เฮนัดแรกแล้ว! เยอรมันเสียวท้ายเกมบุกอัดยูเครน เนชั่นส์ ลีก

"อินทรีเหล็ก" คว้าชัยชนะเกมแรกได้แล้ว นับแต่เล่น ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก มา เมื่อบุกไปเฉือนเจ้าถิ่น ยูเครน แบบหวุดหวิด 2-1 ส่งผลให้ เยอรมัน ซิวสามแต้มแรกมี 5 คะแนนยึดรองจ่าฝูงตามหลังจ่าฝูง สเปน สองคะแนน ในเกมเนชั่นส์ ลีก กลุ่ม 4 ลีก เอ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

สนาม :  เอ็นเอสเค โอลิมปิสกีย์ 

    ฟุตบอล ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สาม เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นการพบกันของ ลีก เอ กลุ่ม 4 ระหว่าง เจ้าถิ่น ยูเครน พบกับ เยอรมัน สวีทโบนันซ่า ยอดฮิต

    โดยฟอร์มล่าสุดของทั้งสองทีมนั้น ยูเครน เพิ่งจะพ่ายในเกมลับแข้งให้ ฝรั่งเศส มาเละเทะ 1-7 ส่วน 2 เกมในเนชั่นส์ลีกนั้น ชนะ สวิสฯ 2-1 ก่อนจะบุกพ่าย สเปน 0-4 ขณะที่ฝั่ง "อินทรีเหล็ก" ฟอร์มอุ่นเครื่องโดน ตุรกี ไล่ตีเสมอแบบเจ็บแสบ 3-3

ส่วนฟอร์มในเนชั่นส์ลีกไม่ดีเท่าไหร่ เสมอ 2 เกมติดทั้งเจ๊ากับ "กระทิงดุ" 1-1 ก่อนจะมาเสมอสกอร์เดียวกันกับเจ้าถิ่น สวิตเซอร์แลนด์ 1-1

    ออกสตาร์ทเกมมาได้แค่ 5 นาทีแรก ลูกทีมของ โยอาคิม เลิฟ ได้ทักทายยิงเข้ากรอบก่อนจากจังหวะที่ ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ แทงบอลให้ แซร์จ นาบรี้ ตะบันด้วยซ้ายนอกกรอบ บอลพุ่งแรงแต่ยังไปตรงตัว จอร์จี้ บุชชาน ทุบออกมาได้

    เข้าสู่นาทีที่ 20 สกอร์แรกมาเป็นทางฝั่งอาคันตุกะ "อินทรีเหล็ก" บุกมาขึ้นนำ 1-0 จากความยอดเยี่ยมของ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ที่พลิกบอลกระชากหนีแล้วปาดเลียดมาหน้าประตู บอลเลย แซร์จ นาบรี้ ก่อนมาถึง มัทธีอัส กินเทอร์ แปด้วยขวาโล่งๆ เข้าไป

    เจ้าบ้าน ยูเครน ไม่ท้ออีกนาทีถัดมาหวิดได้ลุ้นตีเสมอหลัง มัทธีอัส กินเทอร์ คนทำประตูขึ้นนำเกือบพลาดเมื่อทำบอลลั่นไปเข้าทาง โรมัน ยาเร็มชุค ซัดด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งหลุดกรอบแบบได้เสียว

    นาที 28 เป็นโอกาสของ ยูเลียน ดรั๊กซ์เลอร์ ที่เล่นได้โดดเด่น คราวนี้กดด้วยขวานอกกรอบแต่ยิงบดและเบาไปเข้ามือ จอร์จี้ บุชชาน

    นาที 34 เยอรมัน ชวดได้ประตูที่สองอย่างน่าเสียดายหลัง มัทธีอัส กินเทอร์ พาบอลขึ้นมาทางขวาแล้วครอสไปเสาแรกให้ แซร์จ นาบรี้ พุ่งมาสะบัดโขกเน้นๆ แต่บอลยังไปโดน จอร์จี้ บุชชาน พุ่งปัดออกหลังแบบเหลือเชื่อ

    นาที 43 อินทรีเหล็ก ได้ลุ้นอีก เป็นจังหวะที่ โทนี่ โครส หยอดบอลมาหน้าประตูให้ ลีออน โกเร็ตซ์ก้า ขึ้นโขกขึ้นเช็ดบอลเปลี่ยนทางแต่บอลยังไม่ห่างมือ บุชชาน ที่รับไว้ได้ 

