แวร์เรซัดชัยสุดเหนือ! ซามพ์โดเรียบุกทุบฟิออฯหวิว ซิวชัยนัดแรก

วาเลริโอ แวร์เร กลายเป็นฮีโร่ของ ซามพ์โดเรีย หลังลงมาเป็นสำรองแล้วซัดประตูชัยพาทีมบุกไปเอาชนะ ฟิออเรนตินา 2-1 เก็บชัยชนะนัดแรกของฤดูกาล และสามแต้มแรกสำเร็จ ในเกม เซเรีย อา อิตาลี เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา

สนาม : อาร์เตมิโอ ฟรังคี่

    ฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี นัดที่ 3 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่างเจ้าบ้าน ฟิออเรนตินา ซึ่งพ่ายให้ อินเตอร์ มิลาน 3-4 มาในเกมล่าสุด รับการมาเยือนของ ซามพ์โดเรีย ที่แพ้มา 2 นัดรวด ซึ่งล่าสุด พ่ายคาบ้านให้ สวีทโบนันซ่า ยอดฮิต น้องใหม่ เบเนเวนโต้ 

    จูเซ็ปเป้ ยาคินี่ นายใหญ่ของ "วิโอล่า" ไม่มีชื่อของ ฟร้องค์ ริเบรี่ ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ โดยแนวรุกวาง คริสเตียน คูอาเม่ และดูซาน วลาโฮวิช ล่าตาข่าย โดยมี เฟเดริโก้ เคียซ่า ปั้นเกมริมเส้น ส่วนทีมเยือน "ลาซามพ์" ของ  เคลาดิโอ รานิเอรี่

ฝากความหวังล่าตาข่ายไว้ที่ กาสตัน รามิเรซ และฟาบิโอ กวายาเรลล่า

    ครึ่งแรก นาที 8 เจ้าถิ่นได้โอกาสทักทายก่อนเลยหลัง จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า ผ่านบอลให้ คริสเตียน คูอาเม่ ซัดด้วยขวากลางกรอบแต่บอลพุ่งหลุดเสาออกไป

    นาที 13 เป็นโอกาสของเจ้าบ้าน ฟิออเรนตินา อีกครั้ง ซึ่งเกือบได้ลุ้นขึ้นนำหลัง คริสเตียน คูอาเม่ ไหลต่อให้ ดูซาน วลาโฮวิช ตะบันด้วยซ้ายจากนอกกรอบบอลพุ่งจน เอมิล ออเดโร่ นายด่านลาซามพ์ต้องปัดออกไป

    อาคันตุกะตอบโต้ขึ้นมา นาที 26 อันโตนิโอ คันเดรว่า รับบอลจาก ดัมส์การ์ด ก่อนหวดด้วยขวานอกกรอบแต่ยังไม่ผ่านมือ บาร์โตเมีย ดราคอฟสกี้

    ท้ายเกมลูกทีมของ รานิเอรี่ โหมกดดันเจ้าบ้านหนักมาก นาที 34 คันเดรว่า ได้โอกาสอีกแต่คราวนี้ซัดไปเข้ามือนายด่านเจ้าถิ่น อีก 2 นาทีถัดมา  ฟาบิโอ กวายาเรลล่า ได้โอกาสบ้างแต่บอลหลุดกรอบออกไป

    นาที 41 เจ้าบ้านมาพลาดท่าจนได้หลัง เฟเดริโก้ เชคเครินี่ แนวรับมาทำเสียจุดโทษหลังไปเข้าฟาวล์ใส่ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า ก่อนที่หัวหอกวัย 37 ปี จะลุกขึ้นมาสังหารผ่านมือดราคอฟสกี้เข้าไปอย่างเด็ดขาด ให้ทีมเยือนบุกมานำ ฟิออฯ 1-0 ก่อนจบ ครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ 

    ครึ่งหลัง นาที 64 ฟิออฯได้โอกาสลุ้นตีเสมอบ้างคราวนี้ อันโตนิโอ คันเดรว่า ได้กดด้วยขวาเน้นแต่บอลยังไม่ผ่านมือ บาร์โตเมีย ดราคอฟสกี้

