจรัสแสงดวงใหม่แห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยเฉพาะผลงานในเวลานี้ที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด โกยแต้มเป็นว่าเล่น จนมีลุ้นที่จะติดท็อปโฟร์ และด้วยฟอร์มที่สุดยอดทำให้นักเตะเป็นอนาคตที่แสนสดใสของ "ปีศาจแดง" และทีมชาติอังกฤษ อย่างแท้จริง

เร็วแรงตั้งแต่เยาว์วัย      กุญแจสำคัญที่ทำให้ กรีนวู้ด ประสบความสำเร็จในเวลานี้ก็คือบิดา และมารดาของเขา โดยคุณแม่เมลานี แฮมิลตัน พยายามสอนให้เขาเป็นคนติดดิน ส่วน แอนดรูว์ คุณพ่อ ยอมสละเวลาหลายชั่วโมงเพื่อช่วยฝึกซ้อมการเล่นฟุตบอลให้กับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน 

    บ่อยครั้งที่คุณพ่อจะพา กรีนวู้ด ออกไปวิ่งข้างนอก และคอยเช็คศักยภาพของเขาด้วยนาฬิกาจับเวลา นอกจากนี้ในยามว่างก็จะพาลูกชายคนเล็กไปที่สนามฮอร์สฟอลล์ สเตเดี้ยม เพื่อจะได้ฝึกซ้อมทักษะลูกหนังกับ แบรดฟอร์ด (พาร์ค อเวนิว) เอเอฟซี ในขณะที่ แอชตัน พี่สาวฝึกซ้อมวิ่ง 400 เมตรที่นั่น  ปัจจุบัน แอชตัน อายุ 21 ปี และเป็นนักวิ่งที่ได้รับทุนการศึกษาด้านกีฬาทำให้เธอได้ศึกษาด้านปรัชญาในมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ เมโทรโฟลิแทน โดย ไบรอัน กรีนวู้ด วัย 62 ปี ซึ่งไม่ได้เป็นญาติกับ เมสัน เผยว่า "คุณไม่เคยเห็นเขาอยู่ห่างจะลูกบอลเลย ทุกๆ ที่ที่เขาไป เขาจะต้องบอลอยู่ที่มือ"

    "เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาไม่ได้อยู่ในชุดนักเรียน เขาจะใส่เสื้อ ยูไนเต็ด เสมอ เขาเป็นเด็กขี้อาย แต่สุภาพเรียบร้อย แม้ตอนเด็กๆ เขาก็วิ่งเร็วยังกับลมกรด เรารู้มาตลอดว่าเขาจะต้องประสบความสำเร็จในวงการฟุตบอล" อดีตเพื่อนบ้านของ กรีนวู้ด กล่าว 

คุณพ่อผู้เสียสละเพื่ออนาคตของลูก     กรีนวู้ด อาจจะไม่ประสบความสำเร็จแบบนี้หากไม่มีคุณพ่อบังเกิดเกล้าที่ทุ่มเท และเสียสละตนเองเพื่อพัฒนาลูกชายจนเป็นหนึ่งในนักเตะแห่งอนาคตทั้งของแมนฯ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ 

    เรื่องนี้ คาโรลีน ดันน์ วัย 54 ปีเพื่อนบ้านของ กรีนวู้ด กล่าวว่า "เขาเป็นเด็กน่ารัก, สุภาพเรียบร้อยและจิตใจดี พ่อของเขาเสียสละเวลาเยอะมากเพื่อลูกชายคนนี้ เขาอุทิศตัวเองเพื่อลูก เราทุกคนดีใจกับพวกเขามากๆ"

    ตอนที่ กรีนวู้ด อายุ 5 ขวบ แอนดรูว์ พาเขาไปยัง  ไอเดิ้ล จูเนียร์ เอฟซี สโมสรฟุตบอลระดับเยาวชนท้องถิ่นแถบแบร็ดฟอร์ด โดย พอล นิวส์แฮม นายตำรวจเกษียณอายุราชการ ซึ่งเป็นโค้ชให้กับทีมในเวลานั้น เปิดใจว่า "เด็กๆ ไม่ได้รับอนุญาตให้ลงแข่งขันจนกว่าพวกเขาจะอายุ 6 ขวบ แต่ เมสัน มุ่งมั่นที่จะลงเล่นมากๆ ครอบครัวของเขานำเขามาชมเกมตลอด"

