"เปยิสตรี้" เผยปัดซบยักษ์ลีกเอิงเพื่อเซ็นแมนยู

ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ ปีกดาวรุ่งป้ายแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยก่อนเลือกซบ "ปีศาจแดง" นั้น ตนได้มีการปัดข้อเสนอจากสโมสรยักษ์ใหญ่เมืองน้ำหอม พร้อมระบุตอนนี้ตนกระหายมากๆ ที่จะได้สัมผัสเกม พรีเมียร์ลีก

  ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ ปีกดาวรุ่งคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า ตนได้เลือกปฏิเสธโอกาสที่จะย้ายไป โอลิมปิก ลียง สโมสรยักษ์ใหญ่ในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส เพื่อที่จะได้เซ็นสัญญาร่วมทัพ "ปีศาจแดง" สวีทโบนันซ่า ยอดฮิต

               ดาวเตะชาวอุรุกวัย วัย 18 ปี ปิดดีลย้ายจาก เปนญารอล สโมสรดังในลีกบ้านเกิด มาร่วมก๊วน แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 369 ล้านบาท) ในวันปิดตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ เมื่อวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา พร้อมกับเซ็นสัญญายาว 5 ปี โดยที่มีออปชั่นขยายเพิ่มอีก 1 ปีด้วย                ทั้งนี้ เปยิสตรี้ จะถูก แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้งานในทีมชุดใหญ่ทันที โดยเจ้าตัวมีชื่อเป็นหนึ่งในขุนพล "ปีศาจแดง" ชุดทำศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาลนี้ด้วย 

           "ตอนแรกมันก็เหลือเชื่อมากๆ แล้ว กับการได้เล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ เปนญารอล และตอนนี้ผมได้มาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" เปยิสตรี้ เปิดใจ "ผมไม่เคยฝันถึงเรื่องแบบนี้มาก่อน มันเป็นอะไรที่น่าประทับใจมากๆ ทั้งสำหรับผมและครอบครัวของผม"

             "มันมีข้อเสนอสองชิ้นเข้ามา ข้อเสนอแรกมาจาก ลียง ต่อมาก็เป็นข้อเสนอจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งผมแฮปปี้มากๆ ที่มีโอกาสแบบนี้ นี่ (พรีเมียร์ลีก) คือลีกที่ผมดูกับพ่อแม่มาตลอด มีทีมยอดเยี่ยมมากมาย และคุณก็คงไม่คิดหรอกว่า วันหนึ่งคุณจะได้ไปเล่นที่นั่น แต่ตอนนี้ผมมีโอกาสแล้ว ซึ่งผมก็กระหายมากๆ ที่จะได้เริ่มต้นความท้าทายครั้งใหม่ อยากจะเห็นจังหวะการเล่นของเกมฟุตบอลที่นี่ ว่ามันจะเร็วอย่างที่เขาว่ากันหรือเปล่า"

ของดีเลย!เวสต์แฮมจ่อซิวสตาร์เบรนท์ฟอร์ดร่วมทัพ

สื่อดังอังกฤษปูด "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กำลังจะได้ตัว ซาอิด เบนราห์มา ปีกจอมพลิ้ว เบรนท์ฟอร์ด มาร่วมทัพ คาดค่าตัวทะลุ 1,000 ล้านบาท

 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงคว้าตัว ซาอิด เบนราห์มา ปีกคนเก่งของ เบรนท์ฟอร์ด สโมสรแกร่งในศึก แชมเปี้ยนชิพ เต็มทีแล้ว ตามรายงานจาก สกาย สปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นนำเมืองผู้ดี เมื่อวันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา

              เบนราห์มา ถือเป็นแข้งดาวเด่นคนหนึ่งในระดับ แชมเปี้ยนชิพ และมีข่าวเกี่ยวโยงกับหลายสโมสรใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งล่าสุดดูเหมือนว่า เจ้าตัวกำลังจะได้ย้ายมาสวมยูนิฟอร์ม "ขุนค้อน" โดย สกาย สปอร์ตส์ ระบุว่า การเจรจาระหว่าง เวสต์แฮม กับ เบรนท์ฟอร์ด คืบหน้าไปมาก และน่าจะได้บทสรุปที่ราคา 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,230 ล้านบาท) ASIA369

