โด้จ่อคืนทัพ! ยูเวนตุสเร่งฟอร์มบุกถลุงน้องใหม่สเปเซีย

"ม้าลาย" ยูเวนตุส ได้ข่าวดีเมื่อมีสิทธิ์ลง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ประจำทีมที่หายจากโควิด ลงตัวจริงกู้วิกฤติฟอร์มระยะหลัง บุกบ้านน้องใหม่ สเปเซีย ที่ผลงานสามเกมหลังไม่มีชนะ ในการแข่งขันฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี คืนวันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน 2563

ปรีวิวฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี  วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน 2563 สเปเซีย (14) - ยูเวนตุส (6) เวลา : 21.00 น. ถ่ายทอดสด : บีอินส์ สปอร์ต 2

สนาม : โอโรเกล สเตเดี้ยม

    สเปเซีย ทีม สล็อต ได้เงินจริง น้องใหม่เกมล่าสุดบุกไปชนะ ชิตตาเดลล่า 2-0 ในโคปปา อิตาเลีย รอบสาม เมื่อกลางสัปดาห์

    สภาพทีมในเกมนี้ วินเซนโซ่ อิตาเลียโน่ เทรนเนอร์ เจ้าถิ่นจะยังไม่มี เฟเดริโก้ มัตติเอลโล่, จูเซ็ปเป้ มาสตินู และ อันเดรย์ กาลาบินอฟ กองหน้าตัวเก่งชาวบัลแกเรียที่มีอาการบาดเจ็บ 

    การจัดทัพใช้ ลูก้า โมร่า ปักหลักกลางสนามกับ เปาโล บาร์โตโลเมว แนวรุก โรแบร์โต้ ปิคโคลี่ ยืนหน้าเป้า พร้อมมี เอ็มมานูเอล กียาซี่ กับ เควิน อกูเดโล่ คอยช่วยริมเส้น

    ด้าน ทัพ "ม้าลาย" เกมล่าสุดเปิดบ้านแพ้ บาร์เซโลน่า 0-2 ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สภาพทีมในเกมนี้ อันเดรีย ปิร์โล่ เทรนเนอร์ ยูเวนตุส จะไม่มี มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ และ อเล็กซ์ ซานโดร ที่ยังเจ็บแต่ข่าวดีคือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผลตรวจโควิดเป็นลบกลับมาลงสนามได้แล้ว ในแดนกลางให้ อาร์ตูร์ ประสานงานกับ โรดริโก้ เบนตากูร์ แนวรุกวาง เดยัน คูลูเซฟสกี้ ดาวรุ่งชาวสวีดิชสนับสนุนคู่หน้า อัลบาโร่ โมราต้า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

สเปเซีย (4-3-3) : ราฟาเอล - ซัลวา เฟร์เรร์, ยูเลี่ยน ชาบ็อต, มาร์ติน เอร์ลิช, คริสเตียน เดล ออร์โค่ - ลูก้า โมร่า, มัตเตโอ ริชชี่, เปาโล บาร์โตโลเมว - เอ็มมานูเอล กียาซี่, โรแบร์โต้ ปิคโคลี่, เควิน อกูเดโล่

เทรนเนอร์ : วินเซนโซ่ อิตาเลียโน่

ยูเวนตุส (3-4-1-2) : วอยเซียจ เชสนี่ - เมริห์ เดมิรัล, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, ดานิโล่ - ฮวน กวาดราโด้, อาร์ตูร์, โรดริโก้ เบนตากูร์, เฟเดริโก้ เคียซ่า - เดยัน คูลูเซฟสกี้ - อัลบาโร่ โมราต้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

 เทรนเนอร์ : อันเดรีย ปิร์โล่

เลเวอร์ฯขอคืนที่4,ไฟรบวร์กบู๊เพื่อขยับอันดับPPTVถ่ายสด

"ห้างขายยา" เลเวอร์คูเซ่น จำเป็นต้องเก็บสามแต้มเท่านั้น หากหวังขยับกลับอันดับ 4 พาทริค ชิค ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเกมบุกถิ่น "จิ้งจอกป่าดำ" ไฟรบวร์ก ที่มีลุ้นขยับขึ้นครึ่งบนของตาราง ในการแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน คืนวันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน 2563 พีพีทีวี ถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 21.30 น. เป็นต้นไป

ปรีวิวฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน 2563 ไฟรบวร์ก (13) - เลเวอร์คูเซ่น (6)  เวลา : 21.30 น. ถ่ายทอดสด : พีพีทีวี

