โลกสีชมพู! "ซาลาห์" หน้าบานลิเวอร์พูลใกล้ซิวแชมป์

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวเตะคนดังของ ลิเวอร์พูล ยิ้มแก้มแทบปริหลัง "เดอะ เร้ดส์" ใกล้จะบรรลุเป้าหมายในการคว้าแชมป์ลีก พร้อมระบุนี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากสโมสรแห่งนี้ร้างความสำเร็จในลีกสูงสุดมานานถึง 3 ทศวรรษ

    โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สตาร์ดังชาวอียิปต์ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดใจตอนนี้รู้สึกดีมากๆ เพราะต้นสังกัดกำลังจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลนี้ โดยต้องการอีกแค่ 2 คะแนนเท่านั้นก็จะทำให้พวกเขาสิ้นสุดการรอคอยที่แสนยาวนาน 30 ปีลงเสียที แทงบอลเงินสด

               หลังจากที่ทำได้แค่บุกไปเสมอ เอฟเวอร์ตัน แบบไร้สกอร์ในศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ล่าสุด ทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งโชว์ฟอร์มสุดยอดไล่ถลุง คริสตัล พาเลซ 4-0 ในเกมลีกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ "หงส์แดง" มือข้างหนึ่งเอื้อมไปจับโทรฟี่สีมันวาวแล้ว 

               ซาลาห์ เปิดใจว่า "ผมรู้สึกดีมากๆ นับตั้งแต่ที่ผมย้ายมาอยู่ที่นี่ ผมเคยพูดแล้วว่าผมอยากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกร่วมกับทีม เมืองนี้ไม่ได้แชมป์นี้มานานแล้ว ดังนั้นนี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสม บางทีเมื่อปีที่ผ่านมาเรามีโอกาสคว้าแชมป์ แต่ แมนฯ ซิตี้ ทำผลงานได้สุดยอดจริงๆ และพวกเขาสมควรได้แชมป์ นี่เป็นเวลาของเราที่จะได้แชมป์ และมันสุดยอดมากๆ"

               ขณะเดียวกับ "บังโม" ยังกล่าวชื่นชมเพื่อนร่วมสังกัดในแมตช์ที่ถลุง พาเลซ ว่า "เราโชว์ฟอร์มได้สุดยอดมากๆ และนักเตะทุกคนก็ทำผลงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ผมมีความสุขกับผลการแข่งขัน และตั้งตาคอยที่จะเล่นในอีก 2 เกมถัดไป ผมคิดว่านักเตะทุกคนเต็มไปด้วยแรงกระตุ้น ทุกๆ คนกระตุ้นตัวเอง และอยากคว้าแชมป์ลีก" 

เชื่อฝีมือ!ซอร์คยัน "ฟาฟร์" ได้คุมดอร์ทมุนด์ต่อ

มิชาเอล ซอร์ค ผอ.กีฬา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยันกุนซือ ลูเซียง ฟาฟร์ จะได้อยู่คุมทีมต่อในซีซั่นหน้า พร้อมระบุ "เสือเหลือง" มีแผนที่จะจับ โจวานนี่ เรย์น่า มิดฟิลด์ดาวรุ่งคนเก่ง ขยายสัญญาออกไปแบบยาวๆ

     มิชาเอล ซอร์ค ผู้อำนวยการกีฬาของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน ยืนยันว่า ลูเซียง ฟาฟร์ เฮดโค้ชชาวสวิส จะได้อยู่คุมทีมต่อไปในฤดูกาลหน้าแน่นอน 

     ด้วยการที่ปัจจุบัน ฟาฟร์ ซึ่งเข้ามาคุมทีมเมื่อปี 2018 เหลือสัญญาคุมทัพ "เสือเหลือง" อีกแค่ปีเดียว ทำให้อนาคตของเจ้าตัวไม่มีความแน่นอน และลือกันว่าอาจจะแยกทางกับสโมสรหลังจบฤดูกาลนี้ หลังจากที่ไม่สามารถฉุด บาเยิร์น มิวนิค ลงมาจากบัลลงก์แชมป์ได้เป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน UFA23

     อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ซอร์ค คอนเฟิร์มว่า ทีมงานโค้ชฤดูกาลหน้ายังคงเป็นชุดเดิม และเตรียมเปิดโต๊ะเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่กับ กุนซือวัย 62 ปี ด้วย

