ไม่งั้นอาจย้าย?ต๊อตติเผยอย่างเดียวที่เรอัลมาดริดให้ไม่ได้

ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ระบุ เรอัล มาดริด เคยประเคนทุกอย่างให้ตนเพื่อจะดึงตนไปร่วมทัพ ยกเว้นเพียงเรื่องปลอกแขนกัปตันทีมที่หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ต้องเป็นของ ราอูล กอนซาเลซ เพียงคนเดียวเท่านั้น ชี้ ราอูล ถือเป็นคนที่ มาดริด ยกให้มีความสำคัญมากๆ จนถึงขนาดที่จะไม่มีใครได้ของดีๆ จากทีมมากไปกว่า ราอูล เลย

    ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ตำนานดาวเตะของ อาแอส โรม่า สโมสรชั้นนำแห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เปิดเผยว่า เรอัล มาดริด เคยเสนอที่จะให้หลายอย่างกับตนเพื่อโน้มน้าวใจให้ตนย้ายไปเล่นกับที่นั่น ยกเว้นเพียงเรื่องตำแหน่งกัปตันทีมที่พวกเขายืนกรานว่ายังไงก็ต้องเป็น ราอูล กอนซาเลซ เท่านั้น

    ในช่วงที่ ต๊อตติ ยังเล่นอยู่นั้น เขาถือเป็นนักเตะชั้นยอดคนหนึ่งของยุค จนทำให้เขามักจะตกเป็นข่าวเรื่องการย้ายทีมอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะกับ มาดริด แต่สุดท้ายเขาก็อยู่กับ โรม่า เพียงแค่ทีมเดียวตลอดอาชีพการค้าแข้ง UFA23

    อดีตแข้งวัย 43 ปี เผยว่า "เอาเป็นว่าตอนนั้นผมมีความตั้งใจที่จะย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ได้ และตอนนั้นก็ไม่ใช่ช่วงที่ดีเท่าไหร่ของ โรม่า ด้วย แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่ (ประธาน โรม่า ในตอนนั้น ฟรานเชสโก้) เซนซี่ ยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ผมอยู่กับทีมต่อ"

    "ตอนนั้นพวกเขา (มาดริด) เสนอที่จะจ่ายเงินก้อนโตให้ผม พวกเขายินดีที่จะมอบหลายอย่างให้ผม ผมจะได้สัญญาที่มีมูลค่าราว 25 ล้านยูโร (ประมาณ 875 ล้านบาท) เลยด้วย พวกเขายินดีที่จะมอบทุกอย่างให้ผมยกเว้นตำแหน่งกัปตันทีม เพราะว่าที่นั่นมี ราอูล อยู่ ราอูล เป็นนักเตะที่ต้องได้รับผลประโยชน์ทุกอย่างมากที่สุด เขาเป็นกัปตันทีม เขาเป็นสัญลักษณ์ของ เรอัล มาดริด เขาต้องเป็นคนที่ได้รับเรื่องที่ดีที่สุดของทีม ใครก็ตามที่จะไปอยู่ที่นั่นก็ต้องได้รับผลประโยชน์ต่างๆ ที่น้อยกว่า ราอูล อยู่เสมอ"

แบบนี้ได้เหรอ?ซูเนสส์เผยพร้อมลงเล่นแม้ติดเชื้อโควิด

แกรม ซูเนสส์ อดีตยอดดาวเตะ ลิเวอร์พูล ระบุ ถ้าเกิดตนติดโควิด-19 แต่กุนซืออยากใช้งานตน ตนก็พร้อมที่จะลงสนาม โดยเชื่อว่าตอนนี้นักเตะทุกคนอยากกลับไปลงเล่นสุดๆ พร้อมบอกว่าฟุตบอลสามารถทำให้เกิดเรื่องดีๆ ได้ แต่แฟนบอลบางคนไม่พอใจกับการให้ความเห็นของเขาอย่างมาก

    แกรม ซูเนสส์ ตำนานกองกลางของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าถ้าตนเป็นนักเตะสมัยนี้ แต่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตนก็จะยังยินดีที่จะลงเล่น ถ้าหากผู้จัดการทีมอยากใช้งานตน แทงบอลเงินสด

    หลังจากที่ลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีพักการแข่งขันไปตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดมันก็มีแนวโน้มมากขึ้นว่าลีกจะกลับมาแข่งกันต่อได้ โดยตอนนี้รัฐบาลของสหราชอาณาจักรอนุญาตให้กีฬาต่างๆ กลับมาแข่งได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป

    ทั้งนี้ ในกรณีของ พรีเมียร์ลีก ยังต้องตัดสินกันอีกทีว่าจะกลับมาเตะกันตอนไหน แต่มันก็เกิดการแสดงความกังวลว่าถ้าหากกลับมาเตะกัน แล้วมีนักเตะติดเชื้อร้ายแล้วนั้น มันจะทำยังไงกันต่อ เพราะถ้าหากมีคนติดเชื้อมันก็หมายความว่านักเตะคนนั้น และคนที่ใกล้ชิดก็ต้องกักตัวเองเป็นระยะเวลาหนึ่งด้วย

    ซูเนสส์ กล่าวระหว่างทำหน้าที่กับ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นนำของเมืองผู้ดีว่า "ถ้าผมถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ และผู้จัดการทีมอยากให้ผมลงเล่นแล้วล่ะก็ ใช่ ผมก็อาจจะตัดสินใจลงเล่น คุณจะด่าผมว่าไร้ความรับผิดชอบก็ได้ แต่ถ้าตอนนี้ผมเป็นนักฟุตบอลแล้วล่ะก็ ผมก็คงอยากกลับไปลงเล่นมากๆ จนถึงขนาดอดใจรอไม่ไหวแล้ว นักฟุตบอลจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อสังคมก็จริง แต่อีกมุมหนึ่งนั้น ฟุตบอลก็สามารถทำเรื่องดีๆ ได้หลายอย่าง เอาล่ะ ถ้าจะให้ตอบคำถามขอคุณ่นะนะ ผมก็ขอตอบว่าผมอาจจะตัดสินใจลงเล่นตามคำขอถ้าเกิดผมติดเชื้อแต่รู้สึกว่าไม่ได้มีอาการป่วยอะไร แต่นั่นก็เป็นความเห็นของผมเพียงคนเดียวน่ะนะ"

    หลังจากที่ ซูเนสส์ ให้ความเห็นแบบนั้น แฟนบอลบางส่วนก็ตำหนิเขาอย่างหนัก อาทิเช่นการบอกว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยว่า แกรม ซูเนสส์ เพิ่งพูดสิ่งที่งี่่เง่าที่สุดนับตั้งแต่ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดมันเริ่มขึ้น" และ "เป็นคำพูดที่น่าขายหน้าสิ้นดี เขาไม่ได้แค่เสี่ยงทำให้สุขภาพของตัวเองแย่เท่านั้น แต่เขาเสี่ยงที่จะทำให้สุขภาพของคนอื่นแย่ไปด้วย ทั้งที่นั่นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดแท้ๆ!" เป็นต้น

บริหารทีมดี!สื่อดังชูบิ๊กเปแอสเชมีอิทธิพลต่อวงการลูกหนังมากสุด

ฟร้องซ์ ฟุตบอล สื่อของฝรั่งเศส ยกให้ นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธาน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เป็นผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดของวงการลูกหนัง หลังจากเขาบริหารทีมได้ดีจนทำให้แบรนด์ของ "เปแอสเช" ใหญ่ขึ้นเยอะ

    นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธาน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรมหาเศรษฐีแห่งเวที ลีก เอิง ฝรั่งเศส ได้รับการจัดให้เป็นผู้ที่มีอิทธิพลในวงการฟุตบอลมากที่สุด ตามการจัดอันดับของ ฟร้องซ์ ฟุตบอล สื่อแวดวงลูกหนังชื่อก้อง

    สำหรับชาร์ตนี้ของ ฟร้องซ์ ฟุตบอล นั้น พิจารณาถึงคนที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นนักเตะ, กุนซือ, ผู้บริหาร ฯลฯ โดยหนึ่งในปัจจัยหลักที่ใช้พิจารณาว่าสมควรติดชาร์ตหรือไม่คือการที่พวกเขามีผลกระทบกับแวดวงฟุตบอลมากเพียงใด