    กระนั้น นาที 72 "ม่วงมหากาฬ" มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ นิโกล่า มิเลนโควิช กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามาหน้าประตู บอลถึง ดูซาน วลาโฮวิช จับบอลก่อนซัดด้วยซ้ายเข้าไป

    นาที 76 ทีมเยือนชวดโอกาสได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดายหลัง มอร์เท่น ธอร์สบี้ ส่งบอลเข้าก้นตาข่ายไปแล้ว แต่ VAR ไม่ให้ประตูเนื่องจาก ลอเรนโซ่ โตเนลลี่ แนวรับลาซามพ์ไปทำแฮนด์บอลเสียทำให้สกอร์ยัง 1-1 เท่ากัน

    แต่แล้ว นาที 83 ซามพ์โดเรีย มาแซงขึ้นนำเจ้าบ้าน 2-1 อีกครั้งจนได้ เป็นจังหวะที่ เอมิล ออเดโร่ นายทวาร์ลาซามพ์หนุนบอลโด่งจากแดนตัวเองมาหน้าให้ วาเลริโอ แวร์เร ตัวสำรองเอาบอลลงด้วยซ้ายอย่างนิ่มนวล ก่อนจะกระดกบอลด้วยขวา ข้ามหัว บาร์โตเมีย ดราคอฟสกี้  เข้าไปอย่างเหนือชั้น

    จบเกม ฟิออเรนติน่า เปิดบ้านพ่ายให้ ซามพ์โดเรีย 1-2 ส่งผลให้ "ลาซามพ์" คว้าชัยนัดแรกของฤดูกาลได้สำเร็จ ส่วน ฟิออฯ พ่าย 2 เกมติดต่อกัน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ฟิออเรนติน่า (3-5-2) : บาร์โตเมีย ดราคอฟสกี้ - นิโกล่า มิเลนโควิช, เฟเดริโก้ เชคเครินี่, มาร์ติน กาเซเรส - เฟเดริโก้ เคียซ่า, จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า, กาเอตาโน่ คาสโตรวิลลี่, ซอฟยาน อัมราบัต, คริสเตียโน่ บิรากี - คริสเตียน คูอาเม่, ดูซาน วลาโฮวิช

        เทรนเนอร์ : จูเซ็ปเป้ ยาคินี่

ซามพ์โดเรีย (4-4-2) : เอมิล ออเดโร่ - บาร์ตอส เบเรสซินสกี้, มายะ โยชิดะ, ลอเรนโซ่ โตเนลลี่, ตอมมาโซ่ ออเจลโล่ - อันโตนิโอ คันเดรว่า, มอร์เท่น ทอร์สบี้, อัลบิน เอคดาล, โทเบียส ดัมส์การ์ด - กาสตัน รามิเรซ, ฟาบิโอ กวายาเรลล่า

        เทรนเนอร์ : เคลาดิโอ รานิเอรี่ ASIA369

เริ่ดคะ!มาเน่มีชื่อลุ้นแข้งยอดเยี่ยมลีกกันยายน

ซาดิโอ มาเน่ ดาวเตะคนเก่งลิเวอร์พูล มีชื่อลุ้นรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก ประจำเดือนกันยายน หลังระเบิดฟอร์มสุดยอดในเกมลีก 3 แมตช์ที่ผ่านมา 

   ซาดิโอ มาเน่ กองหน้าความเร็วสูงทีมชาติเซเนกัลของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรขวัญใจมหาชนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีลุ้นรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนกันยายน หลังจากนักเตะโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นนับตั้งแต่ที่เปิดฤดูกาล 2020/2021 

    ดาวเตะเจ้าของเสื้อหมายเลข 10 ได้รับความไว้วางใจจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ลงสนามเป็นตัวจริงทั้ง 3 แมตช์ในเกมลีกช่วงเดือนที่ผ่านมา และระเบิดฟอร์มสุดยอดช่วยให้แชมป์เก่า สามารถเก็บชัยชนะเรียบวุธ โดยตอนนี้ "เดอะ เร้ดส์" มี 9 คะแนนเต็มเท่ากับ เลสเตอร์ ซิตี้ และ เอฟเวอร์ตัน 

