top of page
ค้นหา

แม็กไกวร์รับเฟร็ดควรโดนแดงตั้งแต่ครึ่งแรก

  • aywutwork2020
  • 3 ธ.ค. 2563
  • ยาว 2 นาที

อัปเดตเมื่อ 31 ม.ค. 2564

แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ก้มหน้ารับ เฟร็ด ควรจะโดนใบแดงตั้งแต่ครึ่งแรกในเกมที่พ่าย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-3

พร้อมบอกว่า "ปีศาจแดง" ไม่ควรแพ้เกมนี้ด้วย แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลังกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่า เฟร็ด มิดฟิลด์เพื่อนร่วมทีมสมควรโดนใบแดงตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช นัดที่ทีมของตนแพ้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-3 คารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันพุธที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา

เกมนี้ เฟร็ด โดนไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 70 จากการโดนใบเหลืองเป็นใบที่สอง โดยใบแรกที่เขาได้รับเกิดขึ้นในนาทีที่ 23 ซึ่งที่จริงหลายคนมองว่าเขาควรจะโดนไล่ออกจากจังหวะนั้นแล้ว เพราะมันเป็นชอตที่เขาเหมือนจะเอาหัวโขกใส่ เลอันโดน ปาเรเดสแม็กไกวร์ เผยว่า "มันเป็นเรื่องแปลกมาก สล็อต น่าเล่น กับการที่กรรมการแจกใบเหลือง (ให้ เฟร็ด ในช่วงครึ่งแรก) จังหวะแบบนี้มันควรจะต้องเป็นใบแดง หรือไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องแจกใบอะไรเลย ส่วนในครึ่งหลังมันไม่ควรแจกใบเหลืองในจังหวะนั้น เขาแย่งบอลมาครองได้แล้ว ผมน่ะยืนห่างจากจังหวะนั้นแค่ 2 หลาเท่านั้น ส่วนผู้กำกับเส้นยืนห่างไป 5 หลา แต่ก็อย่างว่าแหละ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีนักเตะล้มลงไปน่ะมันก็จะมีการแจกใบเหลืองให้อีกฝ่ายอยู่เป็นประจำ แถมเกมระดับทวีปยุโรปมันก็มีการแจกใบเหลืองง่ายกว่าเป็นพิเศษอีก"

ree

กองหลังชาวอังกฤษเสริมว่าที่จริงเกมนี้ทีมของตนไม่สมควรแพ้เลย "มันเป็นค่ำคืนที่น่าผิดหวัง เราอยากชนะในเกมนี้ และอยากเป็นแชมป์กลุ่ม ฟุตบอลน่ะตัดสินกันจากเรื่องเพียงไม่กี่เรื่อง เรามีโอกาสทำประตูดีกว่า ส่วน 2 ประตูที่พวกเขาได้น่ะลูกหนึ่งมันมีการแฉลบเข้ามาเอี่ยว ส่วนอีกลูกก็เกิดจากจังหวะที่บอลวนไปวนมาอยู่รอบกรอบเขตโทษ ผมรู้สึกว่าสมควรได้บางอย่างจากเกมนี้ เมื่อมีโอกาสคุณก็ต้องทำประตูให้ได้ และไม่พลาดเสียประตูแบบง่ายๆ แต่เราก็ยังเป็นฝ่ายที่ได้กุมสถานการณ์การเข้าสู่รอบน็อกเอาต์อยู่"


เนย์มาร์3ตุง! ปารีสถล่มบาซัคเซเฮียร์ ซิวแชมป์กลุ่มจูงไลป์ซิกเข้า16ทีมชปล.


ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทะยานเข้าไปเล่นในรอบต่อไปตามคาด หลังแข่งต่อจากเกมเมื่อวานที่หยุดไป ก่อนกลับมาเล่นต่อในวันนี้ไล่ถล่ม บาซัคเซเฮียร์ ทีมดังจากตุรกีไปแบบสบาย 5-1 เนย์มาร์ ทำแฮตทริก พาทีมซิวแชมป์กลุ่ม

พร้อมควง แอร์เบ ไลป์ซิก ที่เขี่ย "ผีแดง" เข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา สนาม : ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช นัดสุดท้าย คู่ระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กับ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ ซึ่งโปรแกรมเดิมต้องแข่งขันในวันอังคารที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ผู้ตัดสินต้องเป่าหยุดเกม หลังจากที่บรรดานักเตะทั้งสองฝ่ายพร้อมใจกันเดินออกจากสนาม เนื่องจากผู้ตัดสินที่สี่ใช้คำพูดเหยียดผิวใส่ ปิแอร์ เวโบ้ ผู้ช่วยกุนซือของ บาซัคเซเฮียร์ ก่อนท้ายที่สุด ยูฟ่า จะยืนยันให้มาแข่งขันในคืนวันพุธนี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่ นาทีที่ 13 ที่หยุดเกมไป นาที 16 บาซัคเซเฮียร์ เกือบได้ลุ้นขึ้นนำก่อนหลัง เฟรดริก กูลบรานด์เซ่น ได้โอกาสหลุดเข้าไปซัดด้วยขวาแต่บอลไปตรงตัว เคย์ลอร์ นาวาส ทุบบอลออกมาได้ อีกสองนาทีถัดมา เปแอสเช เกือบ ได้ลุ้นประตูเช่นกัน จากจังหวะสวนกลับเร็ว อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ วางบอลยาวไปที่ว่างให้ คีลิยัน เอ็มบั๊บเป้ หลุดเข้าไปซัดมุมแคบแต่บอลเหินคานออกไป กระทั่ง นาที 21 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 มาร์โก แวร์รัตติ แทงสั้นๆให้ เนย์มาร์ หน้ากรอบก่อนที่สตาร์ทีมชาติบราซิลจะแตะบอลลอดขา คาร์ลอส พองค์ ก่อนปั่นหนีมือนายด่านบาซัคเซเฮียร์โค้งเสียบเสาไกลอย่างสุดงาม นาที 33 เลอันโดร ปาเรเดส แทงบอลให้ เอ็มบั๊บเป้ หลุดเข้าไปแตะบอลหลบ แมร์ต กูน็อค ก่อนโดนรวบล้มในเขตโทษ ทว่าผู้ตัดสินไม่เป่าให้จุดโทษ แต่เป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ เอ็มบั๊บเป้ ไปก่อน นาที 38 เปแอสเช มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะที่ เบอร์คาย ออซคาน ห้องเครื่องทีมเยือนกะจังหวะขึ้นโขกผิด บอลเลยมาเข้าทาง ราฟินญ่า กระชากขึ้นมาแล้วจ่ายต่อให้ เอ็มบั๊บเป้ แทงทะลุช่องให้ เนย์มาร์ หลุดเข้าไปซัดบอลตุงตาข่าย เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ ถัดมาอีกนาที เปแอสเช ชวดได้ประตูที่ 3 อย่างน่าเสียดายหลัง เนย์มาร์ ซัดไม่ถึง 6 หลาไปติดเซฟ แมร์ต กูน็อค แต่บอลมาเข้าทาง มิตเชล บัคเกอร์ ที่ยืนอยู่ใกล้ๆซ้ำเจ้าไปไม่เหลือ ทว่าผู้ตัดสินหลังได้รับสัญญาณจาก วีเออาร์ เป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ บัคเกอร์ ก่อนจะย้อนมาดูเหตุการณ์ที่ เนย์มาร์ โดนนายด่านทีมเยือนทำฟาวล์ซึ่ง ผู้ตัดสินเป่าย้อนหลังให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่น และเป็น คีลิยัน เอ็มบั๊บเป้ ที่ซัดเข้าไปไม่เหลือให้ เปแอสเช นำห่าง 3-0 ASIAXX1 จบครึ่งแรก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง นำห่าง บาซัคเซเฮียร์ 3-0 ครึ่งหลัง นาที 50 เจ้าบ้านได้ประตูนำโด่งเป็น 4-0 ทันทีบอลจาก เนย์มาร์ ที่ลากจากซ้ายตัดเข้ากลางทำชิ่งกับ อังเคล ดิ มาเรีย ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรองไหลต่อให้ เนย์มาร์ ตะบันด้วยขวาหน้าหัวกระโหลกบอลพุ่งแรงหนีมือ แมร์ต กูน็อค เข้าไปอย่างเฉียบขาด เป็นแฮตทริกของอดีตแข้งบาร์เซโลน่าในเกมนี้ นาที 56 เลอันโดร ปาเรเดส เกือบทำพลาดหลังไปทำเสียบอลหน้าประตูให้ มาห์มุต เท็คเดเมียร์ ตั้งป้อมยิงแบบเน้นๆ แต่บอลยังไปติดเซฟ เคย์ลอว์ นาวาส ปัดข้ามคาน และจากจังหวะลูกเตะมุมต่อเนื่องบอลเลยมาเข้าทาง อีร์ฟาน คาห์เวชี่ วอลเลย์ด้วยซ้ายบอลพุ่งไปชนสะโพก เมห์เม็ต โทปาล เปลี่ยนทางเข้าประตูไปให้ บาซัคเซเฮียร์ ไล่เจ้าถิ่นมาเป็น 1-4 นาที 62 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาได้เม็ดที่ห้านำโด่งเป็น 5-1 บอลโต้ขึ้นมาจาก เนย์มาร์ ลากจากกลางสนามแล้วไหลออกซ้ายให้ อังเคล ดิ มาเรีย ก่อนจะหักไหลมานิ่มๆให้ คีลิยัน เอ็มบั๊บเป้ ยิงโล่งๆ เข้าไปไม่พลาด และเป็นเม็ดที่สองของเอ็มบั๊บเป้ในเกมนี้ นาที 72 เจ้าบ้านเกือบได้ลุ้นเม็ดที่หก เนย์มาร์ ไหลต่อให้ คีลิยัน เอ็มบั๊บเป้ กดด้วยขวาจากนอกกรอบบอลพุ่งแรง กระนั้นก็ยังไม่ผ่านมือ แมร์ต กูน็อค ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไล่ถล่มเอาชนะ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ ไปอย่างขาดลอย 5-1 เก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 12 คะแนนเท่ากับ ไลป์ซิก แต่เฮดทูเฮดเปแอสเชนั้นดีกว่าทำให้คว้าแชมป์กลุ่ม เอช พร้อมควงแอร์เบ ไลป์ซิก ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

