top of page
ค้นหา

อริกันจนวันตาย ? ย้อนดู ดิยุฟ เคยด่า เจอร์ราร์ด รุนแรงแค่ไหน

  • aywutwork2020
  • 28 เม.ย. 2563
  • ยาว 2 นาที


ree

สตีเว่น เจอร์ราร์ด คือหนึ่งนักแทงบอลเงินสดในตำนานของ ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับคำชมอย่างมากทั้งภายในประเทศอังกฤษ และในโลกลูกหนัง โดยนอกจากจะทำผลงานในสนามได้ดีแล้วนั้น เจอร์ราร์ด ยังมีทัศนคติที่ยอดเยี่ยมด้วย จนทำให้หลายคนชื่นชอบเขา ยกเว้นเพียง 1 คนที่เกลียดเขาเข้าไส้ และคนที่ว่าก็คือ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ

    แม้ว่าทั้งคู่จะเคยร่วมงานกันในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล แต่อดีตดาวเตะชาวเซเนกัลไม่ประสบความสำเร็จกับ ลิเวอร์พูล เขาทำผลงานได้น่าผิดหวังเมื่อเทียบกับตอนที่เจ้าตัวเล่นได้โดดเด่นกับทีมชาติเซเนกัลในศึก ฟุตบอลโลก 2002 ตรงข้ามกับ เจอร์ราร์ด ที่มักจะเล่น UFA23 ได้ดีอย่างต่อเนื่องจนเป็นคนที่ทีมขาดไม่ได้ ซึ่งที่จริง เจอร์ราร์ด ก็เคยพายามตักเตือน ดิยุฟ หลายครั้ง แต่อีกฝ่ายกลับไม่เคยสนใจเลย ซ้ำร้ายยังด่า เจอร์ราร์ด กลับไปอีกต่างหาก

    หลังย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล แบบถาวรในปี 2005 ดิยุฟ ก็มักจะให้สัมภาษณ์ถึง ลิเวอร์พูล และ เจอร์ราร์ด ในแง่ลบบ่อยๆ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ฟลอร็องต์ ซินาม่า ปงโกลล์ ออกมาแฉว่า ดิยุฟ ถึงขั้นเคยพูดกับ ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เลยว่าเขาจะมีเพศสัมพันธ์กับแม่ของ เจอร์ราร์ด เพราะไม่พอใจที่โดนอีกฝ่ายตำหนิเรื่องการเล่นแบบเห็นแก่ตัว และนั่นเป็นเพียงหนึ่งในประโยคที่ ดิยุฟ แสดงให้เห็นถึงความเกลียดที่มีต่อ เจอร์ราร์ด เท่านั้น วันนี้เรามาลองย้อนดูกันดีกว่าว่า ดิยุฟ เคยพูดอะไรร้ายๆ ใส่อีกฝ่ายบ้าง



- อิจฉาและเห็นแก่ตัว

    ในปี 2007 เจอร์ราร์ด เคยกล่าวในหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองว่า ดิยุฟ มีทัศนคติที่เลวร้ายมากๆ โดยเฉพาะเรื่องการเล่นแบบเห็นแก่ตัวมากเกินไป และมันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ ดิยุฟ ไม่ประสบความสำเร็จกับ ลิเวอร์พูล จนสุดท้ายต้องบอกลาทีม ทั้งที่ตอนแรก "เดอะ ค็อป" คาดหวังว่าเขาจะโชว์ฟอร์มได้เหมือนในศึก ฟุตบอลโลก 2002




    "ดิยุฟ สนใจแต่เรื่องของตัวเองเท่านั้น ทัศนคติของเขามันผิดไปหมด ผมคิดว่าเขาไม่สนใจที่จะทุ่มเทเกินขีดจำกัดเพื่อทำให้ ลิเวอร์พูล กลับไปเป็นทีมเบอร์ 1 มากเท่าที่ควร" อดีตยอดกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ระบุ ซึ่งเขาก็มักจะพูดถึงเรื่องนี้บ่อยๆ เวลาที่โดนถามเกี่ยวกับ ดิยุฟ