     ทันทีที่เขาอายุครบ 6 ปี กรีนวู้ด ก็สร้างชื่อทันทีด้วยการซัด 10 ประตูในแมตช์เปิดตัว โดย นิวส์แฮม กล่าวต่อไปว่า "ตอนที่เขายิงประตูที่สิบ ด้วยการที่เหลืออีกแค่ไม่กี่นาทีก่อนหมดเวลา ผมอยากที่จะเปลี่ยนตัวเขาออกมา แต่เมื่อผมทำเขาจับขาของผมแล้วก็พูดว่า -ผมจะได้เล่นอีกใช่ไหม ลุงพอล ?-  "ทุกครั้งที่เขาลงสนาม เขายิงประตูได้เสมอ คุณไม่มีทางรู้เลยว่าด้วยวัยเพียงแค่นั้นพวกเขาจะมีพัฒนาการมากขนาดไหน แต่เขามีทุกอย่าง เขารวดเร็วราวกับสายฟ้า" นิวส์แฮม กล่าว โดยหลังจากนั้นไม่นาน กรีนวู้ด ก็กลายเป็นตัวอันตรายของบรรดาคู่แข่ง จนถึงขั้นเข็ดขยาดไม่อยากนำทีมไปเจอกับ ไอเดิ้ล จูเนียร์ เอฟซี

    "มันมาถึงจุดที่ทุกๆ คืนวันเสาร์ผมต้องรับโทรศัพท์จากสโมสรต่างๆ ที่สอบถามว่า เมสัน จะลงแข่งในวันพรุ่งนี้ไหม เขาไม่ได้อยู่กับเรานานนัก แค่ซีซั่นกว่าๆ เขาเป็นเด็กเงียบๆ, ขี้อาย และน่ารัก ครอบครัวของเขาให้การสนับสนุนเต็มที่ มันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ที่ได้เห็นพัฒนาการของเขา" 

    จากนั้นไม่นาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อยื่นข้อเสนอให้นักเตะย้ายไปฝึกปรือฝีเท้าที่ฮาลิแฟกซ์  ศูนย์เยาวชนในเวสต์ ยอร์ค ที่สำคัญ "ปีศาจแดง" ยังมีน้ำจิตน้ำใจมอบค่าตัวให้กับสโมสรไอเดิ้ล จูเนียร์ โดย มาร์คัส สตรูดวิค ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานทีมเยาวชน กล่าวว่า "ผมยังจำเช็คใบนั้นได้ มีตราโลโก้ ยูไนเต็ด ปัจจุบันผมอยากเอาไปใส่กรอบเก็บไว้จริงๆ"

    ที่ศูนย์ฝึกเยาวชนฮาลิแฟกซ์,  กรีนวู้ด มักจะมาถึงสนามก่อนเวลา 10 นาที และใช้เวลาฝึกซ้อมทั้งสองเท้าให้คล่องด้วยการเตะบอลอัดถังขยะอยู่ด้านนอกประตูรั้ว นอกจากนี้ โซลชา ยังเคยขอถ่ายรูปกับ กรีนวู้ด ตอนอายุ 7 ขวบ ที่ เดอะ คลิฟฟ์ สนามฝึกซ้อมของซัลฟอร์ด  