 "เราจะลุยฤดูกาลหน้าด้วยทีมงานชุดเดิม เรามีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมต่อกัน และจะมีการพูดคุยเรื่องสัญญาแน่นอน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม" ผอ.กีฬา ดอร์ทมุนด์ กล่าว โดย "เสือเหลือง" เตรียมลงเตะเกม บุนเดสลีกา นัดปิดซีซั่นกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายนนี้  นอกจากนี้ ซอร์ค ยังแจงว่า ดอร์ทมุนด์ มีแผนการที่จะต่อสัญญาให้กับ โจวานนี่ เรย์น่า กองกลางดาวรุ่งชาวอเมริกัน ด้วย โดยปัจจุบัน ดาวเตะวัย 17 ปี เหลือสัญญากับทีมถึงสิ้งเดือนมิถุนายนปี 2021

 "ทั้ง ลูเซียง และผมต่างมองตรงกันในเรื่องของ จิโอ เราเชื่อว่า เขามีอนาคตที่สดใสรออยู่" ซอร์ค กล่าว "ตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงการเจรจากับเขา เมื่อเขาอายุครบ 18 ปี เราก็ต้องการทำให้เขาอยู่กับทีมให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราต้องการให้ความสำเร็จตรงนี้อยู่กับทีมยาวๆ"

     ทั้งนี้ เรย์น่า เพิ่งได้สตาร์ทเป็นตัวจริงในเกม บุนเดสลีกา ครั้งแรก ในเกมที่ ดอร์ทมุนด์ บุกไปสอย แอร์เบ ไลป์ซิก 2-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวเป็นคนแอสซิสต์ให้ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ ทำประตูขึ้นนำ 1-0 ด้วย 

แฉ! "ติอาโก้" ขอมอยส์เซ็นซบแมนยูแต่โดนปฏิเสธ

สื่อเมืองผู้ดี รายงาน ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลด์ชาวสแปนิช เคยพยายามขอให้ เดวิด มอยส์ ที่คุมทัพแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลานั้น เซ็นสัญญาไปร่วมทีม แต่สุดท้ายเจ้าตัวต้องอกหัก เพราะกุนซือเลือดวิสกี้ไม่อยากได้นักเตะแบบเขา สุดท้ายก็ต้องเซ็นสัญญากับ บาเยิร์น มิวนิค

ติอาโก้ อัลกันตาร่า กองกลางทีมชาติสเปน พยายามที่จะขอให้ เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมชาวสกอตติช กระชากตัวไปร่วมทีมช่วงที่เขาคุมทัพแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนที่ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค จะคว้าตัวไปเสริมแกร่ง จากการเปิดเผยของ เดอะ ซัน สื่อดังในอังกฤษ

               มิดฟิลด์พรสวรรค์ วัย 29 ปี ก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ของ บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2009 และตัดสินใจแยกทางกับสโมสรในปี 2013 โดยในปีนั้น เปเร่ ซึ่งเป็นพี่ชายของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำหน้าที่เป็นเอเยนต์ของ ติอาโก้ พยายามที่จะนำเขาย้ายไปอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ในเวลานั้น มอยส์ กุมบังเหียน

               อย่างไรก็ตาม มอยส์ ปฏิเสธที่จะคว้าตัว ติอาโก้ ไปร่วมสังกัด โดยมีรายงานว่า กุนซือเลือดวิสกี้ ไม่ต้องการนักเตะแบบเขา ขณะเดียวกันในช่วงที่เดินทางไป มิวนิค เพื่อเซ็นสัญญากับ บาเยิร์น ตอนนั้น ติอาโก้ ยังปรารถนาที่จะสวมชุด "ปีศาจแดง" โดยเขาได้ขอให้เอเยนต์โทรติดต่อกับทาง แมนฯ ยูไนเต็ด อีกครั้ง

               สุดท้ายคำตอบจาก มอยส์ ยังคงเหมือนเดิม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ กองกลางเลือดกระทิงดุ ตัดสินใจเซ็นสัญญาไปค้าแข้งกับยอดทีมแห่งแคว้นบาวาเรีย และจากวันนั้นจนถึงวันนี้นักเตะลงเล่นให้กับทีมไปแล้ว 230 เกมยิงได้ 31 ประตูกับ 37 แอสซิสต์ในทุกรายการ

               ทั้งนี้ ติอาโก้ มีข่าวว่าเตรียมที่จะโบกมือลาถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า หลังจากที่เขาปัดที่จะขยายสัญญาฉบับใหม่กับแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี ฤดูกาลปัจจุบัน และคาดหวังที่จะได้ย้ายไปเล่นในอังกฤษ โดยมีรายงานว่า "หงส์แดง"ลิเวอร์พูล เป็นทีมเต็งที่จะได้ตัวไปใช้บริการ