    ในอีก 5 ปีให้หลัง ดิยุฟ ตอบโต้ถึงเรื่องนี้แบบดุเดือด "เจอร์ราร์ด ก็แค่อิจฉาตาร้อนที่ตอนนั้นผมเก่งจนถึงขนาดสยบโลกเอาไว้ได้ด้วยเท้าของผม มันไม่มีใครเห็นแก่ตัวมากไปกว่าเขาอีกแล้ว เขาไม่สนใจคนอื่นเลย เจอร์ราร์ด ยินดีที่จะทำประตูได้ต่อให้สุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล จะแพ้ในเกมนั้นก็ตาม พวกคนเก่าคนแก่ของ ลิเวอร์พูล ทนเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ"

- เหยียดผิว     ในช่วงหนึ่ง ลิเวอร์พูล โดนล้ออย่างหนักที่เอา มาริโอ บาโลเตลลี่ มาร่วมทีม เพราะเจ้าของฉายา "ซูเปอร์มาริโอ" ทำผลงานได้น่าผิดหวังสุดๆ ชนิดที่ว่าทำประตูให้ทีมได้เพียง 4 ลูก จากการลงเล่น 28 นัดในทุกรายการ ถึงกระนั้น เจอร์ราร์ด ก็ยังบอกว่าตนให้ความเคารพ บาโลเตลลี่ ต่างกับ ดิยุฟ ที่ไม่เคยทำตัวดีกับทีมเลย



    ดิยุฟ สวนกลับแบบรุนแรงในปี 2015 ว่า "ทุกคนพอจะเห็นกันตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาจะทำให้ มาริโอ บาโลเตลลี่ เจอปัญหากับการเล่นที่ ลิเวอร์พูล ผมเคยเตือนเขา (บาโลเตลลี่) ตั้งแต่ก่อนที่อีกฝ่ายจะย้ายทีมแล้วว่า ลิเวอร์พูล ไม่ใช่สโมสรที่จะต้อนรับนักเตะผิวสีดีเท่าไหร่ นอกจากว่าเขาจะเป็นคนอังกฤษน่ะนะ ถ้าคุณเป็นนักเตะผิวสีจากต่างแดนแล้วล่ะก็ คุณก็ไม่มีทางที่จะได้รับการต้อนรับที่ดีหรอก"

    "ชาวบ้านชาวช่องรู้กันหมดว่า เจอร์ราร์ด ไม่เคยชอบนักเตะผิวสีเลย ตอนที่ผมอยู่กับ ลิเวอร์พูล ผมแสเงให้เขาเห็นอย่างชัดเจนว่าผมเป็นคนผิวสี, ผมไม่ใช่คนอังกฤษ และผมไม่สนเรื่องไร้สาระใดๆ ก็ตาม จะบอกให้ว่าเขาไม่เคยกล้ามองผมแบบตาต่อตาในตอนที่ผมอยู่ที่นั่นเลย"



    "ผมเป็นที่เคารพอย่างมากในโลกฟุตบอล บรรดากูรูเก่งๆ ต่างก็ยกให้ผมเป็นหนึ่งใน 7 นักเตะที่ดีที่สุดของ ฟุตบอลโลก (ปี 2002) รวมถึงยกให้ผมเป็นหนึ่งใน 100 นักเตะที่เก่งที่สุดของศตวรรษ ขนาดนักเตะชื่อดังหลายคนยังไม่ติดชาร์ตนั้นเลย ไม่ว่าผมจะไปยังประเทศไหนนอกเหนือจากประเทศของผม ผู้คนก็จะยังนับถือผมอยู่ ขณะที่เขาน่ะ ถ้าออกจากเมืองลิเวอร์พูลของตัวเองแล้วล่ะก็ เขาก็จะโดนเยาะเย้ยทันที"

- ข่มด้วยทีมชาติ     ในปี 2017 ดิยุฟ ได้ให้สัมภาษณ์กับ บีบีซี โดยตอนนั้นเขาบอกว่าตัวเองไม่ใช่นักเตะที่แย่เหมือนอย่างที่หลายคนคิด แถมเขายังโดนถามด้วยว่าทำไมเจ้าตัวถึงมปัญหาอย่างรุนแรงกับ เจอร์ราร์ด ทั้งที่คนอื่นๆ ออกจะรักอดีตดาวเตะชาวอังกฤษอย่างมาก



