อาร์เตต้ายืนยันชัดเจนปืนต้องเสริมทัพ

มิเกล อาร์เตต้า กุนซือของ อาร์เซน่อล ยืนยันชัดเจนว่าสโมสรต้องการแข้งคุณภาพเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมในการต่อกรกับคู่แข่งในพรีเมียร์ลีก

ทีม "ปืนใหญ่" เปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ในเกมลีกเมื่อคืนวันพุธ แต่ตารางคะแนนปัจจุบันยังมีแต้มที่ตามหลัง "หงส์แดง" ไกลถึง 40 คะแนน ซึ่งทาง อาร์เตต้า แสดงออกชัดเจนว่าทีมจะต้องเสริมทัพเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมสำหรับสู้ศึกฤดูกาลหน้า เกมแคนดี้ออนไลน์ "ผมคิดว่ามันชัดเจนอยู่แล้วว่าเราต้องการทีมที่แข็งแกร่ง" "ผมไม่รู้เหมือนกัน - มันเป็นเรื่องน่ากังวลอย่างมาก, คุณดูสิ ลิเวอร์พูล ว่าสร้างทีมขึ้นมาอย่างไรซึ่งมันไม่ใช่เวทมนต์แน่" "คุณต้องแก้ไขด้วยแข้งคุณภาพ, นักเตะที่มีศักยภาพ และคุณต้องการทีมที่ใหญ่เพื่อสู้ในการแข่งขัน, นั่นคือความท้าทาย" เมื่อถูกถามว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนเพื่อปิดช่องว่างนี้ อาร์เตต้า กล่าวว่า "ผมเห็นมันมาแล้วและผมมีประสบการณ์ ในการทำมันในหนึ่งปี และผมเห็นสโมสรอื่นที่ทำไม่ได้ หรือบางสโมสรทำได้ใน 4-5 ปี" "มันขึ้นอยู่กับบริบท ขึ้นอยู่กับทรัพยากร ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องเปลี่ยนแปลงแค่ไหน" บิ๊กเรือจูบปากปธ.ยูฟ่าไม่ติดใจฟ้องขับพ้นชปล.

อเล็คซานเดอร์ เซเฟริน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) จากตั้งท่าเป็นศัตรูกับ แมนฯ ซิตี้ เรื่องขับพ้นเตะฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรป 2 ฤดูกาล ทำไปทำมาก็พร้อมคืนดีกันอีกครั้งเมื่อ คัลดูน อัล มูบารัค ปธ.เรือใบสีฟ้า พร้อมลืมความบาดหมางเดินหน้ากันใหม่

จุดเริ่มของความขัดแย้งคือ ยูฟ่า ตั้งข้อหาหนัก ซิตี้ เรื่องละเมิดกฎความโปร่งใสทางการเงินขั้นร้ายแรง ส่งผลให้มีคำสั่งลงโทษห้ามสังฆกรรมรายการใต้ความดูแล 2 ซีซั่น และโทษปรับอีก 30 ล้านยูโร  อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี้ ดิ้นสู้หาหลักฐานไปอุทธรณ์โทษต่อศาลอนุญาโตตุลาการแห่งกีฬา (ซีเอเอส) แล้วผลอ่านคำพิพากษาออกเมื่อวันจันทร์ให้ยกเลิกโทษแบนต่อ 'เรือใบสีฟ้า' คงเหลือโทษปรับ 10 ล้านยูโร โดยสรุปว่าที่มาของการได้หลักฐานของ ยูฟ่า นั้นเกิดโดยมิชอบ และอายุความได้สิ้นสุดลงไปก่อนแล้ว ASIA369 แน่นอนสร้างความผิดหวังต่อคนทั้งวงการฟุตบอลยุโรป ทั้งเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของกฎไฟแนนเชี่ยลแฟร์เพลย์ หรือตัว 'ซีเอเอส' เอง ซึ่งแม้คดีความที่เพิ่งจบไปจะสร้างรอยร้าวระหว่าง ยูฟ่า กับ แมนฯ ซิตี้ ไปพอสมควร แต่ทางมิสเตอร์ อัล มูบารัค มองเรื่องการทำงานร่วมกันในระยะยาวไม่อยากให้น้ำผึ้งหยดเดียวกลายเป็นความบาดหมางสะสมจนส่งผลเสียต่อทีมอีกในอนาคต จึงนัดพูดคุยเปิดใจกับมิสเตอร์ เซเฟริน 