โรดริเกซโขกชัย! เบิร์นลีย์เฉือนวัตฟอร์ด-ปล่อยแตนห่างโซนแดงแต้มเดียว

เจย์ โรดริเกซ พยายามทำประตูหลายครั้งจนกระทั่งมาโขกประตูช่วงเกือบท้ายเกมกลายเป็นประตูชัยให้ เบิร์นลีย์ เฉือนชนะ วัตฟอร์ด 1-0 แซง เอฟเวอร์ตัน ขึ้นมารั้งอันดับ 11 ขณะที่ “แตนอาละวาด” ยังต้องหนีตกชั้นต่อหลังมีแต้มห่างโซนแดงแต้มเดียวในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน 2563

สนาม เทิร์ฟ มัวร์

    เบิร์นลีย์ ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 12 กลับมารีสตาร์ทด้วยฟอร์มสุดบู่หลังเจอ แมนฯซิตี้ กระซวกถึง 5-0 แต่ลูกทีมของ ฌอน ไดช์ ค่อนข้างลอยตัวจากการตกชั้นแล้ว โดยเกมนี้พวกเขาต้อนรับการมาเยือนของ วัตฟอร์ด ทีมซึ่งกำลังลุ้นหนีตกชั้นในอันดับที่ 16 ด้วยแต้มที่ห่างโซนแดงแค่คะแนนเดียว 

    เจ้าบ้านเบิร์นลีย์ ยังคงไร้สองกองหน้าตัวเก่งอย่าง คริส วู้ด และ แอชลี่ย์ บาร์นส์ ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่ยังมี เจย์ โรดริเกซ กับ มาเตจ์ วีดร้า ลงสนามต่อเนื่องจากเกมที่แล้ว ส่วน “แตนอาละวาด” ส่ง แดนนี่ เวลเบ็ค และทรอย ดีนี่ย์ มาล่าตาข่าย

    เริ่มเกมมาแค่ 6 นาที เบิร์นลีย์ มีโอกาสทักทายก่อนจาก จอช บราวน์ฮิลล์ โยนบอลยาวให้ เจย์ โรดริเกซ หลุดเข้าเขตโทษทางฝั่งขวาก่อนวอลเลย์ตามน้ำแต่ติดเซฟของ ฟอสเตอร์ 

    วัตฟอร์ด รอดจากการเสียประตูแบบเหลือเชื่อในนาทีที่ 21 เมื่อเบิร์นลีย์ใช้บอลยาวขึ้นแดนหน้าให้ มาเตจ์ วีดร้า วิ่งมาเอาบอลด้านซ้ายของเขตโทษและตวัดบอลข้ามหัวของ ฟอสเตอร์ ที่วิ่งออกมาจากประตูแต่บอลดันไปชนเสาซ้ายอย่างจังแถมกระเด้งมาเข้าทางของ โรดริเกซ ได้วอลเลย์ซ้ำแต่ เคร็ก ดอว์สัน เคลียร์บอลจากเส้นประตู ก่อน บราวน์ฮิลล์ จะซ้ำรอบอีกรอบทว่าบอลหลุดกรอบออกไป พร้อมจบครึ่งแรกยังคงเสมอกัน 0-0

    ครึ่งหลังวัตฟอร์ดเกือบได้ประตูขึ้นนำนาทีที่ 67 เมื่อ อับดูลาย ดูกูเร่ ตัวสำรองของทีมเยือนเปิดเตะมุมให้ ทรอย ดีนี่ย์ ได้โขกบอลแต่ แม็คนีล เคลียร์บอลบนเส้นแบบหวุดหวิด ก่อนบอลมาเข้าทาง วิลล์ ฮิวจ์ส ได้กดเน้นๆแต่ข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

    เบิร์นลีย์ มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ในนาทีที่ 73 หลัง ดไวท์ แม็คนีล ครอสบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษให้ เจย์ โรดริเกซ โขกเต็มหัวบอลกระดอนพื้นเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

    เจ้าบ้านน่าได้ประตูปิดกล่องนาทีที่ 87 หลัง มาเตจ์ วีดร้า หลุดกับดักล้ำหน้าและพาบอลเข้าเขตโทษพร้อมโชว์สเต็ปล็อคหลอกกองหลังหนึ่งจังหวะก่อนซัดด้วยซ้ายแต่ ฟอสเตอร์ ยังเซฟเอาไว้ได้