สนาม : ชวาร์ซวัลด์ สตาดิโอน 

    "จิ้งจอกป่าดำ" ภายใต้การคุมทีม ASIAXX1 ของเทรนเนอร์ คริสเตียน ชไตรช์ ฟอร์มโอเคเก็บ 6 แต้มจากห้านัดแรก  ซึ่งสภาพทีมหลักๆคือชวดใช้งาน มาร์ค เฟลคเค่น  (ไหล่), อาเมียร์ อบราชี่(ฟื้นฟูความฟิต) กับ ยานิค ฮาเบเรอร์ (เรียกความฟิต) ทั้งหมด

    การจัดทัพยึดระบบ 4-2-2-2  มิดฟิลด์คู่กลางวาง บาปติสเต้ ซานตามาเรีย คุมเกมร่วมกับ นิโคลัส เฮิฟเลอร์ คู่กองหน้าให้ นิลส์ เพเทอร์เซ่น ล่าตาข่ายกับ ลูคัส เฮอเลอร์ โดยมี โรลันด์ ซัลไล กับ วินเชนโซ่ กรีโฟ่ ขึ้นเกมริมเส้นขนาบข้าง 

 เลเวอร์คูเซ่น ของเทรนเนอร์ ปีเตอร์ บอสซ์ เก็บมา 9 แต้มจากห้านัดแรก ซึ่งสภาพทีมยังชวดใช้งาน เปาลินโญ่ (เรียกความฟิต), ซานติอาโก้ อายาส (กระดูกน่อง), และ พาทริค ชิค (เอ็นกล้ามเนื้อ) ทั้งหมด 

    ภายใต้ระบบ 4-3-3 ตำแหน่งหน้าเป้าส่ง ลูคัส อลารีโอ ประจำการ โดยมี เลออน ไบลี่ย์ กับ มุสซ่า ดิยาบี้ ขึ้นเกมริมเส้นขนาบข้าง แดนกลางส่ง นาเดียม อามิรี่ ลงคุมเกมร่วมกับ ยูเลี่ยน เบาม์การ์ทลิงเงอร์ และ โฟลเรียน เวียร์ทซ์ แบ็กขวาและซ้ายให้ ลาร์ส เบนเดอร์ กับ ดาเนียล ซิงกราเฟ่น ประจำการตามลำดับ

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

   ไฟร์บวร์ก (4-2-2-2) : ฟาเบียน มึลเลอร์ - ลูคัส คึบเลอร์, ฟิลิปป์ เลียนฮาร์ท, โดมินิค ไฮน์ทซ์,  คริสเตียน กึนเทอร์ - บาปติสเต้ ซานตามาเรีย, นิโคลัส เฮิฟเลอร์ - โรลันด์ ซัลไล, วินเชนโซ่ กรีโฟ่ - ลูคัส เฮอเลอร์, นิลส์ เพเทอร์เซ่น

 เทรนเนอร์ :  คริสเตียน ชไตรช์ 

เลเวอร์คูเซ่น (4-3-3) : ลูคัส ราเดชกี้ -  ลาร์ส เบนเดอร์, เอ็ดมอนด์ แทปโซบา, สเวน เบนเดอร์, ดาเนียล ซิงกราเฟ่น - นาเดียม อามิรี่, ยูเลี่ยน เบาม์การ์ทลิงเงอร์, โฟลเรียน เวียร์ทซ์  - เลออน ไบลี่ย์, พาทริค ชิค, มุสซ่า ดิยาบี้ 

    เทรนเนอร์ : ปีเตอร์ บอสซ์ 

โชต้าโชว์ทีเด็ด,ฟิลลิปส์แจ่ม!ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูลเกมเชือดหืดเวสต์แฮม

 เป็นอีกครั้งที่ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ได้ชัยชนะมาอย่างยากลำบาก แถมโดนคู่แข่งนำก่อนอีกแล้ว หลังเปิดรัง แอนฟิลด์ พลิกเชือด เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งบอกเลยว่า ชัยชนะครั้งนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับสองแข้งสำรองอย่าง ดิโอโก้ โชต้า และ เซอร์ดาน ชากิรี่ ขณะที่ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ก็มีผลงานที่น่าประทับใจกับการยืนเซนเตอร์แบ็กตัวจริง และนี่คือผลสอบของนักเตะ ลิเวอร์พูล แต่ละคนในแมตช์นี้   