    จบครึ่งแรก ยูเครน ตามหลัง เยอรมัน 0-1

    กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลัง แค่นาที 49 เยอรมัน ได้ประตูนำห่าง 2-0 ทันที จากความผิดพลาดของ จอร์จี้ บุชชาน ที่ออกมาตัดบอลลูกอากาศก่อนทำบอลหลุดมือไปเข้าหัว ลีออน โกเร็ตซ์ก้า เปลี่ยนทางเข้าประตูไป

    อีก 2 นาทถัดมา ทีมเยือนหวิดได้เม็ดที่สาม คราวนี้ แซร์จ นาบรี้ หักบอลคืนมากลางประตูให้ ยูเลียน ดรั๊กซ์เลอร์ ซัดด้วยขวาเสาแรกไม่ถึง 10 หลา แต่บอลยังติดเซฟของ บุชชาน ที่พุ่งปัดได้แบบหวุดหวิด

    นาที 56 ยูเลียน ดรั๊กซ์เลอร์ โชว์พลิ้วเลี้ยงจี้เข้ามาก่อนกระชากถึงเส้นหลังแล้วตักยาวมาเสาไกลให้ ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ วอลเลย์กดลงพื้นแต่บอลยังโดน จอร์จี้ บุชชาน ปัดข้ามคานแบบเหลือเชื่ออีก

    ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เจ้าบ้านได้โอกาสยิงเข้ากรอบหนแรก จากบอลสวนกลับเร็ววแทงให้  วิคเตอร์ ซีกันคอฟ หลุดเข้าไปก่อนดึงโยกหลบ นิคลาส ซือเล่ แต่จังหวะยิงด้วยขวาดันเบาไปเลยไม่พ้นมือ มานูเอล นอยเออร์ 

    นาที 75 ยูเครน มาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง  นิคลาส ซือเล่ ไปเข้าบอลช้า กลายเป็นสกัดรวบขาใส่  โรมัน ยาเร็มชุค ซึ่งเชิ้ตดำไม่รอรีชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่  รุสลัน มาลินอฟสกี้ จะซัดเสียบมุมตาข่ายเข้าไปอย่างเด็ดขาดให้เจ้าถิ่นไล่มา 2-1

    นาที 80 ทีมเยือนส่ง ติโม แวร์เนอร์ ลงไปวาดลวยลายแทน  ยูเลียน ดรั๊กซ์เลอร์ 

    นาที 84 ยูเครน มาได้ลุ้นจากฟรีคิกกว่า 25 หลา แต่ทว่า รุสลัน มาลินอฟสกี้ วิ่งมาซัดบอลผ่านกแพงเหินข้ามกำแพงหลุดกรอบออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

    จบเกม เยอรมัน บุกมาปราบ ยูเครน 2-1 คว้าชัยชนะเกมแรก เนชั่นส์ ลีก สำเร็จ โดยมี เพิ่มเป็น 5 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง สเปน ที่มี 7 คะแนน 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม  

 ยูเครน (4-1-4-1) : จอร์จี้ บุชชาน - โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ, อิลเลีย ซาบาร์นี่, วิตาลี่ มิโคเลนโก้, เอดูอาร์ โซบอล - เซอร์เกย์ ซีดอร์ชุค (เยฟเกนี่ มาคาเรนโก้ น.84) - อังเดร ยาร์โมเลนโก้ (มาร์ลอส น.69), รุสลัน มาลินอฟสกี้, วิคเตอร์ โควาเลนโก้ (มิโกล่า ชาปาเรนโก้ น.77), วิคเตอร์ ซีกันคอฟ ( โอเล็กซานเดอร์ ซูบคอฟ น.69) -  โรมัน ยาเร็มชุค 

        ผู้จัดการทีม : อังเดร เชฟเชนโก้

 เยอรมัน (3-4-2-1) : มานูเอล นอยเออร์ - อันโตนิโอ รือดิเกอร์, นิคลาส ซือเล่, มัทธีอัส กินเทอร์ - ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ (เอ็มเร่ ชาน น.90), โยชัว คิมมิช, โทนี่ โครส, มาร์เซล ฮัลส์เทนเบิร์ก - ยูเลียน ดรั๊กซ์เลอร์ (ติโม แวร์เนอร์ 80), ลีออน โกเร็ตซ์ก้า - แซร์จ นาบรี้ (ไค ฮาแวร์ตซ์ น.90+3)

