เสียดาย! โซลชาโอดแมนยูจบสกอร์ไม่คมทำพ่ายเปแอสเช

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้ทีมตนจบสกอร์ไม่คมเอง ทำพ่าย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คาบ้าน 1-3 แต่มั่นใจ "ปีศาจแดง" ยังมีโอกาสดีในการเข้ารอบน็อกเอาต์ แชมเปี้ยนส์ ลีก

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่า การที่ทีมตนใช้โอกาสเปลืองในการจบสกอร์ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ "ปีศาจแดง" แพ้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 1-3 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช นัดห้า เมื่อวันพุธที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา

เนย์มาร์ ยิงให้ทีมเยือนขึ้นนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 6 แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ตามตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 32 จาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งหลังจากนั้นเจ้าถิ่นมีโอกาสเพียบ โดยเฉพาะจาก อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่มีโอกาสแบบเน้นๆ 2-3 ครั้ง แต่ไม่สามารถส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้ สุดท้ายกลายเป็น เปแอสเช สล็อต น่าเล่น ที่ขึ้นนำอีกหนในนาทีที่ 69 จากการยิงจ่อๆ ของ มาร์กินญอส แถมนาทีที่ 70 แมนฯ ยูไนเต็ด มาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน (เฟร็ด รับใบเหลืองที่สอง) ก่อนที่ยอดทีมแห่งกรุงปารีสจะมาได้ประตูย้ำชัยจาก เนย์มาร์ เจ้าเก่า ในนาทีที่ 90+1 ซึ่งผลการแข่งขันนัดนี้ทำให้ทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด, เปแอสเช และ แอร์เบ ไลป์ซิก ต้องไปลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์ในนัดสุดท้าย (ทั้งสามทีมมี 9 คะแนน จาก 5 นัด)

"เราสร้างโอกาสได้เยอะมาก แต่ไม่สามารถจัดการกับโอกาสเหล่านั้นได้ เกมมันตัดสินกันที่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นั่นแหละที่ทำให้พวกเขาได้ชัยชนะในเกมนี้" โซลชา เปิดใจนัดสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องบุกไปเยือน แอร์เบ ไลป์ซิก ในวันอังคารที่ 8 ธันวาคม โดยที่ทั้งสองทีมต่างมีลุ้นเข้ารอบ ซึ่ง โซลชา มั่นใจว่า สุดท้าย "ปีศาจแง" จะคว้าตั๋วเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ (แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการแค่เสมอเป็นอย่างน้อย)"ชะตากรรมยังอยู่ในมือเรา เรายังต้องการอยู่ในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ดังนั้นเกมในสัปดาห์หน้า เราจำเป็นต้องเล่นด้วยฟอร์มที่ดีที่สุด" นายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด ระบุ

ตำนานลิเวอร์พูลก็มา! ยูฟ่าเผยทีมยอดเยี่ยมตลอดกาลจากใจแฟนบอล

เมื่อวันพุธที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา เว็บไซต์ UEFA.com ได้มีการเปิดเผยทีมยอดเยี่ยมตลอดกาลของ ยูฟ่า (เน้นนักเตะที่ประสบความสำเร็จในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูโร เป็นหลัก) ซึ่งมาจากการโหวตของบรรดาแฟนบอลในโลกออนไลน์ และแน่นอนว่า ในทีมชุดนี้มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ลิโอเนล เมสซี่ จองไปสองโควตาเรียบร้อย ขณะที่นักเตะอังกฤษมีโผล่แค่รายเดียวเท่านั้น ส่วนก๊วนแข้งสเปนจาก เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า มาเพียบอย่างไม่ต้องสงสัย และนี่คือโฉมหน้าทีมยอดเยี่ยมตลอดกาลของ ยูฟ่า จากใจแฟนบอล