    "ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเขาสักหน่อย เขาเป็นคนที่มึบุคลิกแข็งแกร่ง และผมเองก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ทุกคนชอบเขาที่ ลิเวอร์พูล แต่เขาไม่เคยทำอะไรเพื่อประเทศชาติของตัวเองแม้แต่นิดเดียว ผมคือ มิสเตอร์ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ ผมเป็น มิสเตอร์ เซเนกัล เขาเป็น มิสเตอร์ ลิเวอร์พูล และ เซเนกัล ก็ใหญ่กว่า ลิเวอร์พูล เขาเองก็รู้ถึงเรื่องนั้นเป็นอย่างดี" ดิยุฟ ระบุ

ตัวเทพทั้งหลายหลบไป!เบรธเวทสุดมั่นเจ๋งพอเป็นดาวซัลโวได้

มาร์ติน เบรธเวท หัวหอก บาร์เซโลน่า มั่นใจ มีดีพอที่จะเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทั้งทีมและ ลา ลีกา พร้อมบอกว่าช่วงที่พักการแข่งขันนั้น ตนทำงานและซ้อมอย่างหนักจนถึงขนาดที่ไม่น่าจะมีใครซ้อมหนักเท่าตนแล้ว

    มาร์ติน เบรธเวท กองหน้าชาวเดนมาร์กของ บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่ของศึก ลา ลีกา สเปน แสดงความเชื่อว่าตนมีดีพอที่จะเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทั้งทีมและของลีกได้

    ดาวเตะวัย 28 ปี เพิ่งย้ายจาก เลกาเนส มาอยู่กับ บาร์เซโลน่า เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 18 ล้านยูโร (ประมาณ 630 ล้านบาท) ซึ่งหลายคนมองว่า บาร์เซโลน่า ซื้อเขาเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น จากการที่ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงคนเก่งของทีมเจ็บหนัก และ เบรธเวท ก็ยังทำประตูให้ทีมใหม่ไม่ได้เลยจากการลงเล่น 3 นัด



    เบรธเวท ให้สัมภาษณ์กับ ดีอาร์ สื่อในบ้านเกิดว่า"ผมต้องได้เป็นตัวจริงของทีม และเป็นคนที่ทำประตูให้ทีมให้ได้ เมื่อคุณเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า คุณก็จะมีโอกาสทำประตูหลายครั้ง ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าผมพอนึกภาพออกว่าตัวเองจะทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ รวมถึงได้เป็นหนึ่งในดาวซัลโวสูงสุดทั้งของทีมและของลีก ผมย้ายมาที่นี่ก็เพื่อเรื่องนั้น"


    "ผมทำงานอย่างหนัก และเชื่อมั่นในตัวเอง จนถึงตอนนี้ในอาชีพการเล่นของผมน่ะ ผมได้เห็นว่าเมื่อทำงานอย่างหนักแล้วนั้น คุณก็จะได้รับรางวัลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ ตอนนี้ผมทำงานหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ ดังนั้นผมเลยกำลังได้รับรางวัลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่"

    "ตอนนี้มันอยู่ในช่วงที่พักการแข่งขัน และผมคิดว่านั่นเป็นผลดีต่อผม ผมรู้ว่ามันไม่มีใครที่ซ้อมและทำงานหนักเหมือนกับผมแล้ว พอผมได้กลับไปลงเล่นแล้วน่ะ ผมก็จะมีความพร้อมทั้งด้านสภาพร่างกายและสภาพจิตใจ ตอนนี้มัน (เส้นทางของเขากับ บาร์เซโลน่า) ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ และผมก็ยังไม่ได้พิสูจน์เลยว่าผมสามารถทำอะไรได้บ้าง ผมรู้สึกว่าในช่วงแรกๆ ผมทำได้ดีเลย แต่ผมก็รู้ดีเหมือนกันว่าผมสามารถเล่นให้ดีกว่านั้นได้อีก"

 
 
 

ความคิดเห็น


©2020 by เว็บไซต์ของฉัน. Proudly created with Wix.com

bottom of page