11 ผู้เล่นตัวจริง

 - อลีสซง เบ็คเกอร์ : 6   เสียหนึ่งประตู และไม่มีจังหวะได้ออกแรงเซฟแม้แต่หนเดียว 

 - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ : 7

  ไม่มีข้อผิดพลาดในเกมรับ และพยายามขึ้นมาช่วยเกมรุกตลอด ซึ่งก็มีส่วนเหมือนกันกับจังหวะได้ประตูชัยของทีม 

 - นาธาเนียล ฟิลลิปส์ : 8   ได้รับโอกาสยืนเซนเตอร์แบ็กตัวจริง และทำผลงานได้น่าประทับใจเลยทีเดียว เพราะช่วยเกมรับได้เยอะมาก ด้วยสถิติชนะดวลลูกกลางอากาศ 5 หน (มากสุดในทีม) และเคลียร์บอลได้ถึง 9 ครั้ง ซึ่งมากสุดในสนามเกมนี้ 

 - โจ โกเมซ : 6.5   อาจไม่ถึงกับเลวร้าย แต่ก็ไม่ใช่วันที่ดีนักสำหรับ โกเมซ เพราะเจ้าตัวโหม่งเคลียร์บอลออกมาไม่ดีในจังหวะที่ทีมเสียประตู แถมชนะดวลลูกกลางอากาศแค่ 38% เท่านั้น (ชนะ 3 จาก 8 ครั้ง) แต่ถึงกระนั้นก็มีบางจังหวะที่เจ้าตัวช่วยเกมรับได้ดี 

- แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : 7   อาจไม่โดดเด่นเรื่องเกมรุก แต่ทำได้ดีในเกมรับ โดยมีจังหวะช่วยบล็อกสำคัญในช่วงครึ่งหลัง 

 - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (C) : 7    ยังคงเป็นตัวคุมเกมและผู้นำที่ดี และประตูชัย 2-1 เจ้าตัวก็มีส่วนร่วมกับการผ่านบอลไปให้ ชากิรี่ ที่เป็นคนแอสซิสต์ให้ โชต้า หลุดเข้าไปจบสกอร์

 - เคอร์ติส โจนส์ : 6   ได้รับโอกาสลงเล่นตั้งแต่นาทีแรก แต่ยังทำผลงานได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไรนัก  

 - จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม : 7.5   เด่นทีเดียวในแดนกลางเกมนี้ โดยเฉพาะการช่วยเกมรับ ซึ่งเจ้าตัวมีสถิติชนะดวลลูกกลางอากาศ 3 หน เป็นรองแค่ ฟิลลิปส์ เพียงคนเดียวในทีม แถมมีการผ่านบอลแม่นยำถึง 97% ซึ่งสูงสุดในทีม 

 - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : 7   มีส่วนร่วมกับเกมสูง แต่ก็มีหลายครั้งที่การตัดสินใจไม่ค่อยดี กระนั้นลูกจุดโทษตีเสมอ 1-1 ของเจ้าตัวช่วงท้ายครึ่งแรก ถือว่าสำคัญมาก  

 - ซาดิโอ มาเน่ : 6    อาจจะวูบวาบในหลายจังหวะ แถมพาบอลผ่านนักเตะคู่แข่งได้ถึง 5 หน (มากสุดในสนาม) แต่ก็ทำบอลเสียบ่อย และฝืนเล่นในหลายจังหวะ

 - โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ : 5   ยังคงเล่นได้น่าผิดหวังต่อเนื่องในสีเสื้อ "หงส์แดง" โดยเกมนี้ไม่มีทีเด็ดอะไรเลย ไม่มีโอกาสยิงแม้แต่หนเดียว รวมถึงการสร้างโอกาสให้เพื่อนลุ้นจบสกอร์ ก่อนโดนถอดออกกลางครึ่งหลัง  สำรองที่ได้ลงเล่น 

 - เซอร์ดาน ชากิรี่ (แทน โจนส์ น. 70) : 7   ทำให้เกมรุกดูคล่องขึ้น และแน่นอนว่า สำคัญมากๆ กับการแอสซิสต์ของเจ้าตัวที่ผ่านบอลให้ โชต้า หลุดเข้าไปยิงประตูชัย 

 - ดิโอโก้ โชต้า (แทน ฟีร์มีโน่ น. 71) : 7.5   สามาถยกระดับเกมรุกขึ้นมาได้ทันทีเมื่ออยู่ในสนาม ยืนตำแหน่งดี หาพื้นที่เก่ง และสุดท้ายเป็นฮีโร่ของทีมกับการทำประตูชัย 2-1 ด้วยลูกยิงสุดเยือกเย็น 

 - เจมส์ มิลเนอร์ (แทน ซาลาห์ น. 90) : -    ไม่สามารถให้คะแนนได้