    ในเวลานั้น "น้าลูกอม" ยังทำหน้าที่เป็นนายใหญ่ให้กับทีมสำรอง "เร้ด เดวิลส์" และ โนอาห์ พี่ชายของเขา ซึ่งตอนนั้นอายุ 8 ขวบ ก็อยู่ในสนามซ้อมด้วย โดย กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปัจจุบัน แสดงความเห็นว่า "ผมขอ เมสัน ถ่ายรูป เพราะผมรู้ว่าเราจะต้องก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะอาชีพ"  เกิดมาเพื่อเล่นฟุตบอลเท่านั้น     เพียงไม่นานนัก กรีนวู้ด ต้องย้ายไปที่เมืองแมนเชสเตอร์ และครอบครัวของเขาต้องย้ายตามเพื่อไปดูแลเขา โดยนักเตะพัฒนาฝีเท้าอย่างรวดเร็ว กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดให้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ในเกมพรีเมียร์ลีก นอร์ธ และได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์เมื่อทีมของเขาคว้าโทรฟี่ "ไอซีจีที" (ICGT) ในประเทศฮอลแลนด์ ด้วยการชนะ เรอัล มาดริด 

    ในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 บรรดาแข้งชุดใหญ่ได้รับอนุญาตให้พักผ่อนหลังกรำศึกหนักในเกมฟุตบอลโลก ตอนนั้น โชเช่ มูรินโญ่ ซึ่งนั่งเก้าอี้กุมบังเหียน ใส่ชื่อ กรีนวู้ด เดินทางไปทัวร์ปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา โดยการทำแบบนั้นแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของเจ้าหนูที่อายุเพียง 16 ปีอย่างมาก  เพียงไม่กี่เดือนหลังจากนั้น นักเตะได้รับสัญญากึ่งอาชีพครั้งแรกพร้อมกับค่าเหนื่อย 800 ปอนด์ (ราว 30,400 บาท) ต่อสัปดาห์ แต่หลังจากนั้น กรีนวู้ด ก็พัฒนาตัวเองจนกระทั่งได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นถึง 15,000 ปอนด์ (ราว 570,000 บาท) ต่อสัปดาห์ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา

    ความสำเร็จทั้งหมดทั้งมวลเริ่มต้นจากการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัว และการเสียสละเวลาของพ่อบังเกิดเกล้า โดย กรีนวู้ด ยอมรับว่าหากไม่มีครอบครัวเขาคงไม่มีโอกาสได้แจ้งเกิดในวงการลูกหนัง "ครอบครัวของผมช่วยเหลือผมเสมอ ในยามที่ผมท้อแท้ และย่ำแย่พวกเขาก็จะดึงผมกลับมา พวกเขาเป็นแรงบันดาลใจที่แท้จริง ผมมักจะมองหาพวกเขา และผมเล่นเพื่อพวกเขา" 

โสดแล้วนะจะบอกให้ ?     ช่วงที่ผ่านมาหลายคนคงจะรู้ว่า กรีนวู้ด หัวใจไม่ได้ว่างแล้ว เพราะเขากำลังคบหาดูใจกับ แฮร์เรียต ร็อบสัน นางแบบสาวสุดสวย แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะแยกทางกันแล้ว โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  สาวแฮร์เรียต วัย 19 ปี ได้เปิดใจกับบรรดาแฟนคลับของเธอที่กดติดตามอินสตาแกรม มากกว่า 95,000 ฟอลโลว์ ว่าตอนนี้เธอกับ กรีนวู้ด ได้รักแตกแยกทางกันไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ปลูกต้นรักกันมาได้ 15 เดือน แถมยืนยันไม่มีมือที่สาม เพราะพวกเขาเห็นพ้องตรงกันว่าควรจบความสัมพันธ์

    เพื่อเป็นการยืนยันว่าความรักของทั้งสองคนมาถึงทางตันแล้ว ฝ่ายหญิงได้จัดการลบรูปที่ถ่ายร่วมกันของพวกเขาทิ้งหมดจาก "ไอจี" ในขณะที่ สตาร์ลูกหนังดาวรุ่งพุ่งแรงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ทำแบบเดียวกัน ฉะนั้นทุกอย่างชัดเจนว่า ฝ่ายชายโสดแล้วและจะเริ่มเดินทางรักใหม่เมื่อไหร่ ก็ต้องรอลุ้นกันต่อไป

 
 
 

ความคิดเห็น


©2020 by เว็บไซต์ของฉัน. Proudly created with Wix.com

bottom of page