              ทั้งนี้ ตลาดซื้อ-ขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ภายในประเทศอังกฤษ ยังคงเปิดอยู่จนกระทั่งถึงวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม โดย ดาวเตะทีมชาติแอลจีเรียวัย 25 ปี โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นมากๆ กับ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ด้วยผลงานกระทุ้ง 17 ประตู กับ 10 แอสซิสต์ จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 46 นัด

บิ๊กแมตช์! "เอ็มบั๊ปเป้ วัดคม โรนัลโด้" ฝรั่งเศสจัดหนักเปิดศึกรับโปรตุเกส 

 รีแมตช์นัดชิงชนะเลิศ ยูโร 2016 "ตราไก่" ขอชำระแค้นหลังโดนทัพฝอยทองบุกมาคว้าแชมป์ยุโรปล่าสุดถึง สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ แมตช์นี้ ฝรั่งเศส พร้อมและจัดหนักส่งทีเด็ดอย่าง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ คอยปั่นป่วน ขณะที่ โปรตุเกส หวังใช้ความเก๋าและความเฉียบขาดของ โรนัลโด้ บุกมาต่อกร ในเกม ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก คืนวันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม ...พลาดไม่ได้!

ปรีวิวยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เอ กลุ่ม 3 ฝรั่งเศส - โปรตุเกส  วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2563 : เวลา 01.45 น.

สนาม : สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ (แซงต์-เดอนีส์, ฝรั่งเศส)

    ทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์ฟุตบอลโลก 2018 จะเปิด สต๊าด เดอ ฟร้องซ์, แซงต์-เดอนีส์ ชานกรุงปารีส ปะทะ โปรตุเกส ในบิ๊กแมตช์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เอ ฤดูกาล 2020 - 2021 

    นับเป็นการรีแมตช์ที่ ทั้งสองทีมดังเคยพบกันในศึกยูโร 2016 นัดชิงชนะเลิศ ที่สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ ซึ่ง โปรตุเกส ชนะ ฝรั่งเศส เจ้าภาพ 1-0 หลังต่อเวลาพิเศษ โดยจบ 90 นาที เสมอ 0-0 เอแดร์ ยิงประตูชัยนาที 109 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2016

    ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เทรนเนอร์ทีมชาติฝรั่งเศสวัย 51 ปี นำทีมลงสนามล่าสุด เปิดสต๊าด เดอ ฟร้องซ์ ถล่ม ยูเครน 7-1 ในแมตช์กระชับมิตร เมื่อคืนวันพุธ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา

    เขานำทีม ไม่แพ้ 10 เกมติดต่อกัน (ชนะ 9 เสมอ 1) 

    อีกทั้ง ฝรั่งเศส ไม่แพ้ 15 นัดซ้อน ในบ้าน (ชนะ 12, เสมอ 3) โดยพ่ายคาบ้านครั้งล่าสุดเมื่อวันศุกร์ 23 มีนาคม 2018 ต่อ โคลอมเบีย 2-3 ในเกมอุ่นเครื่องที่สต๊าด เดอ ฟร้องซ์  

    ทีมขาด อาเดรียง ราบิโอต์ มิดฟิลด์ยูเวนตุสวัย 25 ปี เนื่องจากเขาอยู่ในช่วงถูกกักตัว หลังจากได้ติดต่อกับบุคคล 2 รายที่ติดเชื้อไวรัส โควิด-19

    ในรายของ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ เซนเตอร์แบ็กแอร์เบ ไลป์ซิกวัย 21 ปี มีอาการปวดท้อง ลงเล่นเพียงครึ่งแรกในเกมล่าสุด โดย เดส์ชองส์ เรียก ควร์ต ซูม่า กองหลังเชลซี เข้ามาติดทีมแทน