รายงานจาก 'เมล ออนไลน์' ระบุว่า การนัดสนทนาซึ่งมี อัล มูบารัค เป็นฝ่ายยื่นไมตรีก่อนนั้นบรรยากาศหลังหารือจบผ่านไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นว่าเลิกแล้วต่อกันจากนี้คือบทใหม่ของมิตรภาพ หลังจากตั้งตัวเป็นปรปักษ์กันมาร่วม 5 เดือน

'มู'ภูมิใจก้าวพ้นบารมีลูกพี่เก่าเซอร์บ็อบสักที

โชเซ่ มูรินโญ่ เฮดโค้ช ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ให้สัมภาษณ์หลังเกมลีกที่เพิ่งเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-1 วานนี้ว่าเหมือนปลดล็อคให้ตัวเองเพราะที่ผ่านมาไม่เคยเอาชนะยัง เซนต์.เจมส์ พาร์ค สนามเปี่ยมมนต์ขลังที่มีรูปปั้นลูกพี่เก่า เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน ประดิษฐานได้มาก่อนเลย

มูรินโญ่ เคยเป็นล่ามให้ เซอร์บ็อบ ตอนแกคุมทีมต่างแดนทั้งกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในโปรตุเกส หรืออัพเกรดมาเป็นผู้ช่วยที่ บาร์เซโลน่า ในสเปน จนได้วิชาโค้ชลูกหนังรวมถึงอิทธิพลด้านต่างๆ หลอมรวมขึ้นเป็น อะ สเปเชี่ยล วัน อย่างปัจจุบัน  แล้วก็น่าแปลกตลอดอาชีพผจก.ทีมของ มูรินโญ่ ก่อนนี้ไม่เคยคุม เชลซี หรือ แมนฯ ยูไนเต็ด มาชนะเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังเซนต์.เจมส์ พาร์ค ได้เลยตอด 7 หนก่อนนี้ ( เสมอ 3, แพ้ 4) กระทั่งมาสำเร็จเอา 15 ก.ค.2020 กับความพยายามหนที่แปด  งานนี้เทรนเนอร์วัย 57 ปี บอกทุกคนไม่เชื่ออย่าลบหลู่ บารมีพ่อปู่เซอร์บ็อบบี้เฮี้ยนจริงๆ ขนาดศิษย์ก้นกุฏิยังต้องใช้ความพยายามกว่า 8 หน จึงสำเร็จ  "ส่วนตัวผมแล้วมันเป็นความรู้สึกที่ดีเลย ไม่เพราะแค่มันเป็นสนามฟุตบอลอีกแห่งในอังกฤษที่ผมไม่เคยมาเอาชนะได้ - เรื่องนั้นไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว" มูรินโญ่ เปิดปาก "แน่นอนเรื่องที่ทำผมยิ้มได้คือผลงานทีม และในที่สุดตัวเองก็สามารถเดินออกจากสนามแห่งนี้ผ่านรูปปั้นของมิสเตอร์ร็อบสันแล้วหัวเราะร่วมกับแกสำเร็จ เนื่องจากทุกครั้งก่อนนั้นมาเยือนทีไร ต้องเดินคอตกหน้าเศร้าผ่านแกไปตลอด" 

"นับเป็นหนแรกที่ผมสามารถออกจาก เซนต์.เจมส์ พาร์ค พร้อมหน้าเปื้อนยิ้ม"  

อนึ่งเป้าหมายต่อไปของ ท็อตแน่ม คือล่าตั๋ว ยูโรปา ลีก ซึ่งเวลานี้ให้ถึงอันดับ 6 ก็ห่างจาก วูล์ฟส์ เจ้าของโควตาปัจจุบันคะแนนเดียว