    จบเกม เบิร์นลีย์ คว้าสามแต้มได้สำเร็จด้วยการเฉือนชนะ วัตฟอร์ด 1-0 พร้อมขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 11 ของตารางส่วน "แตนอาละวาด" ยังคงต้องหนีตกชั้นต่อหลังมีแต้มห่างจากโซนตกชั้นแค่แต้มเดียว

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เบิร์นลี่ย์ (4-4-2) : นิค โพ๊พ - แม็ทธิว โลว์ตัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เบน มี, ชาร์ลี เทย์เลอร์ - จอช บราวน์ฮิลล์, แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, แจ็ค คอร์ค, ดไวท์ แม็คนีล - เจย์ โรดริเกซ, มาเตจ์ วีดร้า 

    ผู้จัดการทีม : ฌอน ไดช์ 

วัตฟอร์ด (4-2-3-1) : เบน ฟอสเตอร์ - กิโก้ เฟเมเนีย, คริสติย็อง กาบาเซเล่, เคร็ก ดอว์สัน, อดัม มาซิน่า - เอเตียนน์ กาปู, วิลล์ ฮิวจ์ส - อิสไมล่า ซาร์, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, แดนนี่ เวลเบ็ค - ทรอย ดีนี่ย์

อินเตอร์จุก! "สคริเนียร์" ถูกแบน 3 เกม, "คอนเต้" ก็โดน

"งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ถึงกับทรุดเลยทีเดียว เพราะล่าสุด มิลาน สคริเนียร์ ปราการหลังคนสำคัญ ถูกแบนยาว 3 เกม ขณะที่กุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ โดนไป 1 เกม 

คณะกรรมการด้านระเบียบวินัยของ เลก้า เซเรีย อา ประกาศลงโทษแบน มิลาน สคริเนียร์ เซนเตอร์แบ็กตัวหลักของ อินเตอร์ มิลาน และ อันโตนิโอ คอนเต้ เฮดโค้ช "งูใหญ่" จำนวน 3 เกม และ 1 เกม ตามลำดับ หลังจากที่ทั้งสองแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในเกม กัลโช่ เซเรีย อา นัดล่าสุดที่ อินเตอร์ ทำได้แค่เปิดรัง จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า เสมอ ซาสซูโอโล่ 3-3 เมื่อวันพุธที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา

    เกมดังกล่าว สคริเนียร์ ถูกไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 90 หลังได้รับใบเหลืองที่สอง ซึ่งเจ้าตัวก็จะโดนลงโทษแบน 1 เกมโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่จากการแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลังโดนไล่ออก ทำให้เจ้าตัวถูกแบนเพิ่มอีก 2 เกม รวมเป็น 3 เกม แถมยังโดนปรับเงินอีก 10,000 ยูโร (ประมาณ 3.5 แสนบาท) ด้วย 

    ขณะที่ คอนเต้ ถูกแบน 1 เกม ทำให้เจ้าตัวอดคุมทีมข้างสนามในเกมต่อไปที่ อินเตอร์ มีคิวบุกไปเยือน ปาร์ม่า วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายนนี้ หลังจากที่เกมเมื่อวันพุธ เจ้าตัวถูกเตือนเรื่องพฤติกรรมครบโควตาเป็นหนที่ห้า 

    ปัจจุบัน อินเตอร์ รั้งอันดับสามในตารางคะแนน เซเรีย อา โดยมี 58 แต้ม จากการลงแข่ง 27 นัด ตามหลัง ยูเวนตุส ทีมจ่าฝูง 8 แต้ม

ก็องด็อกเบียยิงตัวเอง! บาเลนเซีย10คนบุกยื่นชัยให้เออิบาร์ลุ้นหนีตาย

"ไอ้ค้างคาว" บาเลนเซีย พลาดท่าแพ้ แถม จอฟเฟร่ ก็องด็อกเบีย ยิงประตูตนเอง - เหลือ 10 คน บุกปราชัยทีมท้ายตารางอย่าง เออิบาร์ ไป 0-1 ชวดโอกาสทำคะแนนทาบที่ 5 ในพื้นที่ยูโรปาลีก ส่วนเจ้าถิ่นได้สามแต้มสำคัญในภารกิจหนีตายท้ายซีซั่น ในการแข่งขันศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน คืนวันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา

สนาม : เอสตาดิโอ มูนิซิปัล เด อิปูรัว    

     ศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน คืนวันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา "ไอ้ค้างคาว" บาเลนเซีย ของโค้ช อัลเบิร์ต เซลาเดส คาดหวังลูกทีมคว้าผลการแข่งขัตามต้องการให้ได้นั้นคือชัยชนะเท่านั้น ถ้าทำได้จะขยับขึ้นทาบ เกตาเฟ่ ที่อยู่อันดับ 5 ในพื้นที่ยูโรปาลีก แมตช์ล่าสุดก็สามารถกำสามคะแนนสำเร็จ นัดนี้มีตัวชูโรง "โรดรีโก้ โมเรโน่" คอยจ้องพังตาข่ายเจ้าถิ่นจากแคว้นบาสก์ เออิบาร์ ที่สะกดคำว่าชนะไม่เป็นมา 5 เกมติดในลีก แถมสถานการณ์หนีตกชั้นสุ่มเสี่ยงอยู่พอควร ห่างโซนแดงแค่ 3 คะแนน เกมนี้ขุนพลของ โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์กุนซือเจ้าบ้านที่ถูกไล่ออกเกมก่อนทำให้ชวดยินคุมข้างสนาม  เลือกใส่ชื่อ "ฟาเบียน โอเรยาน่า" ช่วยสร้างเกมรุกลุ้นแต้มแมตช์นี้

     เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 11 กีเก้ ได้บอลจากกลางสนาม ก่อนใช้ความเร็วกระชากบอลจี้มาทาง ดาเนี่ยล วาส แบ็กซ้ายทีมเยือนตรงริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เปิดลุ้นมาปากประตูหวังให้เพื่อนร่วมทีมเข้าชาร์จ ทว่าบอลเลยเข้ามือนายด่านค้างคาวทิ้งตัวรับไว้

     เจ้าบ้านเร่งอีกนาทีที่ 13 ฟาเบียน โอเรยาน่า ลากบอลตะลุยเดี่ยวจากกลางสนามมาเกือบถึงหน้ากรอบเขตโทษ ตบบอลออกข้างให้ กีเก้ ที่สแตนบายรออยู่ด้านซ้าย จับบอลแต่งเข้าเท้าขวาแล้วปั่นโค้งแต่ว่า เยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น นายทวารบาเลนเซีย ยังรับอยู่มือ

     เออิบาร์ออกนำนาทีที่ 16 เปโดร เลออน เปิดลูกเตะมุมทางด้านขวา บอลโด่งเลี้ยวฮุบลงตรงกรอบ 6 หลามากระแทกโดนเท้า จอฟเฟร่ ก็องด็อกเบีย ที่กำลังวิ่งตามประกบผู้เล่นคู่แข่งอยู่ เข้าไปซุกก้นตาข่าย ชนิดที่นายด่านเพื่อนร่วมทีมก็ช่วยทำอะไรไม่ได้ 

     ไอ้ค้างคาวบุกบ้างนาทีที่ 21 ดาเนี่ยล วาส จ่ายบอลมาหน้ากรอบเขตโทษให้ โรดรีโก้ โมเรโน่ ผ่านบอลเข้ากลางเขตโทษ กอนซาโล่ เกเดส วิ่งหลอกหนึ่งจังหวะ บอลเลยมาเข้าทาง โฆเซ่ กาย่า ที่แอบเติมขึ้นมากดด้วยเท้าซ้ายคนเดียวโล่ง ๆ ตรงเขตโทษด้านเดียวกัน บอลพุ่งออกข้างเสาแบบน่าเสียดาย

     ทีมเยือนพลาดโอกาสนาทีที่ 28 เฟร์ราน ตอร์เรส กระชากบอลจากริมเส้นข้างสนามฝั่งขวา ลากมาถึงเขตโทษฝั่งขวาอีกเช่นกัน ก่อนตัดสินใจยิงแหวกผู้เล่นแนวรับเจ้าบ้าน แต่บอลไม่ตรงกรอบออกข้างเสาสองออกไปอีกครั้ง 

     ต่อมานาทีที่ 40 เอเลียควิม ม็องกาล่า กองหลังทีมเยือนโหม่งสกัดบอลกระเด้งมากลางสนามระยะประมาณ 25 หลา เอดู เอ๊กโปซีโต้ กองกลางเจ้าถิ่นเก็บบอลได้ป้ายต่อไปที่ ฟาเบียน โอเรยาน่า รับบอลตรงวงกลมหน้าเขตโทษ ตั้งป้อมปั่นบอลโค้งแต่ยังเข้ามือผู้รักษาประตูค้างคาวอีกหน ช่วงก่อนหมดครึ่งแรก ดาเนี่ยล ปาเรโฆ เปิดลูกเตะมุมทางซ้ายบอลเลี้ยวเกือบเสียบเสาสอง แต่นายด่านเจ้าบ้านปัดพ้นกรอบประตูได้ทัน จบ 45 นาทีแรก บาเลนเซีย ตามหลังอยู่ 0-1