    ผลงานของ มาเน่ โดดเด่นมากๆ โดยเฉพาะในแมตช์ที่ชนะ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี 2-0 ซึ่ง ดาวเตะเซเนกัล ซัดไปสองประตู ก่อนที่จะโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดอีกครั้งเมื่อช่วยทีมซัด 1 ประตูในเกมไล่ถลุง "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล 3-1 ที่สนามแอนฟิลด์

    นอกจาก มาเน่ แล้วคนที่ได้รับการเสนอชื่อลุ้นรางวัลนี้ยังมี แพทริค แบมฟอร์ด  (ลีดส์ ยูไนเต็ด), โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน และ ฮาเมส โรดริเกซ (เอฟเวอร์ตัน), ติโมธี คาสตานเญ่ และ เจมี่ วาร์ดี้ (เลสเตอร์ ซิตี้), แฮร์รี่ เคน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) และ ทาริก แลมป์ตีย์  (ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน) 

คาริอุสสำรอง-อูนิโอนเฮ! ไล่ถล่มไมนซ์เก็บชัยแรกบุนเดสฯ

อูนิโอน เบอร์ลิน เก็บสามแต้มแรกตั้งแต่เปิดลีกสำเร็จ แถมนัดนี้มี "ลอริส คาริอุส" นายด่านป้ายแดงนั่งเป็นตัวสำรอง ก่อนทีมใหม่ สอย ไมนซ์ ที่ปราชัยสามเกมรวด 2-0 ในการแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน คืนวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา

สนาม : สตาดิโอน อัน แดร์ อัลเท่น เฟิร์สเทอไร

     ศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน คืนวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา อูนิโอน เบอร์ลิน แมตช์ก่อนจบเสมอ นัดนี้ อูร์ส ฟิสเชอร์ นายใหญ่เจ้าบ้าน ยืมตัวนายด่านหงส์แดง "ลอริส คาริอุส" เสริมทัพแต่นั่งเป็นตัวสำรอง ส่วนเกมรุก "มักซ์ ครูเซ่" ดาวยิงคนสำคัญเป็นตัวจริงลงซัดทีมเยือน ไมนซ์ ที่ออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่แพ้ไปสองเกมรวด อาชิม ไบเออร์ลอร์เซอร์ กุนซือของทีม หวังลูกทีมคนเก่งอย่าง "ฌอง ฟิลิปป์ มาเตต้า" จะหวดช่วยต้นสังกัดมีแต้มออกไป

     อูนิโอนเปิดฉากบุกนาทีที่ 12 คริสโตเฟอร์ เลนซ์ มิดฟิลด์เจ้าถิ่นกระชากบอลมากลางสนามถึงระยะ 25 หลา ตัดสินใจลองสับไกบอล ทว่าบอลสูงเกินไปข้ามคานพอสมควร 

     เจ้าบ้านออกนำนาทีที่ 13 เชราลโด้ เบ็คเกอร์ สปีดมารับบอลในเขตโทษด้านขวาเกือบถึงเส้นหลัง เปิดข้ามฟากมาให้ มักซ์ ครูเซ่ วิ่งมาตั้งหัวโหม่งบอลกระทุ้งผ่านตัวนายทวารทีมเยือนซุกก้นตาข่าย

     ต่อมานาทีที่ 19 กริสช่า เพรอเมิ่ล โขกบอลต่อขึ้นหน้าไปที่ เชราลโด้ เบ็คเกอร์ วิ่งไปเก็บบอลริมสนามทางขวา ก่อนเสี่ยงเปิดครอสมาหน้าเขตโทษ บอลเลี้ยวเกือบเช็คเสาแรกหวิดเข้าประตู

     ทีมแกร่งเบอร์ลินชวดทิ้งห่างนาทีที่ 30 คริสโตเฟอร์ เลนซ์ ผ่านบอลริมกรอบเขตโทษด้านซ้าย บอลไปแฉลบผู้เล่นทีมเยือน กระดอนมาตั้งให้ นิโค่ ชเลิทเทอร์เบ็ค แนวรับอูนิโอนเติมมาซัดคนเดียวไร้ตัวประกบ ทว่ายังมี โรบิน เซนท์เนอร์ นายด่านทีมเยือนกางแขนออกมาปิดมุมป้องกันเอาไว้ได้ จบ 45 นาทีแรก อูนิโอน นำอยู่ 1-0 