ree

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (5-3-2) : เคย์ลอร์ นาวาส - อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ (ทิโมธี่ เพมเบเล่ น.80), มาร์กวินญอส (ธิโล่ เคห์เรอร์ น.67), ดานิโล่ เปเรยร่า, เพรสแนล คิมเพมเบ้ (อับบู ดิยัลโล่ น.80), มิตเชล บัคเกอร์ - ราฟินญ่า (อังเคล ดิ มาเรียน.46), เลอันโดร ปาเรเดส, มาร์โก แวร์รัตติ (อิดริสซ่า เกย์ น.80) - คีลิยัน เอ็มบั๊บเป้, เนย์มาร์ เทรนเนอร์ : โธมัส ทูเคิ่ล บาซัคเซเฮียร์ (4-3-3) : แมร์ต กูน็อค - ราฟาเอล ดา ซิลวา (กีเลียโน่ น.68), คาร์ลอส พองค์, เมห์เม็ต โทปาล , ฮาซาน อาลี คัลดิริม (โบลี่ โบลินโกลี่-เอ็มบอมโบ้ น.68) - อีร์ฟาน คาห์เวชี่, มาห์มุต เท็คเดเมียร์ (นาเซอร์ ชาดลี่ น.89), เบอร์คาย ออซคาน - เฟรดริก กูลบรานด์เซ่น (เอ็มเร่ คาปลาน น.80), เอ็นโซ่ คริเวลลี่ (เดมบ้า บา น.68), เดนิซ ทูรุค เทรนเนอร์ : โอคาน บูรุค ผู้ตัดสิน : โอวิดิอู ฮาเตกาน (โรมาเนีย)

 
 
 

ความคิดเห็น


©2020 by เว็บไซต์ของฉัน. Proudly created with Wix.com

bottom of page