    ขณะที่ เลโอ ดูบัวส์ แบ็กขวาโอลิมปิก ลียงวัย 26 ปี ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ทำให้ เดส์ชองส์ เรียก แฟร์กล็องด์ เมนดี้ แบ็กซ้ายเรอัล มาดริดวัย 25 ปี เข้ามาติดทีมแทน

    เดส์ชองส์ น่าจะจัดทีมในระบบการเล่น 4-3-1-2 ผู้เล่นตัวจริงหลายคนจะกลับมาลงสนามทั้ง อูโก้ โยริส นายทวาร กัปตันทีม, ราฟาแอล วาราน เซนเตอร์แบ็กเรอัล มาดริด, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กับ ปอล ป็อกบา สองมิดฟิลด์ตัวหลัก โดยที่ อองตวน กรีซมันน์ นำเกมรุก อยู่หลังคู่กองหน้า คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ 

    สำหรับ ชิรูด์ ดาวยิงวัย 34 ปี ทำสถิติยิงไปแล้ว 42 ประตู จากการลงสนาม 100 นัด ในชุดเลส์ เบลอส์ ซึ่ง ชิรูด์ รั้งอันดับ 2 ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของตราไก่ สถิติเป็นรองเพียง เธียร์รี่ อองรี ที่ยิง 51 ประตู

    แฟร์นานโด ซานโต๊ส กุนซือทีมชาติโปรตุเกสอายุครบ 66 ปี เมื่อวันเสาร์ 10 ตุลาคม (เขาเกิดวันที่ 10 ตุลาคม 1954 ที่ ลิสบอน, โปรตุเกส) เขานำทีมลงสนามล่าสุด เปิดบ้านเสมอ สเปน 0-0 ในเกมอุ่นเครื่องที่ เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาล้าด กรุงลิสบอน เมื่อวันพุธ 7 ตุลาคม

    ทีมชุดนี้เขาเรียก วิลเลียม คาร์วัลโญ่ และ ราฟา ซิลวา กลับมาติดทีมอีกครั้ง พร้อมกับที่ให้โอกาส รูเบน เซเมโด้, นูโน่ เซเกร่า, ดาเนียล โปเดนเซ่ ติดทีมชาติเป็นครั้งแรก 

    ขณะที่ มาริโอ รุย แบ็กซ้ายนาโปลี ไม่ได้รับอนุญาตจากสาธารณสุขเมืองเนเปิลส์ให้ออกจากพื้นที่ เนื่องจากมีบุคลากรในทีมติดเชื้อไวรัส โควิด-19 หลายคน 

    ทางด้าน แอนโธนี่ โลเปส นายทวารโอลิมปิก ลียง, โชเซ่ ฟอนเต้ กองหลังลีลล์ ต่างติดเชื้อไวรัส โควิด-19 

    ซานโต๊ส น่าจะจัดทีมในระบบการเล่น 4-3-3 นำทีมโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีม, บรูโน่ แฟร์นันด์ส ดาวเตะแมนชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แบร์นาร์โด้ ซิลวา มิดฟิลด์แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เปเป้ และ ดานิโล่ เปเรยร่า

    รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

 ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส (กัปตันทีม) - แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, ราฟาแอล วาราน, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์, ลูกัส แอร์กน็องเดซ - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป็อกบา, โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ - อองตวน กรีซมันน์ - คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ 

 โปรตุเกส : รุย ปาทริซิโอ - ชูเอา คานเซโล่, รูเบน ดิอาส, เปเป้, ราฟาเอล แกร์เรยโร่ - ดานิโล่ เปเรยร่า, วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส - คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (กัปตันทีม), ชูเอา เฟลิกซ์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา

    ผู้ตัดสิน : การ์ลอส เดล เซร์โร่ กรันเด้ (สเปน)