- ผู้รักษาประตู : อีเกร์ กาซียาส (เรอัล มาดริด & สเปน) ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูฟ่า : 7 ครั้ง (ปี (2007, 08, 09, 10, 11, 12) กาซียาส เป็นนายทวารที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในยุโรป โดยคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ถึง 3 สมัย, เป็นเจ้าของสถิติลงเล่นในถ้วย "บิ๊กเอียร์" มากสุด(177 นัด) นอกจากนี้ยังเป็นกัปตันทีมชาติสเปน ชุดคว้าแชมป์ ยูโร ในปี 2008 และ 2012 อีกด้วย- แบ็กขวา : เซร์คิโอ รามอส (เรอัล มาดริด & สเปน) ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูฟ่า : 8 ครั้ง (ปี 2008, 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18) ประสบความสำเร็จเคียงข้างกับ กาซียาส ทั้งที่ เรอัล มาดริด และ ทีมชาติสเปน มาอย่างยาวนาน แต่ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น รามอส ได้มากกว่าที่ 4 สมัย และเป็นกำลังสำคัญในแนวรับของ "ราชันชุดขาว" จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ASIAXX1 - เซนเตอร์แบ็ก : เคราร์ด ปีเก้ (บาร์เซโลน่า & สเปน) ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูฟ่า : 5 ครั้ง (ปี 2010, 11, 12, 15, 16) ปีเก้ ถูกเลือกติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูฟ่า ถึง 5 สมัย หลังประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับ บาร์ซ่า โดยเฉพาะการได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัย แถมยังได้ชูถ้วยแชมป์ ยูโร 1 ครั้ง (2012) กับทีมชาติสเปนด้วย - เซนเตอร์แบ็ก : การ์เลส ปูโยล (บาร์เซโลน่า & สเปน) ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูฟ่า : 6 ครั้ง (ปี 2002, 05, 06, 08, 09, 10) ปูโยล ถือเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับของ บาร์เซโลน่า ชุดคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2006, 2009 และ 2011 แถมเป็นกำลังหลักของทีมชาติสเปน ตอนซิวแชมป์ ยูโร 2008 ด้วย - แบ็กซ้าย : ฟิลิปป์ ลาห์ม (บาเยิร์น มิวนิค & เยอรมนี) ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูฟ่า : 5 ครั้ง (ปี 2006, 08, 12, 13, 14) หนึ่งในฟูลแบ็กที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล โดย ลาห์ม ลงเล่นในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท และ บาเยิร์น มิวนิค รวมกัน 112 นัด โดยได้แชมป์ 1 สมัยกับ "เสือใต้" ในปี 2013 นอกจากนี้ยังเคยช่วยทีมชาติเยอรมนีเข้ารอบชิงฯ ยูโร 2008 (แพ้ สเปน 0-1) ด้วย- มิดฟิลด์ : สตีเว่น เจอร์ราร์ด (ลิเวอร์พูล & อังกฤษ) ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูฟ่า : 3 ครั้ง (ปี 2005, 06, 07) นี่คือนักเตะอังกฤษหนึ่งเดียวที่ถูกเลือกติดทีม ถึงแม้ เจอร์ราร์ด เล่นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ถึง 100 นัด แต่ไฮไลต์สำคัญของเจ้าตัวที่ช่วย ลิเวอร์พูล พลิกนรกคว้าแชมป์เมื่อปี 2005 ที่นครอิสตันบูล ถือเป็นค่ำคืนประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครลืม มิดฟิลด์ : ชาบี เอร์นานเดซ (บาร์เซโลน่า & สเปน) ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูฟ่า : 5 ครั้ง (ปี 2008, 09, 10, 11, 12) ตำนานจอมทัพ บาร์เซโลน่า มีสถิติลงเล่นในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก มากถึง 151 นัด และคว้าแชมป์ได้ทั้ง 4 ครั้งที่เข้าชิงฯ (ปี 2006, 2009, 2011 และ 2015) นอกจากนี้ ชาบี ยังเป็นกำลังสำคัญช่วยทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ ยูโร 2 สมัย (2008 และ 2012) ด้วย มิดฟิลด์ : อันเดรส อิเนียสต้า (บาร์เซโลน่า & สเปน)ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูฟ่า : 6 ครั้ง (ปี 2009, 10, 11, 12, 15, 16) ประสบความสำเร็จเคียงคู่กับ ชาบี ทั้งในสีเสื้อ บาร์เซโลน่า และ ทีมชาติสเปน โดยไฮไลต์สำคัญของเจ้าตัวในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก คือการซัดประตูสุดสวยใส่ เชลซี ที่ช่วยส่ง บาร์เซโลน่า เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในปี 2009 ปีกขวา : ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า & สเปน)ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูฟ่า : 11 ครั้ง (ปี 2008, 09, 10, 11, 12, 14, 15, 16, 17, 18, 19) ด้วยสถิติกระทุ้ง 118 ประตู จากการลงเล่นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก 146 นัด แถมคว้าแชมป์ได้ถึง 4 สมัย ทำให้แฟนๆ แทบจะเทคะแนนให้กับ เมสซี่ อย่างอัตโนมัติ ซึ่งทำให้เจ้าตัวกลายเป็นนักเตะคนเดียวในทีมชุดนี้ที่ไม่ใช่คนยุโรป ปีกซ้าย : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด / เรอัล มาดริด / ยูเวนตุส & โปรตุเกส)ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูฟ่า : 14 ครั้ง (ปี 2004, 07, 08, 09, 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19)คว้าถ้วย "บิ๊กเอียร์" มาครองได้ถึง 5 ครั้ง (1 ครั้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ 4 ครั้งกับ เรอัล มาดริด), ปัจจุบันครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของรายการ (131 ประตู) และยังช่วยทีมชาติโปรตุเกส คว้าแชมป์ยูโร 2016 เท่านั้นยังไม่พอ โรนัลโด้ ยังถูกเลือกติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูฟ่า ถึง 14 ครั้ง ซึ่งมากสุดเหนือทุกๆ คน แถมเป็นการติดรวดยาวมาถึง 13 ปี นับตั้งแต่ปี 2007 ด้วย

กองหน้า : เธียร์รี่ อองรี (อาร์เซน่อล & ฝรั่งเศส) ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูฟ่า : 5 ครั้ง (ปี 2001, 02, 03, 04, 06) ถึงแม้ได้สัมผัสถ้วย "บิ๊กเอียร์" 1 ครั้งสมัยอยู่กับ บาร์เซโลน่า (ปี 2009) แต่ อองรี พีกมากๆ และถูกเลือกติดทีมยอดเยี่ยมของ ยูฟ่า ทั้ง 5 ครั้งตอนเล่นกับ อาร์เซน่อล โดยไฮไลต์เด็ดของเจ้าตัวคือการลากโซโล่เดี่ยวเข้าไปยิงประตู เรอัล มาดริด ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก ปี 2006 ที่ "ไอ้ปืนใหญ่" ไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ (แพ้ บาร์เซโลน่า 1-2)