    ทั้งนี้ อัล-เคไลฟี่ ซึ่งเป็นประธานของ บีอิน มีเดีย กรุ๊ป บริษัทสื่อชื่อดังด้วยนั้น สามารถบริหาร ปารีสฯ ได้อย่างโดดเด่น นับตั้งแต่ที่เข้ามาบริหารทีมเมื่อปี 2011 โดยนอกจากการทำให้ "เปแอสเช" ได้แชมป์ในระดับประเทศมากมายก่ายกองแล้วนั้น เขายังทำให้แบรนด์ของ ปารีสฯ กลายเป็นแบรนด์ระดับนานาชาติด้วย อย่างเช่นจากเดิมที่ขายเสื้อได้เพียง 44,000 ตัวในปี 2011 มาเป็นเกิน 1 ล้านชุดในปี 2019 และการที่สมาชิกในระบบดิจิตอลเพิ่มจาก 500,000 คนในปี 2011 มาเป็นเกิน 87 ล้านคนอย่างในปัจจุบัน เป็นต้น

เกือบได้เห็นลูกยิงแบบนี้ในสีเสื้อลิเวอร์พูล!ย้อนดูประตูสุดสวยของเอสเซียง

เรียกได้ว่าแฟนบอล เชลซี เกือบจะอดได้เห็น ไมเคิ่ล เอสเซียง ในสีเสื้อของพวกเขาแล้ว หลังจากที่ดาวเตะชาวกานาออกมาเปิดเผยเองว่าสมัยอยู่กับ บาสเตีย เคยเกือบที่จะย้ายไปซบ ลิเวอร์พูล มาก่อน แต่สุดท้ายก็อยู่กับทีมเดิมต่อ เพราะมองว่ายังเร็วไปที่จะมาเล่นในอังกฤษ

    ทั้งนี้ เอสเซียง สร้างชื่อได้มากที่สุดในช่วงที่เขาค้าแข้งอยู่กับ เชลซี หลังจากที่เขามีความแข็งแกร่งชนิดที่ใครก็เบียดลงได้ยาก และยังเข้าสกัดได้ดีในระดับหนึ่งจนทำให้คู่แข่งขึ้นเกมบุกไม่ได้ แต่นอกจากเกมรับแล้วนั้น เขายังเคยฝากผลงานที่น่าประทับใจในเกมรุกเช่นกัน อย่างเช่นประตูนี้ที่ซัดสุดสวยใส่ บาร์เซโลน่า ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ลีลาตราตรึงใจ!ย้อนดูชอตเด่นปีร์โล่ฉลองวันคล้ายวันเกิด

หากถามว่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาใครคือกองกลางชาวอิตาเลียนที่เก่งที่สุดแล้วล่ะก็ เชื่อได้ว่าชื่อของ อันเดรีย ปีร์โล่ ก็คงโผล่มาเป็นลำดับแรกๆ ในใจของหลายคน หลังจากที่เขาสามารถบัญชาเกมรุกได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังเคยประสบความสำเร็จกับทั้ง เอซี มิลาน และ ยูเวนตุส มาแล้ว รวมถึงได้แชมป์ ฟุตบอลโลก กับอิตาลีด้วย

    ทั้งนี้ วันที่ 19 พฤษภาคม ถือว่าเป็นวันเกิดของ ปีร์โล่ พอดี นั่นหมายความว่าตอนนี้เขามีอายุ 41 ปีแล้ว ดังนั้นเพื่อเป็นการฉลองวันคล้ายวันเกิดของเขา วันนี้เราจึงขอเอาลีลาของเจ้าตัวสมัยอยู่กับ ยูเวนตุส มาให้แฟนๆ ได้ดูกันอีกครั้ง

ฝันที่เป็นจริงของอบราโมวิช!ย้อนดูแชมป์ชปล.8ปีก่อนของเชลซี

ว่ากันว่าหนึ่งในความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีม เชลซี คือการได้เห็นทีมของเขาชูถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สักครั้ง ซึ่งเพื่อเป้าหมายนั้น "เสี่ยหมี" ก็ทุ่มเงินกับการเสริมทัพให้ทีมอย่างเต็มที่

    หลังจากรอคอยมาเนิ่นนาน ในที่สุด อบราโมวิช ก็สมหวังในฤดูกาล 2011-12 หลังจากที่ทีมของเขาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงดวลจุดโทษ ภายหลังจบ 120 นาทีเสมอกัน 1-1 ซึ่งความสำเร็จในครั้งนั้นของ เชลซี ก็ตรงกับวันเดียวันนี้เมื่อ 8 ปีก่อนพอดี วันนี้เราลองย้อนไปดูไฮไลท์ของเกมนั้นกันดีกว่า