     ยังเป็นเจ้าบ้านรุกนาทีที่ 47 มาร์คุส อิงวาร์ทสัน โยนลุกเตะมุมทางซ้าย บอลลอยมาในเขตโทษเยื้องมาทางขวา นิโค่ ชเลิทเทอร์เบ็ค กระโดดโหม่งบอลกระเด้งพื้นแต่เบาและตรงตัว โรบิน เซนท์เนอร์ นายด่านทีมเยือนรับอยู่มือ

     อูนิโอนเฮจนได้นาทีที่ 49 คริสโตเฟอร์ ทริมเมิ่ล รับบอลจากแดนหลัง ลากขึ้นมาครอสบอลริมสนามทางขวาเกือบ 30 หลา บอลโค้งมาหาเท้า มาร์คุส อิงวาร์ทสัน ที่วิ่งมารอคนเดียวโล่งโจ้ง หวดตามน้ำส่งบอลสู่ก้นตาข่ายไปอีกเม็ด

     เจ้าถิ่นฉีกหนีนาทีที่ 63 คริสโตเฟอร์ ทริมเมิ่ล วางลูกฟรีคิกริมสนามทางขวา ทิ้งมาในเขตโทษ มาร์วิน ฟรีดริช ลอยตัวเบียด เยเรเมียห์ ยุสเต้ แนวรับไมนซ์ ก่อนโหม่งบอลลอยแสกหน้ามือกาวทีมเยือนเข้าประตูไป

     ยังไม่หนำใจนาทีที่ 64 มาริอุส บัตเลอร์ ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเปิดบอลเรียดทางซ้ายของสนาม บอลเลยเกมรับทีมเยือนมาหา โยเอล โปห์ยานปาโล ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาเช่นกันยิงจังหวะแรกติดเท้าตนเองแต่บอลไม่ไปไหน เจ้าตัวเอี่ยวตัวซัดอีกครั้งซุกตาข่าย เป็นลูกแรกของเขากับทีมใหม่อีกด้วย จบเกม อูนิโอน เบอร์ลิน ชนะ ไมนซ์ 4-0 เก็บสามแต้มแรกตั้งแต่เปิดลีกสำเร็จ ส่วนผู้มาเยือนแพ้สามนัดรวดเช่นกัน

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

อูนิโอน เบอร์ลิน (3-4-2-1): อันเดรียส ลูเธ่อ,มาร์วิน ฟรีดริช,โรบิน คน็อคเค่,นิโค่ ชเลิทเทอร์เบ็ค,คริสโตเฟอร์ ทริมเมิ่ล (ยูเลี่ยน ไรเออร์สัน น.69),กริสช่า เพรอเมิ่ล,โรเบิร์ต อันดริช (เซบาสเตียน กริสเบ็ค น.82),คริสโตเฟอร์ เลนซ์,เชราลโด้ เบ็คเกอร์ (มาริอุส บัตเลอร์ น.64),มาร์คุส อิงวาร์ทสัน (เคตะ เอ็นโด น.82),มักซ์ ครูเซ่ (โยเอล โปห์ยานปาโล น.64)

ไมนซ์ (4-2-3-1): โรบิน เซนท์เนอร์,ฟิลิปป์ เอ็มวินี่ (อารอน การ์ริคอล น.71),เยเรเมียห์ ยุสเต้,อเล็กซานเดอร์ แฮ็ค,ดาเนียล โบรซินสกี้,คุนเด้ มาลอง (พอล เนเบล น.60),ดานนี่ ลัตซ่า,คาริม โอนิซิโว,ฌอง ปอล โบเอติอุส,โรบิน ไควซอน (ลูคา ยานนิส คีเลียน น.71),ฌอง ฟิลิปป์ มาเตต้า (โยนาธาน บูร์คารด์ท น.60)