        ผู้จัดการทีม : โยอาคิม เลิฟ 

ลืมซานโช่ได้เลย! 3 เหตุผลที่ชี้ว่า "อาหมัด ดิยัลโล่" คือดีลที่ใช่สำหรับแมนยู

ในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างความประหลาดใจให้สาวก “เร้ด อาร์มี่” อยู่ไม่น้อยหลังทีมรักเซ็นสัญญาคว้าตัวดาวรุ่งวัย 18 ปีจากอตาลันต้าซึ่งมีนามว่า “อาหมัด ดิยัลโล่” สำหรับแฟนบอลที่รอคอย เจดอน ซานโช่ มาสวมเสื้อสีแดงก็เป็นอันต้องอกหักไปในที่สุด แต่ถ้ามองลงลึกไปในดีลนี้ นี่อาจเป็นอีกหนึ่งการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมของ “ปีศาจแดง” ก็ว่าได้

    ก่อนอื่นหลายคนสงสัยว่าเจ้าหนูคนนี้ใช้ชื่อว่า อาหมัด ดิยัลโล่ หรือ อาหมัด ตราโอเร่ ล่าสุดเจ้าตัวออกมายืนยันผ่านในอินสตาแกรมแล้วว่าเขาต้องการให้เรียกชื่อ “อาหมัด ดิยัลโล่” มากกว่าแมนฯ​ยูไนเต็ด คว้าตัว อาหมัด ดิยัลโล่ มาด้วยค่าตัวเบื้องต้น 18 ล้านปอนด์ โดยปีกดาวรุ่ง วัย 18 ปีจะมาร่วมทีมในช่วงเดือนมกราคม

    วันเดอร์คิดอตาลันต้าถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ อตาลันต้า ในปี 2019 ความจริงเจ้าตัวเพิ่งสัมผัสเกม เซเรีย อา เพียงแค่ 3 นัดเท่านั้นแต่นัดแรกที่ลงสนามเจ้าหนูวัย 18 ปี ก็สามารถยิงประตูแรกได้ทันที ส่งผลให้กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ทำประตูในเกมประเดิมสนามของเซเรีย อา ด้วยวัยเพียง 17 ปีกับ 109 วัน ASIA369

    จากการายงานของ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ แมนฯ ยูไนเต็ด เชื่อว่าพวกเขาได้เซ็นสัญญาซูเปอร์สตาร์เข้ามาในทีม โดยโซลชาได้มีโอกาส “เฟสไทม์” พูดคุยกับนักเตะและบอกกับ ดิยัลโล่ ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งในอนาคตของสโมสรและกุนซือเชื่อมั่นว่าเขาพร้อมลงเล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว

    การพลาดตัว ซานโช่ และได้นักเตะคนนี้มาอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด และนี่อาจเป็นเพชรเม็ดงามที่รอการเจียระไนอยู่ก็เป็นได้

1.ตามรอยโรนัลโด้,มาร์กซิยาล

    ในตอนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญา โรนัลโด้ มีน้อยคนที่รู้จักชื่อของเขาแต่หลังจากนั้นเจ้าตัวก็สร้างตำนานให้กับสโมสร เช่นเดียวกับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ตอนนั้น “ผีแดง” พลาดคว้า เปโดร โรดริเกซ แบบน่าเจ็บใจหลังจากโดน เชลซี ปาดหน้า ก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด จะหันไปซิวดาวรุ่งคนหนึ่งจากโมนาโกจนแฟนบอลงงเป็นไก่ตาแตกว่าเขาคือใคร สุดท้าย มาร์กซิยาล ก็ยึดตัวจริงในทีมปัจจุบัน

    บางครั้งความอดทนและเชื่อมั่นในกระบวนการของสโมสรเป็นกุญแจสำคัญ ดีเอ็นเอของ “ผีแดง” คือการปั้นดาวรุ่งเป็นซูเปอร์สตาร์อยู่แล้ว

2.ค่าเหนื่อยไม่ใช่ปัญหา

จากรายงานของ “เดอะ การ์เดี้ยน” สิ่งที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เดินถอยหลังออกจากดีลของ ซานโช่ เป็นเพราะพวกเขาอาจเสียเงินรวมในดีลนี้รวมทั้งหมดมากถึง 227 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

    มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจ่ายเงินระดับนี้ในช่วงที่ทีมกำลังเผชิญหน้าปัญหาทางการเงินจากโรคระบาดโควิด-19 แม้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีเงินมากกว่าหลายสโมสรแต่พวกเขาต้องจ่ายค่าเหนื่อยมหาศาลให้กับสตาร์ในทีมทุกๆวีคอยู่แล้ว