     เออิบาร์เดินเครื่องนาทีที่ 52 เปโดร เลออน วางลูกเตะมุมทางด้านซ้ายบอลเลี้ยวมาตกที่ข้างเสาสอง กอนซาโล่ เอสกาลันเต้ กัปตันทีมเจ้าบ้านปรี่เบียดเกมรับไอ้ค้างคาวมาโขกบอลแต่ว่าบอลออกข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

     เจ้าถิ่นชวดทิ้งห่างนาทีที่ 56 เปโดร เลออน รับบอลทุ่มจากเพื่อนอยู่ในเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวใช้ตัวบังก่อนย่อตัวโหม่งเสยเข้ากลางเขตโทษ บอลกระดอนมาอีกฝั่งและเป็นโรเบร์ กอเรอา ฟูลแบ็กเจ้าบ้านดอดจากหน้ากรอบเขตโทษขึ้นมาซัดเต็มเท้า ทว่า โฆเซ่ กาย่า ผู้เล่นบาเลนเซียเอาตัวขวางทางบอลช่วยป้องกันประตูได้อย่างหวุดหวิด

     ถัดมานาทีที่ 60 โฆเซ่ อังเคล โกเต้ ได้ลองยิงฟรีคิกระยะ 20 หลาหน้ากรอบเขตโทษเยื้องมาด้านขวา แบ็กซ้ายเออิบาร์วางเท้าหวดโค้งข้ามกำแพงกำลังจะเข้าประตู เยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น นายทวารทีมเยือนไม่พลาดกระโดดเหินตัวปัดไว้อย่างสวยงาม

     ยังเป็นเจ้าบ้านที่มีลุ้นนาทีที่ 83 เอดู เอ๊กโปซีโต้ หยอดบอลโด่งเข้าเขตโทษทางด้านซ้าย บอลกระเด้งมาหา เซร์จี้ เอ็นริช ตัวสำรองที่ยืนหันหลังโหม่งสะบัดบอลกระดอนพื้นกำลังจะเข้าตาข่ายที่เสาสอง แต่ว่า เยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น นายทวารทีมเยือนยังโชว์เหนียวอีกครั้งเหยียดตัวผลักบอลพ้นกรอบประตู ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 89 บาเลนเซีย แย่ลงไปอีก เอเลียควิม ม็องกาล่า กองหลังทีมเยือนใช้ท่อนแขนอัดใส่ผู้เล่นเจ้าบ้าน ถูกใบเหลืองสองเป็นใบแดงตะเพิดออกจากสนาม จบเกม บาเลนเซีย บุกแพ้ เออิบาร์ 0-1 พลาดโอกาสทำคะแนนทาบที่ 5 ส่วนเจ้าบ้านมีแรงฮึดในการหนีตกชั้นท้ายซีซั่น

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เออิบาร์ (4-4-2): มาร์โก ดมิโตรวิช,โรเบร์ กอเรอา,เปาโล โอลิเวยร่า,เปโดร บีกัส,โฆเซ่ อังเคล โกเต้,เปโดร เลออน (เซบาสเตียน คริสโตโฟโร น.79),เอดู เอ๊กโปซีโต้,กอนซาโล่ เอสกาลันเต้,ฟาเบียน โอเรยาน่า,ชาร์เลส ดิอาซ (เซร์จี้ เอ็นริช น.79),กีเก้ (เซร์คีโอ อัลวาเรซ น.90+3)

บาเลนเซีย (4-4-2): เยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น,ดาเนี่ยล วาส (อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ น.62),กาเบรียล เปาลิสต้า,เอเลียควิม ม็องกาล่า,โฆเซ่ กาย่า,การ์ลอส โซเลร์ (เควิน กาเมโร่ น.46),ดาเนี่ยล ปาเรโฆ,จอฟเฟร่ ก็องด็อกเบีย,กอนซาโล่ เกเดส (เดนิส เชริเยฟ น.62),โรดรีโก้ โมเรโน่,เฟร์ราน ตอร์เรส (มักซี่ โกเมซ น.84)