    ค่าตัว, ค่าเหนื่อย และค่าเอเจ้นต์ ของ ซานโช่ รวมกันแล้วมันมากเกินความจำเป็น ในทางกลับกัน ดิยัลโล่ ไม่ได้มาในฐานะซูเปอร์สตาร์ของทีมแต่เขามีศักยภาพมากพอที่จะก้าวไปสู่จุดนั้น อย่างน้อยตอนนี้ “ผีแดง” เซฟเงินไว้ได้ก้อนใหญ่ทีเดียว ยิ่งถ้า ดิยัลโล่ มาแจ้งเกิดได้ ยูไนเต็ด อาจไม่ต้องเสียเงินกับ เจดอน ซานโช่ และสามารถนำเงินไปลงทุนกับนักเตะตำแหน่งอื่นได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ได้เสียอะไรมากนัก

3.ความคาดหวังน้อย

    แน่นอนว่าในรายของ เจดอน ซานโช่ คงจะเข้ามา “ปีศาจแดง” ด้วยการเป็นหนึ่งในนักเตะที่แพงที่สุดในโลก แต่มันคงต้องมาพร้อมกับความกดดันเป็นเรื่องธรรมดาซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป 

    ปฏิเสธไม่ได้ว่า ซานโช่ คือนักเตะที่มีพรสวรรค์แต่ก็มีนักเตะหลายคนที่แบกรับความกดดันไม่ไหวจนต้องยอมแพ้โดยเฉพาะในช่วงหลังมานี้นักเตะที่มาในฐานะตัวความหวังหลายรายเอาชื่อมาทิ้งที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

    แต่ ดิยัลโล่ ในวัยเพียง 18 ปียังพัฒนาขึ้นไปได้อีกมาก แฟนบอลคงไม่ได้หวังจะให้เขาเข้ามาแล้วยึดตัวจริงเลยอยู่แล้ว แค่การมีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ก็ถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าสำหรับเจ้าหนูคนนี้ แต่ถ้าหากทำผลงาน “ปัง” ขึ้นมายิ่งเป็นผลดีกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย

"เวนเกอร์" ชี้บาเยิร์นชุดนี้ยังห่างชั้นจากปี2013

อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานกุนซือ อาร์เซน่อล ฟันธง บาเยิร์น มิวนิค ชุดนี้ยังเทียบไม่ติดกับทีมชุดสามแชมป์เมื่อปี 2013 พร้อมหยัน "เสือใต้" ผงาดได้ในซีซั่นล่าสุด เพราะยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ ต่างพร้อมใจกันฟอร์มรูด

  อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ยอมรับว่า บาเยิร์น มิวนิค คือสโมสรที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุโรปเวลานี้ แต่ยังคงเทียบไม่ได้กับ "เสือใต้" ชุดคว้าทริปเปิ้ลแชมป์เมื่อฤดูกาล 2012/13 

              ฤดูกาล 2019/20 ที่ผ่านมา บาเยิร์น ภายใต้การนำทัพของกุนซือ ฮันซี่ ฟลิค ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการกวาดเรียบทั้งแชมป์ บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กระนั้นถึงแม้เป็นความสำเร็จระดับเดียวกับชุดคว้าทริปเปิ้ลแชมป์เมื่อ 7 ปีก่อน แต่ เวนเกอร์ มองว่า "เสือใต้" ชุดปัจจุบัน ยังห่างชั้นกับทีมเมื่อปี 2013 ที่นำทัพโดยกุนซือ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส     

             "ทีมชุดปี 2013 ดีกว่าเยอะ พวกเขามีนักเตะอย่าง ฟิลิปป์ ลาห์ม, ฟร้องค์ ริเบรี่, อาร์เยน ร็อบเบน, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, โทนี่ โครส ชุดนั้นพวกเขามีคุณภาพครบทุกตำแหน่งเลย ส่วนทีมชุดปัจจุบันยังสามารถพัฒนาได้อยู่ บางทีอาจจะขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับทีมชุดปี 2013 ก็ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น" 

            "ผมไม่ได้ลดคุณค่าฟอร์มการเล่นของทีมชุดนี้นะ เพราะปัจจุบันยังไง บาเยิร์น ก็คือทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุโรป แต่นั่นก็เป็นเพราะสโมสรใหญ่รายอื่นๆ ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีด้วย ขณะที่ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ต่างก็อ่อนแอลงพอดี" กุนซือระดับปรมาจารย์ชาวฝรั่งเศสวัย 70 ปี กล่าวกับ แดร์ สปีเกิ้ล สื่อเมืองเบียร์